ภายหลังประชุมด่วนศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ(ศบศ.) เพื่อหามาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเศรษฐกิจภายหลังมีการประกาศปิดพื้นที่และกิจการในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดชายแดนใต้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่ารัฐบาลและกองทุนประกันสังคมได้เตรียมงบประมาณไว้แล้ว ประมาณ 7,500 ล้านบาท สำหรับกิจการใน 6 จังหวัด ได้แก่ก่อสร้าง ที่พักแรม ทั้งอำนวยการด้านอาหาร ศิลปะบันเทิง และนันทนาการ โดยรัฐบาลจะได้จ่ายเพิ่มเติมให้ลูกจ้าง ในระบบประกันสังคมจำนวน 2,000 บาท ต่อคน
ส่วนนายจ้างหรือผู้ประกอบการจะได้รับเงินช่วยเหลือ 3,000 บาท/คน ของลูกจ้างที่อยู่ในสถานประกอบการหรือบริษัทสูงสุดไม่เกิน 200 คน เป็นเวลา 1 เดือน รวมถึงกระทรวงแรงงานเข้าไปดูแลในการชดเชย50% ของค่าจ้าง รวมทั้งการดูในเรื่องอาหารด้วย โดยเฉพาะจะพิจารณานำอาหารจากร้านผู้ประกอบการรายย่อยเข้าไปช่วยสนับสนุนจัดส่งให้กับแคมป์คนงานที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งจะสามารถช่วยสร้างรายได้ ผู้ประกอบการร้านอาหารได้อีกทางหนึ่ง มาตรการดูแลผลกระทบดังกล่าว จะนำเข้าหารือที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้
ส่วนปัญหาแรงงานทยอยหนีกลับต่างจังหวัดได้สั่งการให้ทหาร ตำรวจและพลเรือนลงปฏิบัติหน้าที่ทันที เพื่อป้องกันการเดินทางหลับบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่หน้างานหลายคนก็ได้รับความเสี่ยงสูงเช่นเดียวกัน เชื่อว่าวันนี้ไม่มีใครอยากกลับบ้าน เพราะกลับไปก็จะจะถูกควบคุมไม่ให้ออกนอกพื้นที่ เพราะไม่มีงาน แต่หากอยู่ในการควบคุมจะมีการจ่ายค่าแรง 50% พร้อมการสนับสนุนหาอาหารการกินให้ อีกทั้งที่เป็นห่วงเป็นพิเศษคือร้านอาหารรายย่อย ซึ่งปกติคนระมัดระวังจากโควิดไม่ออกมานอกบ้านกัน ดังนั้นจึงได้ขอความร่วมมือสมาคมก่อสร้างและผู้ประกอบการร้านอาหาร ให้ประกอบอาหารส่งแคมป์คนงานต่างๆ เพื่อเป็นทางเลือกให้ร้านอาการมีรายได้ ซึ่งกทม.รับทราบไปแล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากลูกจ้างแล้วยังดูแลชดเชยนายจ้างด้วย ซึ่งจะมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกจำนวนมาก เบื้องต้นพิจารณารายหัว ซึ่งใช้เงินมหาศาลเหมือนกัน จึงต้องคิดกันยิบย่อยและต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ แต่ยืนยันว่า เงินรัฐบาลจำเป็นจัดหาเยียวยาให้อยู่แล้ว ซึ่งวันนี้ขอจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากประกาศตรงนี้ก่อน และจะพิจารณาในพื้นที่อื่นให้ต่อไปด้วย โดยย้ำอีกว่า แรงงานที่หยุดงานสำนักงานประกันสังคมจ่าย50 % กรณีหยุดงานสุดวิสัย แต่ต้องอยู่ในพื้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังขอประเมินสถานการณ์ กรณีเปิดนั่งกินอาหารในร้าน จะพิจารณาทุก ๆ 15 วัน หากเดินทางจะเสนอให้ ศบค.พิจารณา พร้อมย้ำว่า รัฐบาลรับรู้ความเดือนร้อนของประชาชน
ส่วนการประเมินจากผู้ติดเชื้อในขณะนี้ คาดว่าตัวเลขจะเบาบางลงไปได้ในช่วงใด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตัวเลขที่ขึ้นต้องยอมรับในหลักการด้วยว่า ถ้าไม่ค้นหาเชิงรุกก็ไม่ขึ้น เพราะบางคนติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ เมื่อตรวจเชิงรุกต้องยอมรับตัวเลขเพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องมองว่าตัวเลขรักษาหายรายวันเท่าไหร่ และเราต้องปรับอยู่ตลอดเวลาไม่ได้ทำงานรายวัน แต่ต้องดูเป็นระบบและประกอบด้วยหลายส่วน ถ้าคิดคนเดียวอาจถูก แต่บางครั้งทำไม่ได้จึงต้องเห็นใจ
ส่วนการเดินหน้าโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ยังดำเนินต่อไป เช่นเดียวกับการแก้ปัญหาเตียงไม่เพียงพอ โดยวันนี้เร่งเพิ่มเตียงผู้ป่วยสีแดง และหากไม่พอก็ต้องกระจายไปต่างจังหวัด เพื่อเคลื่อนย้ายคนป่วยไปที่อื่นๆ โดยได้สั่งการให้มีการขยายรับผู้ป่วยให้มากขึ้น เพราะนอกจากมีสถานที่และเครื่องมือแล้วต้องมีบุคลากรทางการแพทย์ โดยจะมีการให้หมอที่จบใหม่เข้ามาช่วย ซึ่งทุกอย่างต้องคิดอย่างละเอียดอาจจะถูกใจบ้างหรือไม่ถูกใจบ้าง แต่เมื่อฟังทุกคนแล้วเราก็ต้องมีการปรึกษาและทำอย่างไรให้ดีที่สุด ย้ำว่า เห็นใจทุกคน หากเห็นใจซึ่งกันและกันไปได้หมด แต่ถ้าไม่เห็นใจซึ่งกันและกันมันก็ไปไม่ได้ ความขัดแย้งก็สูงขึ้น ดังนั้นการเมืองขออย่าเพิ่งก่อนวันนี้
หลังการแถลงข่าว นายกฯได้ หันมายกมือขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีพร้อมผู้ที่เกี่ยวข้องที่ พร้อมกล่าวว่า"ขอขอบคุณทุกคน ครม.ไม่ได้หลับได้นอนไม่ได้หยุดทุกวัน"