โคราช กังวลเชื้อนำเข้า ผู้ป่วยหลายคนมาจาก จ.สมุทรปราการ ย้ำต้องเข้มงวด กักตัวคนจากพื้นที่เสี่ยง
คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา รายงานสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในวันนี้ 17มิ.ย.64 ว่าเพิ่มขึ้น 10 คน สิ่งที่น่าห่วงพบว่า ผู้ป่วยเป็นคนที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ทั้งกรุงเทพฯ จ.ปทุมธานี จ.สมุทรสาคร และ จ.สมุทรปราการ
จากการสอบสวนโรค พบว่า ผู้ติดเชื้อหลายคนเดินทางมาจากจ.สมุทรปราการ จากการประสานงานกับโรงพยาบาลในพื้นที่จ.สมุทรปราการ พบว่า ระบบการรักษาล้น หมอพยายามหาเตียงให้ผู้ป่วย จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เดินทางกลับมาที่นครราชสีมา ขอย้ำให้เจ้าหน้าที่ในทุกอำเภอดำเนินการประสานงานและติดตามควบคุมคนที่เดินทางมาให้กักตัวอย่างจริงจัง หากคนที่เดินทางมามีหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19 หรือการตรวจหาเชื้อมาแล้ว ขอให้นำมาด้วย
การสอบสวนโรคผู้ป่วยที่เดินทางมาจาก จ.สมุทรปราการ 3 คน เป็นผู้ป่วยรายที่ 999 1000 และรายที่ 1004 อยู่ในพื้นที่ อ.ห้วยแถลง เป็นเพื่อนสนิทกันเดินทางมาจากจ.สมุทรปราการ
-ผู้ป่วยรายที่ 999 ทำงานจัดดอกไม้ อยู่ในพื้นที่ จ. นนทบุรี และพบคนในพื้นที่ จ. ปทุมธานีด้วย เดินทางไปพักกับผู้ป่วยรายที่ 1000 มีอาการไม่สบายก่อน
-ผู้ป่วยรายที่ 1000 ทำงานอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการและมีธุรกิจอยู่ในพื้นที่ อ.โนนสูง เมื่อจะเดินทางมาดูธุรกิจ ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนจึงชวนเดินทางมาด้วยกัน
-ผู้ป่วยรายที่ 1004 เป็นเพื่อนกับผู้ป่วยทั้งสองคน ทั้งหมดรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราช
สถานการณ์โดยรวม จ.นครราชสีมา
-ผู้ติดเชื้อสะสม 1,004 คน
-รักษาหายแล้ว 912 คน
-ยังรักษาตัวอยู่ 79 คน
-เสียชีวิต 13 ราย
จ.นครราชสีมา ยังค้นหาผู้ป่วยทั้งการสอบสวนโรค การค้นหาเชิงรุก ในชุมชน แคมป์ก่อสร้าง โรงงาน ตลาด เป็นลักษณะการสุ่มตรวจ
ศบค.ห่วงโควิดระบาดข้ามจังหวัด พบแล้วหลายจังหวัด กลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่
การเดินทางข้ามพื้นที่ทำให้เกิดการระบาด วันนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 หรือ ศบค.รายงานพบการติดเชื้อเพิ่มเติม พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศบค. ระบุว่า
-กรณีคนในพื้นที่ จ.ชลบุรี เดินทางไปที่ อ.เทิง จ.เชียงราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อในพื้นที่ดังกล่าว 23 คน อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค
-กรณีคนกรุงเทพฯ เดินทางไปที่จ. พิษณุโลก ทำให้ต้องปิดโรงเรียนในพื้นที่
-การติดเชื้อในชุมชนมัรกัสหรือศูนย์ดะวะห์ จ.ยะลา ทำให้มีการติดเชื้อข้ามไปในหลายจังหวัด เนื่องจาก การเดินทางของนักเรียน ทำให้ตอนนี้พบการติดเชื้อรวม 23 คน ใน จ.สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา และ ภูเก็ต ขณะที่รอผลบางส่วน เนื่องจาก มีการเก็บตัวอย่างส่งตรวจเรียบร้อยแล้ว การติดเชื้อในพื้นที่ดังกล่าวได้รับความร่วมมืออย่างดีจากผู้ป่วย มีการเปิดเผยไทม์ไลน์ ทำให้เฝ้าระวังโรคได้เป็นอย่างดี
-การติดเชื้อข้ามโรงงาน ข้ามจังหวัด กรมควบคุมโรค นำเสนอผลการสอบสวนโรค พบว่า เกิดการระบาดในโรงงานขนาดเล็ก ที่มีหลายสาขา เนื่องจาก โรงงานจัดรถบริการรับส่ง พนักงานมีบ้านพักอยู่ในหลายจังหวัด จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการติดเชื้อข้ามพื้นที่ ขอให้สถานประกอบการ ต้องทบทวนมาตรการในการควบคุมโรค ขณะที่บริษัทซับคอนแทค รับงานต่อเนื่องและรับงานหลายโรงงาน มีการเดินทางข้ามพื้นที่ ข้ามโรงงาน เป็นสาเหตุที่ทำให้เชื้อแพร่ระบาด
ศบค.ชุดเล็ก เสนอขอให้แต่ละจังหวัดกำหนดมาตรการเข้มข้น เช่น เมื่อพบผู้ติดเชื้อ ให้สอบสวนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและให้กักตัวทันที แม้ว่าจะยังไม่เป็นผู้ป่วยก็ตาม แต่ปรากฏว่าทำไม่ได้ เพราะสถานที่อยู่กันอย่างแออัด ดังนั้นจึงขอให้แต่ละจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อจัดหาสถานที่กักตัว เพื่อควบคุมวงจรของการระบาด พร้อมทั้งขอกำลังความร่วมมือจากอาสาสมัครสาธารณสุข ศปก.ระดับอำเภอ ตำบล ต้องช่วยเหลือจังหวัดต่างๆด้วย
