เริ่มแล้ว ผู้ป่วยสีเขียวโควิด-19 ดูแลตัวเองที่บ้าน ฝ่าฝืนกติกา ผิดพรบ.โรคติดต่อ

28 มิถุนายน 2564, 17:29น.


          เปิดมาตรการเพิ่มการดูแลตัวเองที่บ้าน(Home Isolation) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากการนำร่องให้ผู้ป่วยอาการสีเขียวของ รพ.ราชวิถี จำนวน 18 คน ดูแลตัวเองที่บ้านจากการติดตามผลพบว่ามี 16 คน ที่หายดีไม่มีอาการเปลี่ยนแปลงรุนแรงขึ้น มีเพียง 1 คน ที่ต้องส่งต่อ และอีก 1 คนเป็นลูกของรายที่มีอาการเปลี่ยนแปลง เลยต้องส่งต่อไปรักษาที่ รพ.พร้อมกัน



          สำหรับอัตราผู้ป่วยหนักเข้าไอซียู 1 พันคน จะมีอยู่ 30 คนยอมรับว่า หนักมาก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของเราล้ามากแล้ว เพราะฉะนั้นทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน มาตรการดูแลตัวเองที่บ้านนั้นจะดูตามจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ เช่น วันนี้ (28 มิ.ย.) กทม.มีการติดเชื้อ 1,400 คน ครึ่งหนึ่งคือผู้ป่วยอาการสีเขียว ซึ่งจะมีส่วนหนึ่งที่ไม่อยากนอนรพ. อยากอยู่บ้านมากกว่า ก็ใช้ระบบดูแลตัวเองที่บ้าน แต่ทุกคนจะต้องขึ้นทะเบียนกับ รพ.เอาไว้ เพื่อติดตามอาการ



          สำหรับผู้พักอาศัยในคอนโดมิเนียมก็จะต้องมีการพูดคุยเรื่องนี้กับทั้งนิติกรคอนโดฯ รวมถึงผู้พักอาศัยด้วย  รวมทั้งยังมีการหารือถึงมาตรการแยกดูแลผู้ป่วยในชุมชน (Community Isolation) กำลังหารือในรายละเอียดวิธีการต่างๆ ร่วมกับภาคประชาชน



          จากการติดตามการทำมาตรการรักษาตัวเองที่บ้านในต่างประเทศ พบว่ามี ร้อยละ 10ที่ยังฝ่าฝืนออกมานอกบ้าน  เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือกัน ทุกคนต้องมีจิตสำนึก และถ้าเป็นผู้ติดเชื้อที่เราให้ดูแลตัวเองที่บ้านได้ แล้วยังออกไปนอกพื้นที่ กรณีเช่นนี้ มีการคุยกันว่าถือว่า เป็นการจงในการแพร่เชื้อ สามารถเอาผิดได้ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ





          สิ่งสำคัญ คือ หมั่นสังเกตอาการตนเอง วัดอุณหภูมิทุกวัน หากมีอาการแย่ลง คือ มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ เช่น หอบ เหนื่อย ไข้สูงลอย ไม่สามารถปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ ให้รีบโทรติดต่อโรงพยาบาลที่ท่านรักษาอยู่ และเมื่อต้องเดินทางไปโรงพยาบาลให้ใช้รถยนต์ส่วนตัว ไม่ใช้รถสาธารณะ พร้อมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่เดินทาง หากมีผู้ร่วมยานพาหนะมาด้วย ให้เปิดหน้าต่างรถเพื่อเพิ่มการระบายอากาศเพื่อความปลอดภัยกับคนรอบข้าง



           สำหรับมาตรการเพิ่มการดูแลตัวเองที่บ้าน(Home Isolation)มีหลักการดังนี้



-ต้องมีอายุน้อยกว่า 60 ปี



-ไม่มีอาการ



-มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง อยู่คนเดียว หรือ มีผู้อยู่ร่วมที่พักไม่เกิน 1 คน



-ไม่มีภาวะอ้วน (ภาวะอ้วน หมายถึง ดัชนีมวลกาย>30 กก./ม.2 หรือ น้ำหนักตัว>90 กก.)



