*กองปราบ คุมจำเลยคดีหมิ่นเบื้องสูง ทำแผนรับเงินจากเจ้าของบ่อน ก่อนนำตัวไปฝากขัง*

การขยายผลหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบบ้านเอกชัย พลอยหิน หรือเอฟ ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาแอบอ้างเบื้องสูง หลอกลวงว่าจะช่วยลูกชายของนายบรรเทิง เนมีแสน อายุ 73 ปี ในข้อหายาเสพติด เป็นจำนวนเงิน 1 ล้าน 3 แสนบาท  แต่ช่วยไม่ได้ เจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจค้นบ้านของนายเอกชัยที่จ.ราชบุรี พบอาวุธปืนหลายกระบอก พร้อมตั้งข้อหาครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รองผู้บังคับการปราบปราม ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บังคับการปราบปราม ได้ควบคุมตัวนายเอกชัย มาแถลงความคืบหน้าก่อนนำตัวส่งฟ้องศาลอาญา เปิดเผยว่า จะตรวจสอบว่าปืนที่ยึดมาได้เคยมีการนำไปก่อเหตุที่ใดหรือไม่ กรณีที่นายเอกชัย มีความเชื่อมโยงกับการเปิดบ่อนนัมเบอร์วัน ในพื้นที่ย่านเหม่งจ๋าย ที่มีนายวิศิษฎ์ สัจพจน์นุกุล เป็นเจ้าของ พ.ต.อ.อัคราเดช  ระบุว่า นายเอกชัย ได้อ้างว่าจะเป็นผู้ติดต่อประสานนายทหารระดับสูง ในการอนุญาตให้เปิดบ่อน โดยเรียกเงินจากนายวิศิษฎ์ จำนวน 5ล้านบาท แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถเปิดได้ เนื่องจาก ถูกเจ้าหน้าที่ทหารตรวจค้นจับกุมก่อน ด้านนายเอกชัย เปิดเผยว่า  ส่วนตัวได้รู้จักกับ นายวิศิษฎ์ มาตั้งแต่ปี 2555 แล้ว และก็มีหนี้สินกันอยู่ 5ล้านบาท  จึงต้องการจะล้างหนี้  ประกอบกับนายวิศิษฎ์ ต้องการที่จะเปิดบ่อนจึงได้รับอาสาที่จะติดต่อนายทหารให้ เนื่องจากในขณะนั้นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เข้ามาดูความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง แต่สุดท้ายก็ถูกเข้าตรวจค้นจับกุม  และถูกสอบสวนจากพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์  อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และถูกกักตัวไว้ 59วัน ก็ได้รับการปล่อยตัวไปโดยไม่ได้ถูกดำเนินคดี ด้านนายวิศิษฎ์ เปิดเผยว่า ส่วนตัวรู้จักกับนายเอกชัย และเมื่อต้องการที่จะเปิดบ่อนจึงให้นายเอกชัยเป็นผู้ดำเนินการ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เบิดบ่อนเนื่องจากถูกเข้าตรวจค้นตรวจค้นเสียก่อน  รวมถึงก่อนหน้าที่จะเปิดบ่อนได้คำแนะนำจากเพื่อนในธุรกิจบ่อนย่านเพชรบุรี ซอย5 ว่า หากสนใจที่จะเปิดบ่อนให้ไปติดต่อกับพล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีตรองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง แต่ก็ไม่ได้มีการเข้าไปพูดคุย อย่างไรก็ตามพ.ต.อ.อัคราเดช ระบุว่าหลังจากนี้ก็จะนำตัวนายเอกชัย ไปทำแผน ในการรับเงินจากนายวิศิษฎ์ ที่ห้างคริสตัลปาร์ค และจะนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญา ดำเนินคดีต่อไป

 วิรวินท์