หมอศิริราช เสนอ 3 ข้อ หยุดโควิด เร่งสร้างรพ.สนาม-คุมการลอบเข้าเมือง-ฉีดวัคซีนให้ได้ 70%
ศ.คลินิก นพ.อดุลย์ รัตนวิจิตราศิลป์ รองคณบดีฝ่ายสารสนเทศคณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก บันทึกเรื่องน่ารู้ by Dr.Adune สถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19
-ปัญหาด่วนสุดอันดับ 1 เวลานี้ คือ เตียงเต็ม ไม่สามารถรับคนไข้หนักได้ เตียงสนามก็เต็ม หรือ เกือบเต็ม ศูนย์ส่งต่อ 1668 หาเตียงรับผู้ป่วยไม่ได้ คือความเสี่ยงที่ใหญ่มาก เพราะทุกๆ 1 วันที่ คนไข้ 1 คน เมื่อพบว่าติดเชื้อแล้ว มีโอกาสแพร่โรคให้คนอื่นอีก 6 คน การให้ผู้ป่วยได้รับการส่งตัวเข้า โรงพยาบาลจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ดังนั้น ภารกิจอันดับหนึ่งวันนี้ คือ ตั้งโรงพยาบาลสนามอย่างด่วน ไม่ใช่ตั้งศูนย์ฉีดวัคซีน มีโรงพยาบาลสนาม หรือ ICU สนาม อย่างน้อยก็ยังระดมบุคลากรทางการแพทย์จากส่วนต่างๆ มาช่วยประทังภาวะฉุกเฉินนี้ และ อาจจะผ่องถ่ายผู้ป่วยที่ดีขึ้นในโรงพยาบาลออกมาที่ รพ. สนาม (step down) เพื่อในโรงพยาบาลจะได้รับผู้ป่วยที่อาการหนัก
-ปัญหาด่วนอันดับ 2 คือ ต้องหยุดเชื้อ ไม่ให้แพร่ต่อคนอื่นอย่างน้อย 14 วันถ้าเลือกจะไม่ lock down เลือกที่ให้ร้านอาหารอยู่รอด เลือกที่ให้ธุรกิจขายอาหาร นวด ไปได้ ก็ต้องมีความเข้มข้นในมาตรการ ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ รักษาระยะห่าง ส่วนการกินอาหารร่วมกัน เป็นจุดเสี่ยงที่สุด ดังนั้น คนที่จะนั่งโต๊ะกินอาหารร่วมกันควรเป็นคนที่อยู่บ้านเดียวกันเท่านั้น ญาติกันคนละบ้านก็ไม่ควรมานั่งกินอาหารร่วมกัน เพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานาน ก็ไม่ควรนั่งกินอาหารร่วมกัน (ไม่งั้น อาจจะไม่ได้นั่งกินด้วยกันอีกเลย) และการหยุดเชื้อที่สำคัญมากที่สุดอีกอย่างหนึ่ง คือ ต้องไม่นำเข้าคนเข้าเมืองที่ผิดกฏหมาย ไม่ผ่านขั้นตอนมาตรฐาน (เพราะเราไม่มีโอกาสรู้เลยว่าใครมีเชื้อ หรือ เชื้อซ่อนอยู่บ้าง) เสนอให้เปิดแคมป์ รับแรงงานเข้าเมืองกักตัวตามมาตรฐานอย่างถูกกฏหมาย ไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อตัดวงจรอุบาทว์ ที่มีนายหน้าพาคนหนีเข้าเมืองด้วยวงเงิน 5,000 บาท ถึง 10,000 บาท แต่สร้างความเสียหายให้กับกรุงเทพมหานคร และ ปริมณฑล 5,000 ล้านถึง 10,000 ล้านบาท
-ปัญหาด่วนอันดับ 3 ถึงจะเป็นเรื่องวัคซีน เพราะวัคซีนที่ฉีดมาครึ่งถึง 1 ปี ในทางการแพทย์ถือว่า ข้อมูลยังไม่เพียงพอ ที่รู้แน่คือ ไม่ป่วยหนักและไม่เสียชีวิต แต่ยังติดเชื้อและแพร่เชื้อได้ ฉีดยังไงให้ได้ผลดีที่สุด ต้องรอผลการศึกษา แต่ที่แน่ๆ ทยอยฉีด ให้ครอบคลุมร้อยละ 70 ของประชากรอย่างน้อย 1-2 เข็มให้เร็วที่สุด สถานการณ์จะอยู่ในแบบที่รับมือได้
CR:ศ.คลินิก นพ.อดุลย์ รัตนวิจิตราศิลป์
สัตหีบ ตรวจเชิงรุกกลุ่มเสี่ยง 600 คน ปิดพื้นที่เสี่ยง ซ.ชายโสด กับ ซ.ธรรมวิทยา
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี ร่วมกับโรงพยาบาลสัตหีบ กม.10 และเทศบาลเมืองสัตหีบ จัดหน่วยตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก จากกลุ่มเป้าหมายหลักคือพ่อค้าแม่ค้า ลูกจ้างที่ประกอบอาชีพอยู่ที่ตลาดเช้าสัตหีบและผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง มาตรวจหาเชื้อทั้งสิ้น 600 คน
ขณะที่ ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ในวันที่ 24 มิ.ย.64 พบอีก 115 คน วันนี้ พบผู้ติดเชื้ออีก 4 คน และมีการกำหนดให้ซอยชายโสดกับซอยธรรมวิทยา เป็นพื้นที่เสี่ยงจำกัดการเข้าออกตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย.64 พ่อค้าแม่ค้าในตลาดเช้าสัตหีบต้องตรวจคัดกรองโควิด-19 ฉีดวัคซีนทุกคนและห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว
ตลาดใหม่ ชลบุรี ร้างหลังถูกปิด วันนี้ พบติดเชื้ออีก 5 คน
นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี มีคำสั่งปิดตลาดใหม่ ต.บ้านโขด อ.เมืองชลบุรี ตลาดนัดใหญ่ที่สุดใน อ.เมืองชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย.-7 ก.ค.64 หลังมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก และภายหลังตลาดใหม่ชลบุรีที่เคยคึกคักไปด้วยผู้คนถูกสั่งปิด ทำให้มีสภาพเป็นตลาดร้าง ไม่มีพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้า ท่ามกลางเสียงโอดครวญของแม่ค้าในตลาดว่าอยากให้มีการผ่อนผันบางจุด เพราะพ่อค้าแม่ค้าส่วนมากฉีดวัคซีนแล้ว
ส่วนสถานการณ์วันนี้ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ว่าวันนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 183 คน พบผู้ป่วยติดเชื้อจากการตรวจเชิงรุกในพื้นที่ ตลาดใหม่ อำเภอเมืองชลบุรี 5 คน นอกจากนี้ ยังมีจุดอื่นๆ
1. แคมป์แรงงานต่างด้าว บริษัท แสตนดาร์ด เพอร์ฟอร์แม้นซ์ จํากัด ตำบลเขาคันทรง อำเภอศรีราชา 10 คน (ตรวจซ้ำครั้งที่ 2)
2. แคมป์แรงงานต่างด้าว บริษัท JWS อำเภอศรีราชา 4 คน (ตรวจซ้ำครั้งที่ 2)
3. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน (ร่วมวงสังสรรค์) 2 คน
4. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน (เชื่อมโยงตลาดใหม่) 1 คน
5. อาชีพเสี่ยงพบปะผู้คนจำนวนมาก 1 คน
6. ตรวจเฝ้าระวังกลุ่มตลาด (ตลาดเทศบาลหัวกุญแจ) 1 คน
7. จังหวัดสระแก้ว เข้ามารักษา 1 คน
8. จังหวัดระยอง เข้ามารักษา 1 คน
9. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน จังหวัดสมุทรปราการ 1 คน
10. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
11. ในครอบครัว 55 คน
12. จากสถานที่ทำงาน 25 คน
13. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน (ซึ่งอยู่ระหว่างสอบสวนโรค) 36 คน
14. อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 36 คน
วันนี้ได้รับรายงานการค้นหาผู้สัมผัสทั้งหมดจำนวน 526 คน, ค้นหาเชิงรุกเบื้องต้นจำนวน 1,437 คน, และอยู่ระหว่างการรอรับรายงานการค้นหาเชิงรุกเพิ่มเติม
CR:สำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.ชลบุรี
โคราช พบช่างซ่อมคอมฯ ติดเชื้อจากคลัสเตอร์เสิงสาง
การตรวจคัดกรองเชิงรุกบุคคลกลุ่มเสี่ยง หลังจากพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่บ้านหนองรังกา หมู่ที่ 10 ต.กุดโบสถ์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา รวม 10 คน ระหว่างวันที่ 22-23 มิ.ย.64 ล่าสุด มีรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 คน เป็นช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 10 ต.สุขไพบูลย์ อ.เสิงสาง
นายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอเสิงสาง เปิดเผยว่า กรณีพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากในอำเภอเสิงสาง เริ่มต้นมาจากการที่ผู้ติดเชื้อรายแรก ซึ่งเป็นหญิง อายุ 68 ปี ชาวบ้านหนองรังกา หมู่ที่ 10 ต.กุดโบสถ์ มีอาการป่วยและเดินทางไปตรวจรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ในเขตอำเภอเมือง และพบว่ามีการติดเชื้อโควิด-19 จากการสอบสวนในเชิงลึก คาดว่า น่าจะได้รับเชื้อมาจากลูกเขยที่เดินทางมาจากจังหวัดนนทบุรี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.64 และทำให้เกิดการสัมผัสกับเครือญาติและมีการติดเชื้อรวมทั้งหมด 10 คน ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นบุตรสาวของผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดนนทบุรี และได้เดินทางไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนภูริตา ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนภายในเขตเทศบาลตำบลเสิงสาง จนทำให้เกิดกลุ่มเสี่ยงสัมผัสสูงเพิ่มเป็นจำนวนมาก
เร่งคัดกรองกลุ่มเสี่ยง เด็กนร.รร.ภูริตา ผล10 คน ไม่มีเชื้อ
การตรวจคัดกรองที่โรงเรียนภูริตา ที่มีนักเรียนติดเชื้อ 2 คน อายุ 6 ปี และ 7 ปี สำหรับบุคคลกลุ่มเสี่ยงของโรงเรียนภูริตา เป็นเด็กนักเรียนมีทั้งหมดจำนวน 85 คน เบื้องต้นได้ตรวจหาเชื้อไปแล้ว 35 คน ผลการตรวจ 10 คนแรก ไม่พบผู้ติดเชื้อ ที่เหลืออยู่ระหว่างการรอผล
พบนร.ที่มาจากยะลา 8 คน ติดเชื้อสายพันธุ์เบตา
อาสาสมัครสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่อนามัยกองอนามัยและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองปากพูน หมู่ 9 ตำบลปากพูน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ยังปิดทางเข้าออกชุมชนมัสยิดดารุลนาฮีม หรือมัสยิดปากพูนใต้ เพื่อป้องกันการเข้าออกชุมชน โดยชุมชนนี้พบการติดเชื้อของนักเรียนจากศูนย์ฮาฟิศมัรกัสยะลา ส่งผลให้ผู้ที่อยู่ในชุมชนต้องกักตัวเองอยู่ในพื้นที่ห้ามออกจากพื้นที่ และห้ามผู้อยู่นอกชุมชนเข้ามาในพื้นที่อย่างเด็ดขาด เช่นเดียวกับมัสยิดที่ปิดการประกอบศาสนกิจทุกวันจนถึงวันนี้
มีรายงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า ได้มีการแจ้งผลการตรวจพันธุกรรมของไวรัสโควิด-19 จากตัวอย่างนักเรียนจากศูนย์ฮาฟิศมัรกัสยะลา ที่ติดเชื้อในนครศรีธรรมราชทั้ง 8 คน ได้รับผลตอบกลับมาว่าเป็นเชื้อสายพันธ์ุเบตา(แอฟริกาใต้) และได้นำตัวอย่างส่งตรวจซ้ำที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อความถูกต้องตรงกัน อย่างไรก็ตามในการพบเชื้อเบตา(แอฟริกาใต้) ในนครศรีธรรมราช ถือเป็นการพบครั้งแรกที่มาจากกลุ่มนักเรียนจากภาคใต้ตอนล่าง
สธ.นครศรีฯ เสนอกักตัว 21 วัน คนมาจาก 4 จังหวัดใต้
สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงได้ออกแนวทางให้ผู้ที่เดินทางมาจาก 4 จังหวัดภาคใต้มานครศรีธรรมราช ต้องกักตัว 21 วันเป็นอย่างน้อย เนื่องจาก พบว่าเชื้อชนิดนี้มีระยะเวลาในการฟักตัวยาวนานมากขึ้น มีการตรวจพบบางรายในวันที่ 14 หรือวันที่ 15 ของการกักตัว และเจ้าหน้าที่เร่งค้นหาผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ยะลาและ 4 จังหวัดภาคใต้ตอนล่างอย่างเร่งด่วน เนื่องจากพบว่า มีการแจ้งรายชื่อนักเรียนจากฮาฟิศมัรกัสยะลา ที่เดินทางมานครศรีธรรมราชเพียง 11 คน แต่เจ้าหน้าที่พบว่ามีเพิ่มอีก 5 คนที่เดินทางมาแต่ไม่ได้แจ้งทั้ง 16 คน กระจายอยู่ใน อ.เมือง อ.ท่าศาลา อ.พรหมคีรี และ อ.หัวไทร ซึ่งที่ อ.หัวไทร มีการแพร่ระบาดออกไป