-ไม่ป่วย โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ และโรคอื่นๆ ตามดุลพินิจของแพทย์ และ



-ผู้ป่วยยินยอมแยกตัวในที่พักของตนเองอย่างเคร่งครัด



          ทั้งนี้ จะทำในผู้ป่วย 2 กลุ่ม คือผู้ติดเชื้อใหม่ และผู้ป่วยที่รักษาตัวครบ 10 วันแล้ว ไม่มีปัญหา อีก 4 วันที่เหลือ ก็ให้ไปดูแลตัวเองต่อที่บ้าน

          นอกจากนั้น ยังจะมีการแจกปรอทวัดไข้ แจกเครื่องวัดปริมาณออกซิเจนในเลือด ให้ผู้ติดเชื้อวัดผลวันละ 2 ครั้ง และรายงานผลให้แพทย์ทราบ หากแพทย์สงสัยสามารถสั่งให้ผู้ป่วยวัดใหม่ได้ เช่น สั่งให้ออกกำลังกาย ก่อนวัดปริมาณออกซิเจน ถ้าลดลง อาจจะส่งผลต่อการทำงานของปอด หรือมีอาการอื่นที่น่าสงสัยอาจจะสั่งให้รถพยาบาลมารับไปเอกซเรย์ปอดเพิ่มเติมได้ รวมทั้ง ยังมีงบประมาณสำหรับอาหาร 3 มื้อ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะจัดส่งอาหารในรูปแบบใด รวมถึงการส่งยา เช่น ฟาวิพิราเวียร์ หรือฟ้าทะลายโจร



          สำหรับข้อปฏิบัติของผู้ป่วย



1.ห้ามผู้ใดมาเยี่ยมบ้าน



2.ไม่เข้าใกล้หรือสัมผัสกับผู้สูงอายุหรือเด็กอย่างเด็ดขาด โดยรักษาระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร



3. แยกห้องพัก ของใช้ส่วนตัวกับผู้อื่น หากแยกห้องไม่ได้ควรแยกบริเวณที่นอนให้ห่างจากคนอื่นมากที่สุด และควรเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทได้ดี ไม่ควรนอนร่วมกันในห้องปิดที่ใช้เครื่องปรับอากาศ



4. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกัน ควรรับประทานในห้องของตนเอง หรือหากรับประทานอาหารด้วยกันควรแยกรับประทานของตนเองไม่รับประทานอาหารร่วมสำรับเดียวกันหรือใช้ช้อนกลางร่วมกัน และรักษาระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 2 เมตร



5. สวมหน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากผ้า ตลอดเวลาที่จะออกมาจากห้องที่พักอาศัย



6. ล้างมือด้วยสบู่หรือทำความสะอาดมือด้วยAlcohol gelทุกครั้งที่จำเป็นจะต้องสัมผัสกับผู้อื่นหรือหยิบจับของที่จะต้องใช้ร่วมกับผู้อื่น



7.แยกซักเสื้อผ้า ผ้าขนหนู และเครื่องนอน ด้วยน้ำและสบู่หรือผงซักฟอก ควรใช้ห้องน้ำแยกจากผู้อื่น หากเลี่ยงไม่ได้ ให้ใช้คนสุดท้าย ปิดฝาชักโครกก่อนกดน้ำและหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ



          ส่วนการรองรับผู้ป่วยอาการหนัก พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.สนามพลังแผ่นดิน โพสต์ข้อความนำเสนอ ในวันนี้ (28 มิ.ย.64) เวลา 17.06 น. เพียงแค่กระทรวงสาธารณสุขส่งบุคลากรมาปฏิบัติงานร่วมกับบุคลากรหลักของ ไอ ซี ยู สนาม รพ.สนามพลังแผ่นดิน ดังนี้



1] อายุรแพทย์ จำนวน 3 อัตราต่อเวร



2] อายุรแพทย์สาขาเวชบำบัดวิกฤต จำนวน 1 อัตราต่อเวร



3] พยาบาล ไอ ซี ยู จำนวน 15 อัตราต่อเวร



          หากได้รับการสนับสนุนเช่นนี้ ไอ ซี ยู สนาม รพ.สนามพลังแผ่นดิน ก็จะรับผู้ป่วยโควิด-19 อาการวิกฤตจาก รพ.ต่างๆ ที่ติดต่อผ่านศูนย์ประสานงาน กระทรวงสาธารณสุข เพิ่มขึ้นอีก 24 เตียง เป็น 48 เตียงได้ในทันที



          ทั้งนี้ รพ.สนามพลังแผ่นดิน มีค่าเวรปฏิบัติงานให้แก่กำลังพลด้วย

ข่าวทั้งหมด

X