ทันสถานการณ์โลกเวลา06.30 น.วันพุธที่ 23 มิถุนายน 2564

23 มิถุนายน 2564, 05:54น.


สายพันธุ์เดลตา ระบาดในสหรัฐฯ ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2 เท่า



          นพ.แอนโทนี ฟาวซี หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ประจำทำเนียบขาว สหรัฐฯ กล่าวว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ที่พบครั้งแรกในอินเดีย แพร่ระบาดในสหรัฐฯมากขึ้น เพิ่มขึ้นจากระดับร้อยละ 10 เมื่อราว 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตามีรูปแบบการแพร่ระบาดเหมือนกับไวรัสสายพันธุ์อัลฟาที่พบครั้งแรกในอังกฤษ โดยการระบาดได้เพิ่มขึ้น 2 เท่าในสหรัฐฯภายในเวลาทุก 2 สัปดาห์



          พญ.โรเชล วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯ เรียกร้องให้ชาวอเมริกันรีบเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เนื่องจากไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา มีแนวโน้มกลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐฯ



          ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา กำลังกลายเป็นสายพันธุ์หลักของโลก



สหรัฐฯ เจอคนที่ฉีดวัคซีนครบ 2โดส ติดเชื้อเกือบ 4,000 คน



          สำนักงานสาธารณสุขของรัฐแมสซาชูเซตส์ ในสหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว 3,791 คน จากจำนวนผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้วทั้งหมด 3,700,000 คน หรือคิดเป็นอัตราส่วนประมาณ 1 ใน 1,000



          ดร.เดวิดสัน แฮเมอร์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านโรคติดต่อจากมหาวิทยาลัยบอสตัน กล่าวว่า ผู้ป่วยติดเชื้อในกลุ่มนี้ไม่มีอาการ หรือมีอาการป่วยเล็กน้อยและเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ



          การติดเชื้อหลังจากที่ได้รับวัคซีนเป็นเรื่องที่คาดไว้แล้ว ขณะที่เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจให้ดีขึ้นว่ากลุ่มเสี่ยงคือใคร และผู้ที่ติดเชื้อหลังได้รับวัคซีนสามารถส่งผ่านเชื้อให้คนอื่นได้หรือไม่ บางกรณี ผู้ติดเชื้อจะแพร่ไวรัสในระดับที่ต่ำมากจนไม่ติดต่อคนอื่น



          ผลการศึกษาจนถึงปัจจุบันของCDC พบว่า วัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา จะมีประสิทธิภาพต้านการติดเชื้อราวร้อยละ 90 หลังจากได้รับวัคซีนโดสสุดท้าย 2 สัปดาห์ ขณะที่วัคซีนประเภทฉีดเข็มเดียวของบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน มีประสิทธิภาพป้องกันอาการป่วยปานกลางถึงรุนแรงที่ร้อยละ 72



นิวยอร์ก จุดพลุฉลองชัย! ฉีดวัคซีนถึง 70% เตรียมเปิดเมือง 1ก.ค.



          บรรยากาศที่ไทม์สแควร์ ในนครนิวยอร์ก สหรัฐฯ กลับมาคึกคักอีกครั้ง เมืองที่ไม่เคยหลับ แสงสีเสียงระดับโลก หลังจากโดนพิษโควิด-19 จนทำให้นครนิวยอร์กกลายเป็นเมืองร้าง ย้อนไปเมื่อค่ำคืนวันที่ 15 มิ.ย.64 ตามเวลาในสหรัฐฯ ทางการนิวยอร์ก จุดพลุฉลองชัยชนะที่ควบคุมสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ได้



          นิวยอร์ก เป็นหนึ่งในรัฐของสหรัฐฯที่เผชิญกับวิกฤตเชื้อโควิด-19 ระบาดอย่างรุนแรง แต่หลังจากที่ประชาชนในนิวยอร์กได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 เกินครึ่งแล้ว ทำให้นักท่องเที่ยวเริ่มแห่กลับมาเที่ยวกันอย่างล้นหลาม หลายคนเริ่มไม่ใส่หน้ากากอนามัย หลังจากทางการนิวยอร์กมีการผ่อนปรน ขณะเดียวกัน จากสถานการณ์ของโควิด-19 ในสหรัฐฯที่ดีขึ้น ทำให้ทางการสหรัฐฯกำลังจะเปิดประเทศวันที่ 1 ก.ค.64 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกแห่มาเที่ยวมากมาย



          นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ประกาศยกเลิกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 เกือบทั้งหมด หลังจากล็อกดาวน์นานถึง 15 เดือน เนื่องจาก สามารถฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้ประชาชนในวัยผู้ใหญ่ในรัฐนิวยอร์กได้อย่างน้อย 1 โดส ได้ถึงร้อยละ 70 แล้ว เป็นจำนวนผู้ได้รับวัคซีนที่จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ต้านทานโรคระบาดได้



28 มิ.ย. อิตาลี ยกเลิกสวมหน้ากากอนามัย ในที่กลางแจ้ง



          อิตาลี จะยกเลิกคำสั่งบังคับประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในที่กลางแจ้งตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.64 ยอดผู้ป่วยติดเชื้อและผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลลดลงแล้ว



