เอกชน ขานรับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ฉีดวัคซีนเกือบครบ 70%
นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ต เปิดเผยว่า เห็นด้วยกับแนวทางที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) สรุปเงื่อนไขในการเปิดภูเก็ตรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเบื้องต้น ผ่านโมเดลภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่จะเริ่มในวันที่ 1 ก.ค.64 นี้ โดยกำหนดเงื่อนไขหลักๆ คือ
-ต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาต้องอยู่ในภูเก็ตอย่างน้อย 14 วัน
-ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซ้ำ 3 ครั้ง ได้แก่ วันแรกที่มาถึงไทย, วันที่ 6 และวันที่ 12 ซึ่งหากไม่พบเชื้อและอยู่ในภูเก็ตครบ 14 วันแล้ว จึงจะสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดนอกภูเก็ตได้
ขณะที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ตั้งเป้าเปิดประเทศภายใน 120 วัน โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติกับคนไทยที่ฉีดวัคซีนครบโดสสามารถเดินทางเข้ามาได้โดยไม่ต้องกักตัว ยอมรับการตัดสินใจครั้งนี้มาพร้อมความเสี่ยง
ขณะที่ สมาคมฯ ร่วมกับภาคเอกชนรวม 13 องค์กร ทำหนังสือยื่นถึงพล.อ.ประยุทธ์ ขอให้คนไทยปฏิบัติตามมาตรฐานเหมือนต่างชาติที่เดินทางเข้ามาทุกเรื่องและหากกังวลเรื่องการเดินทางออกนอกพื้นที่ก่อนครบกำหนด 14 วัน ก็อาจเป็นการกำหนดโทษปรับขึ้นมาทั้งในผู้กระทำความผิดเองและผู้รับรองให้ร่วมด้วย
ยอดจองการเดินทางเข้ามาในช่วงไตรมาส 4/2564 หรือตั้งแต่เดือนต.ค.64 เป็นต้นไป เที่ยวบินปฐมฤกษ์ เที่ยวบินจากสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เดินทางเข้ามาในวันที่ 1 ก.ค.64 เวลา 17.00 น.และในวันที่ 2 ก.ค. 64 การบินไทยเดินทางมาจากยุโรป รวมทั้งสายการบินเอมิเรตส์ สายการบินการ์ต้า แอร์เวย์ ยืนยันบินเข้าภูเก็ตแน่นอน
การฉีดวัคซีนในภูเก็ต ขณะนี้มีความพร้อมตามเป้าหมายร้อยละ 70 ของประชากร ภายในวันที่ 26 ก.ค.64 แน่นอน เพราะมีผู้ได้รับวัคซีนทั้งคนในชุมชน ผู้ประกอบการ และแรงงานในภาคการท่องเที่ยวจำนวนเกือบถึงร้อยละ 70
ภูเก็ต เตรียมรถตู้สาธารณะเชิงสุขภาพ 30 คัน รับส่งนักท่องเที่ยว
นายบัญญัติ คันธา ขนส่งจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตได้มีคำสั่งที่ 304 8/2564 แต่งตั้งคณะทำงานส่งเสริมรถโดยสารสาธารณะเชิงสุขภาพ (wellness van) เพื่อยกระดับมาตรฐานรถรับส่งนักท่องเที่ยวที่ปลอดภัย ลดการสัมผัส ระหว่างผู้ขับรถและผู้รับบริการ เพื่อป้องกันโควิด-19 และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต
คุณลักษณะของรถตู้โดยสารสาธารณะเชิงสุขภาพ wellness van กำหนดแผงกั้นระหว่างพนักงานขับรถและผู้โดยสารพร้อมการแสดงข้อมูลที่จำเป็นภายในรถเครื่องหมายประจำรถ การแต่งตั้งคณะทำงานย่อยเพื่อตรวจรับรองรถที่เข้าร่วมโครงการ และการประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของรถตู้โดยสารสาธารณะปรับปรุงรถให้มีคุณลักษณะองค์ประกอบของรถโดยสารสาธารณะเชิงสุขภาพ คาดว่า ภายในปีนี้จะมีรถตู้โดยสารสาธารณะเชิงสุขภาพให้บริการไม่ต่ำกว่า 30 คัน ผู้ที่ต้องการใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะเชิงสุขภาพ สามารถใช้บริการผ่าน App ฮัลโหลภูเก็ต เซอร์วิส
CR:สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
เตรียมเปิดโครงการ ‘ฮักไทย ฮักภูเก็ต’ 1 ก.ค.ฟื้นเที่ยวไทย
หอการค้า เดินหน้าโครงการ“ฮักไทย” (HUG THAIS) คู่ขนานกับการเตรียมเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการนี้จะเริ่มเดือน ก.ค. 64 ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายทั้งของคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติใน 3 กลุ่มสินค้า คือ อาหาร การท่องเที่ยว และสินค้าไทย ผ่านแนวคิด “ฮักกิน ฮักเที่ยว ฮักใช้” ซึ่งจะครอบคลุมทั้งการยกระดับสินค้าและบริการ ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs รวมถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจและกระตุ้นการใช้จ่าย
โดยจะเริ่มจากโครงการ “ฮักไทย ฮักภูเก็ต” ช่วงเย็นวันที่ 1 ก.ค. 64 เชิญนายกฯ เป็นประธานในพิธีเปิดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต เฟสติวัล จังหวัดภูเก็ต และใช้เป็นต้นแบบขยายผลไปทั้งประเทศ
นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร เปิดเผยว่า วันนี้ สมาคมฯและผู้ประกอบการ จะเดินทางไปทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือถึง นายกฯ เสนอให้มีมาตรการผ่อนคลายสำหรับร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มและมาตรการด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในกรุงเทพและถนนข้าวสาร ให้สอดคล้องกับโมเดลภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ได้แก่
1. ขอให้มีมาตรการผ่อนคลายสำหรับร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ที่พนักงานร้านได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว โดยขอให้บริโภคอาหารและเครื่องดื่มในร้านได้ไม่เกิน 24.00 น. และสามารถบริโภคสุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านตามเวลาที่ระบุในกฎหมายว่าด้วยการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ปัจจุบันคือไม่เกินเวลา 24.00 น. หากมีการจำกัดผู้นั่งบริโภคในร้าน ขอเสนอให้จำกัดผู้นั่งบริโภคในร้านได้ไม่เกินร้อยละ 75 จากเดิมกำหนดไม่เกินร้อยละ 25
2.ขอให้มีนโยบายเปิดกรุงเทพมหานคร โดยมีการผ่อนคลายมาตรการสำหรับนักท่องเที่ยวให้สามารถใช้บริการสถานประกอบการ โรงแรม ร้านอาหาร สปา รวมถึงกิจการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวอื่นๆในกรุงเทพมหานคร
3.ขอให้มีนโยบายให้ถนนข้าวสารเป็นพื้นที่นำร่องสถานประกอบการปลอดโควิด-19 เพื่อเป็นต้นแบบสถานประกอบการรับนักท่องเที่ยว เป็นต้นแบบฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว
4.ขอให้มีการกำหนดหลักเกณฑ์การรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในประเทศไทยอย่างชัดเจน โดยออกเป็นมติ ศบค.เพื่อให้แต่ละจังหวัด ใช้เป็นแนวทางร่วมกัน เป็นประโยชน์ในการวางระบบการเดินทางและทำให้นักท่องเที่ยวมีความเข้าใจ
ตั้งแต่ปี 63 สถานประกอบการร้านอาหารในถนนข้าวสาร ได้ดำเนินกิจการภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเป็นเวลา 1 ปีเศษแล้ว และได้รับผลกระทบโดยตรงจากรายได้หลักเป็นศูนย์ เนื่องจาก รายได้หลักของกิจการร้านอาหารในถนนข้าวสารมาจากนักท่องเที่ยวที่บริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่ร้านโดยเฉพาะการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 30-40 ของรายได้
มติ เฟด ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยปี 2023 เร็วกว่าเดิม
ผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับร้อยละ 0.00-0.25 ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด ส่งสัญญาณว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นในปี 2023 ซึ่งเร็วกว่าเดิมที่ได้ส่งสัญญาณเมื่อเดือนมี.ค.64 ว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2024 อ้างถึงแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโดยรวมในปีนี้จะเติบโตถึงร้อยละ 7
ความกังวลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของเฟด ทำให้นักลงทุน ถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ทำให้ราคาทองคำ ปิดตลาดบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน
-ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนส.ค.64 เพิ่มขึ้น 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 1,861.40 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์
การลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ
-ดาวโจนส์ ลดลง 265.66 จุด หรือร้อยละ 0.77 ปิดที่ 34,033.67 จุด
-เอสแอนด์พี ลดลง 22.89 จุด หรือร้อยละ 0.54 ปิดที่ 4,223.70 จุด
-แนสแดค ลดลง 33.17 จุด หรือร้อยละ 0.24 ปิดที่ 14,039.68 จุด
ขณะที่ คลังน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯ ลดลงเกินความคาดหมาย เนื่องจาก การส่งออก เป็นการส่งสัญญาณว่าทั่วโลกกำลังมีความต้องการใช้พลังงาน ทำให้ราคาน้ำมันขยับขึ้น 5 วันติดต่อกัน
-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนก.ค.64 เพิ่มขึ้น 3 เซนต์ ปิดที่ 72.15 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
-เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนส.ค.64 เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ ปิดที่ 74.39 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล