นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์นของนิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า นิวซีแลนด์อยู่ระหว่างพิจารณายกระดับเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระดับสูง เช่น การออกมาตรการบังคับให้ประชาชนทั่วประเทศสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะและบังคับให้สแกนคิวอาร์โค้ดผลตรวจโรคโควิด-19 ในร้านอาหารและสถานบันเทิง เช่นบาร์ เพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขมีความสะดวกในการติดตามตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยง ระบุว่า หลังจัดทำรายละเอียดของแผนควบคุมโรคเสร็จแล้ว รัฐบาลจะแถลงให้สาธารณชนทราบต่อไป
ที่ผ่านมา นิวซีแลนด์ดำเนินมาตรการตรวจโรคเชิงรุกเพื่อค้นหากลุ่มเสี่ยงในกรุงเวลลิงตัน และใช้มาตรการบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะ หลังพบผู้ป่วยชาวออสเตรเลีย เดินทางมาถึงกรุงเวลลิงตันเมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่แล้ว แพร่เชื้อไปสู่คนอื่นๆด้วย
ก่อนหน้านี้ นิวซีแลนด์ สั่งระงับโครงการเดินทางไปออสเตรเลียโดยไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน หลังมีรายงานว่าออสเตรเลียพบเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา พร้อมทั้งสั่งให้ล็อกดาวน์นครซิดนีย์และอีกหลายเมือง รวมถึงเมืองดาร์วิน
ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดในวันนี้ นิวซีแลนด์พบผู้ป่วยใหม่ 10 คน เป็นผู้โดยสารจากต่างประเทศที่พักอยู่ในสถานกักกันของรัฐ ไม่พบผู้ป่วยในท้องถิ่น ในปัจจุบันนิวซีแลนด์มีผู้ป่วยสะสม 2,738 คน เสียชีวิต 27 ราย และเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลกนี้ที่พบการระบาดในอัตราที่ต่ำมาก ครั้งหลังสุดที่พบการระบาดในท้องถิ่นคือในเดือนกุมภาพันธ์
Cr: reuters,nypost