ตั้งคณะกรรมการสอบเคส 'น้ำส้ม' อธิบดีกรมสรรพสามิต ย้ำเพื่อความเป็นธรรมทุกฝ่าย

          กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความระบุเจ้าหน้าที่สรรพสามิตเข้าจับกุมผู้ขายน้ำส้มจำนวน 500 ขวดและมีการเรียกค่าปรับจำนวน 12,000 บาท นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ได้สั่งการให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 15 วัน และให้เจ้าหน้าที่สรรพสามิตที่ดำเนินการจับกุมผู้ค้าน้ำส้มดังกล่าว เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ส่วนกลางแล้ว

          นายลวรณ กล่าวว่า เท่าที่สอบถามข้อเท็จจริงเบื้องต้น พบว่า เจ้าหน้าที่สรรพสามิตได้ดำเนินการจับกุมผู้ค้าน้ำส้มดังกล่าว แต่ไม่ได้มีการเรียกเงินค่าปรับจำนวน 12,000 บาทตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด โดยผู้ค้าน้ำส้มดังกล่าว มีลักษณะการผลิตและขายจำนวนมาก หรือเป็นการผลิตแบบค้าส่งนับพันขวด ซึ่งการผลิตในจำนวนมากนั้น จะต้องจดทะเบียนเสียภาษีสรรพสามิต และ ต้องขอมาตรฐานการผลิตจากองค์การอาหารและยา ซึ่งผู้ค้ารายนี้ ไม่ได้ดำเนินการ พร้อมย้ำว่า กรณีผู้ผลิตน้ำส้มขายตามตลาดทั่วไป ไม่จำเป็นต้องเข้าเกณฑ์ดังกล่าว

           ทางกรมฯได้รับแจ้งจากผู้ผลิตน้ำส้มแบบค้าส่งรายอื่นๆว่า ผู้ค้าน้ำส้มรายนี้ ไม่ได้เสียภาษีสรรพสามิต จึงแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ โดยขอให้ทำตามกฎระเบียบที่ถูกต้อง โดยไม่ได้มีการเรียกค่าปรับแต่อย่างใด

          อธิบดีกรมสรรพสามิต ยอมรับว่า การดำเนินการดังกล่าว อาจจะขัดกับความรู้สึกของประชาชนในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 จึงได้สั่งการให้การปราบปรามของเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการในลักษณะถ้อยทีถ้อยอาศัย หากการผลิตและค้าขายสินค้าที่ไม่เกี่ยวกับสิ่งเสพติดหรือสินค้าที่เป็นอบายมุข เพราะขณะนี้ ประชาชนอยู่ในภาวะเดือดร้อน จะต้องช่วยกันประคับประคองให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตนี้ไปให้ได้