          นายโรแบร์โต สเปรันซา รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอิตาลี ระบุผ่านเฟซบุ๊ก หลังจากได้รับคำแนะนำจากคณะผู้เชี่ยวชาญของรัฐบาลอิตาลีว่า ชาวอิตาลีที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สีขาว ซึ่งเป็นพื้นที่บังคับใช้มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ในระดับต่ำสุดจากทั้งหมด 4 ระดับ ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยในที่กลางแจ้งตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.64 แต่ควรพกหน้ากากอนามัยติดตัวเมื่อออกจากบ้าน เพื่อสวมในที่กลางแจ้งที่มีผู้คนหนาแน่น ประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ประเทศอื่น ๆ ในทวีปยุโรป เช่น ฝรั่งเศสและสเปน ได้ตัดสินใจยกเลิกคำสั่งบังคับสวมหน้ากากอนามัย แม้จะยังคงมีข้อวิตกกังวลเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่พบการระบาดครั้งแรกในอินเดียและแพร่เชื้อได้รวดเร็วขึ้น ทั้งนี้ อิตาลีจะยังคงใช้คำสั่งบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ภายในอาคารต่อไป



          รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากี ของอิตาลี ทยอยประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 มาตั้งแต่เดือนเม.ย.64 เช่น



-อนุญาตให้เปิดร้านอาหาร บาร์ โรงภาพยนตร์ และสถานที่ออกกำลังกาย



-อนุญาตให้ประชาชนเดินทางไปทั่วประเทศได้อย่างอิสระ



          ขณะนี้ อิตาลีฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบสองโดสให้ประชาชนร้อยละ 26 และฉีดวัคซีนโดสแรกให้ประชาชนร้อยละ 52 จากประชากรทั้งหมด 60,000,000 คน อิตาลีมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 4,250,000 คน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 127,000 ราย



ชาวแคนาดา ร่วมกิจกรรมล้นหลาม ฉีดวัคซีนมาราธอน ยาว 32 ชม.



          บุคลากรทางการแพทย์สวมหน้ากากอนามัยสีสันสดใส ขณะฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ให้กับประชาชนในกิจกรรม “แวกซ์-อะ-ธอน” (Vax-a-thon) หรือกิจกรรมฉีดวัคซีนต่อเนื่องโดยไม่หยุดพักยาว 32 ชั่วโมง



          บุคลากรทางการแพทย์ในแคนาดา สวมหน้ากากอนามัยสีสันสดใส ขณะฉีดวัคซีนให้ประชาชน ในกิจกรรม “แวกซ์-อะ-ธอน” (Vax-a-thon) หรือกิจกรรมฉีดวัคซีนต่อเนื่อง โดยไม่หยุดพักยาว 32 ชั่วโมง กิจกรรมนี้จัดขึ้นที่ศูนย์สันทนาการกิลด์ฟอร์ด ในเมืองเซอร์รีย์ รัฐบริติชโคลัมเบีย โดยมีเป้าหมายฉีดวัคซีนโดสแรกให้ประชาชน 7,000 คน ตอนนี้มีชาวแคนาดาอายุ 12 ปี ขึ้นไป ร้อยละ 20 ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และมีประชาชนที่ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อยคนละ 1 โดส เป็นจำนวนร้อยละ 75



ฝ่ายค้านสเปน เตรียมยื่นอุทธรณ์ หลังรัฐบาล อภัยโทษให้ 9แกนนำแบ่งแยกดินแดนแคว้นกาตาลุญญา



          นายกรัฐมนตรี เปโดร ซานเชซ แห่งประเทศสเปน ประกาศว่า รัฐบาลอภัยโทษให้ 9 แกนนำ ที่กำลังถูกจำคุกจากความพยายามที่ทำให้แคว้นกาตาลุญญาเป็นอิสระ เมื่อปี 2561 ขณะที่กลุ่มฝ่ายค้านไม่เห็นด้วย ยืนยันจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลเพื่อคัดค้านการอภัยโทษ เช่นเดียวกับ ชาวสเปนราวร้อยละ 60 ไม่เห็นด้วย



          นายซานเชซ แถลงผ่านทางสถานีโทรทัศน์ว่าการปล่อยตัวแกนนำทั้ง 9 คน ออกจากเรือนจำต้องใช้เวลาหลายวัน เพราะต้องให้สมเด็จพระราชาธิบดีลงพระนามคำสั่งและประกาศเป็นราชกิจจานุเบกษา และการอภัยโทษเป็นการสร้างความปรองดองระหว่างแคว้นกาตาลุญญากับดินแดนอื่นๆ ของสเปน



          ด้านนายราอูล โรเมบา อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศแคว้นกาตาลุญญา และเป็น 1 ใน 9 แกนนำที่ได้รับการอภัยโทษ ประกาศกร้าวว่าจะไม่ล้มเลิกความพยายามแยกแคว้นกาตาลุญญาเป็นอิสระ



          ย้อนกลับไปเมื่อเดือนต.ค.ปี 2561 รัฐสภาของแคว้นกาตาลุญญา ซึ่ง ส.ส.ฝ่ายสนับสนุนการแบ่งแยกดินแดนครองเสียงข้างมาก ประกาศแยกแคว้นกึ่งปกครองตนเองแห่งนี้เป็นอิสระ เพื่อขานรับกับผลการลงประชามติที่จัดขึ้นก่อนหน้านั้น แม้ศาลรัฐธรรมนูญสเปน จะประกาศให้การทำประชามติดังกล่าวเป็นเรื่องผิดกฎหมาย



          รัฐบาลสเปน ยืนยันว่า แคว้นกาตาลุญญาไม่มีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญที่จะแยกตัวเป็นอิสระ ก่อนจะบังคับใช้กฎหมายเพื่อเข้ามาบริหารแคว้นโดยตรงเป็นการชั่วคราว ทำให้นายการ์เลส ปุยจ์เดอมองต์ ผู้นำรัฐบาลแคว้นกาตาลุญญา ต้องหนีไปต่างประเทศ ส่วนแกนนำแบ่งแยกดินแดนคนอื่นๆ ถูกจับกุม



 

ข่าวทั้งหมด

X