อย่างไรก็ตาม หากทำไม่ได้ ในการประชุมศบค.ชุดใหญ่ในวันพรุ่งนี้ จำเป็นต้องปรับเพิ่มมาตรการให้เข้มข้นมากขึ้น เช่น แคมป์คนงานก่อสร้างในพื้นที่ 50 เขต ในกรุงเทพมหานคร มีทั้งหมด 575 แคมป์ เคยขอให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตต่างๆ ลงพื้นที่ศึกษามาตรการ แต่ถ้ายังทำไม่ได้ ต้องปรับมาตรการเข้มข้น ด้วยการให้กระทรวงมหาดไทยส่งตำรวจ ทหาร ลงพื้นที่กำกับควบคุมทุกแคมป์
รองผู้ว่าฯ ปัตตานี คาดโทษ สั่งปิดรง.ที่ไม่ทำตามมาตรการ ติดเชื้อกว่า 200 คน จาก 2 คลัสเตอร์
ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใน 2 คลัสเตอร์หลักของ จ.ปัตตานียังพุ่ง รวมทั้ง 2 คลัสเตอร์พบผู้ติดเชื้อ 214 คน
-คลัสเตอร์โรงงานรอยัลฟูดส์ ในเขตอุตสาหกรรม จ.ปัตตานี วันนี้พบเพิ่มอีก 58 คน ทำให้ยอดติดเชื้อสะสม 195 คน
-คลัสเตอร์ของแพปลาที่ติดเชื้อเพิ่มอีก 4 คน ทำให้ยอดติดเชื้อสะสม 19 คน
ด้านร้อยตรีตระกูล โทธรรม รองผู้ว่าราชการ จ.ปัตตานี คาดโทษโรงงานที่ไม่ปฎิบัติตามมาตรการของจังหวัดอย่างเคร่งครัด จะสั่งปิดชั่วคราวทันที
-ยกระดับเข้ม ท่าเทียบเรือ เเละ ตลาดค้าสัตว์น้ำ ป้องกันไวรัสโควิด-19
บรรยากาศการค้าขาย ค่อนข้างเงียบเหงา พ่อค้าเเม่ค้าหลายคนบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ลูกค้าหายไปจำนวนมาก ทำให้หลายคนต้องขายขาดทุน ดีกว่าปล่อยให้สัตว์น้ำเน่าเสีย
ซีดีซี พบผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์เดลตาเพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้ป่วยใหม่
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เป็นไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่าเดลตาเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10 ของผู้ป่วยในประเทศ
เมื่อวันจันทร์ 14 มิ.ย.64 ซีดีซี ได้ออกประกาศให้สายพันธุ์เดลตา (B.1.617.2 พบครั้งแรกในอินเดีย) เป็นตัวแปรที่น่ากังวล เนื่องจากการแพร่เชื้อได้ง่ายขึ้น มีความรุนแรง และทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนหรือการรักษาลดลง เมื่อเปรียบกับตัวแปรอื่น ๆ รวมถึงสายพันธุ์อัลฟา (B.1.1.7 พบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร) ที่พบในผู้ป่วยจำนวนมากในสหรัฐฯ
ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ระบุว่า พวกเขาไม่แปลกใจที่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ แต่ขอประชาชนอย่ากังวลเนื่องจากวัคซีนที่ได้รับอนุญาตให้ใช้สหรัฐฯ คือโมเดอร์นา ไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทคและจอห์นสันแอนด์จอห์นสันมีประสิทธิภาพในการป้องกันตัวแปรนี้
ออสเตรเลีย จำกัดการใช้วัคซีนแอสตร้าฯ ในกลุ่มผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี
นายเกรก ฮันท์ รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลีย เปิดเผยว่า จะมีเพียงผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปเท่านั้นที่จะได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า หลังจากที่ได้รับรายงานผู้ที่มีอาการลิ่มเลือด หลังการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น
การให้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าไปแล้ว 3,300,000 โดส พบผู้ที่มีอาการลิ่มเลือดอุดตัน 60 ราย เสียชีวิตแล้ว 2 ราย
นายฮันท์ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายในครั้งนี้ เป็นเพราะรัฐบาลให้ความปลอดภัยเป็นลำดับแรก
เมื่อเดือนเม.ย.64 ออสเตรเลีย ขยายการให้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าในกลุ่มผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี เพื่อเร่งโครงการวัคซีน แต่การแก้ไขนี้จะไม่มีผลให้ต้องเลื่อนตารางการฉีดวัคซีน และยังคงเป้าหมายเดิมคือ ชาวออสเตรเลียทุกคนจะได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 ครั้งก่อนสิ้นปี 2564 ซึ่งนอกจากนี้แล้วเมื่อเดือนเม.ย.64 ออสเตรเลียยังสั่งซื้อวัคซีนของไฟเซอร์เพิ่มเป็น 40,000,000 โดส และโมเดอร์นา 25,000,000 โดส