ผู้ว่าฯยะลา ใช้มาตรการสูงสุด ล็อกดาวน์เข้า-ออกจังหวัด งดทานอาหารที่ร้าน งดละหมาดวันศุกร์
ยะลาพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 17 คน สะสม 547 คน เสียชีวิต 5 ราย นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า จังหวัดยะลา ขอเวลา 3 สัปดาห์ เพื่อดำเนินการตามมาตรการเข้มข้น จำกัดการแพร่ระบาดในพื้นที่ ประกอบด้วย
1.งดละหมาดวันศุกร์ เป็นเวลา 3 สัปดาห์
2.งดทานอาหารในร้านอาหาร ให้ซื้อกลับบ้าน เป็นเวลา 3 สัปดาห์
3. งดการเดินทางเข้า-ออกพื้นที่จังหวัดยะลา เป็นเวลา 4 สัปดาห์
นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อกว่า 100 คน ทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ต้องเร่งค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ที่ไม่มีอาการ เพื่อนำมาตรวจหาเชื้อกว่า 3,000 คน ทั้งนี้ตามหลักเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา อัตราการเกิดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ ประมาณร้อยละ 3-5 หรือประมาณ 80-133 คน ในรอบสัปดาห์ ยอดติดเชื้ออาจทะลุถึง 700 คน หากไม่ได้ทำอะไรเลย และจะพบการเสียชีวิตเพิ่ม ในอัตราสัดส่วน 100:1 คน และผู้ที่มีอาการปานกลาง จะต้องใช้การดูแลในโรงพยาบาลอีกประมาณ 10 กว่าคน พร้อมที่จะเป็นผู้ติดเชื้ออาการหนัก เพื่อใช้เครื่องช่วยหายใจ อาจกระทบต่อโรงพยาบาล
หากปฏิบัติตามมาตราการที่ทาง สบค.จังหวัดกำหนดเข้มข้น คาดว่า ภายในสัปดาห์นี้ ผู้ติดเชื้อรายใหม่อาจจะลดลง
ขณะที่ นพ.โนรมาน อัฮหมัดมูซา แพทย์โรงพยาบาลยะลา ระบุว่า การระบาดครั้งนี้เป็นครั้งที่โรงพยาบาลต้องรับมือมากที่สุด โรงพยาบาลไม่เคยต้องปิดอาคารผู้ป่วยมากเท่านี้มาก่อน ซึ่งปัจจุบันทำการปิดไปแล้วจำนวน 4 หลังและกำลังจะปิดเพิ่มอีกเป็นหลังที่ 5 เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19
CR:สำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.ยะลา
ดีเดย์! ระดมฉีด 8 นิคมอุตสาหกรรมใหญ่ ในพท.สีแดงกว่า4 แสนคน
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า วันที่ 1 ก.ค. 64 กนอ. จะเริ่มฉีดวัคซีนให้กับแรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ขณะนี้ในนิคมอุตสาหกรรมมีแรงงานที่ต้องการวัคซีนทั้งสิ้น 677,619 คน ในจำนวนนี้เป็นแรงงานในนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่สีแดงที่มีการระบาดสูง 438,424 คน
พื้นที่สีแดงนี้ได้จัดจุดฉีดวัคซีนไว้ 8 แห่ง ได้แก่ นิคมฯอมตะซิตี้, นิคมฯบางพลี,นิคมฯมาบตาพุด, นิคมฯสมุทรสาคร, นิคมฯสินสาคร,สวนอุตสาหกรรมบางกระดี, นิคมฯ เวลโกรว์ และนิคมฯลาดกระบัง (นิคมฯนี้ได้เริ่มทยอยฉีดวัคซีนแล้ว)
ทั้ง 8 จุด คิดเป็นสัดส่วนแรงงานในนิคมอุตสาหกรรมทั้งประเทศประมาณร้อยละ 50 และมีมูลค่าการลงทุนกว่าร้อยละ 80 มีศักยภาพการฉีดได้ประมาณวันละ 8,000 คน คาดว่าจะฉีดวัคซีนได้ครบภายในเดือนส.ค.64 หลังจากนั้นจะขยายฉีดในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอีก 6 จุด เพื่อให้ครอบคลุมแรงงานในนิคมอุตสาหกรรมกว่าร้อยละ 80 ในจำนวนแรงงานในนิคมอุตสาหกรรมเหล่านี้ บางส่วนโรงงานได้จัดหาวัคซีนทางเลือกฉีดให้กับแรงงานของตัวเองแล้ว ซึ่ง กนอ.จะสำรวจเพื่อให้ได้ยอดที่แท้จริงของผู้ที่ต้องการวัคซีนและจะเร่งทยอยฉีดให้ทั่วถึงโดยเร็วที่สุด
สมุทรสาคร รอวัคซีนทางเลือก ฟื้นภาคการผลิตเต็มร้อย
นายอภิสิทธิ์ เตชะนิธิสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า โรงงานในจังหวัดสมุทรสาครบางแห่งยังมีพนักงานติดเชื้อโควิด-19 ประปราย ทำให้เวลานี้โรงงานในพื้นที่ (6,082 โรงในหลายอุตสาหกรรม) มีการใช้กำลังผลิตร้อยละ 80 ของภาพรวม นอกจากนี้ยังมีปัญหาขาดแคลนแรงงานมากกว่า 50,000 คน
เวลานี้แรงงานในพื้นที่รวมกว่า 340,000 คน ในจำนวนนี้อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมกว่า 30,000 คน ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนซึ่งต้องรอการจัดสรรจากรัฐบาล ขณะที่ สถานประกอบการในพื้นที่ส่วนหนึ่งได้จองวัคซีนทางเลือกจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ผ่านทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) จำนวน 15,000 โดส คาดว่า จะได้รับวัคซีนมาฉีดให้คนงานในเร็วๆนี้
ยอดจองซิโนฟาร์ม วันที่ 2 กว่า 3,000 องค์กร ยอดสะสม 10,011 องค์กร
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ รายงานผลสรุปจำนวนองค์กรที่ยื่นความประสงค์ขอรับวัคซีนตัวเลือก “ซิโนฟาร์ม” ระยะที่ 1 (สำหรับองค์กรและหน่วยงาน) ข้อมูลเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.64
-ยอดองค์กรเพิ่ม จำนวน 3,073 องค์กร
-ยอดจำนวนบุคคลที่องค์กรยื่นขอรับการจัดสรรเพิ่ม 478,610 คน
-ยอดองค์กรสะสม จำนวน 10,011 องค์กร
-ยอดจำนวนบุคคลที่องค์กรยื่นขอรับการจัดสรรสะสม 3,660,616 คน
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จะปิดรับการยื่นความประสงค์ขอรับวัคซีนตัวเลือก “ซิโนฟาร์ม” ระยะที่ 1 ผ่านระบบออนไลน์ในวันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน 2564 เวลา 16.00 น. สำหรับองค์กรที่ยื่นความประสงค์ผ่านระบบเข้ามาแล้ว จะไม่สามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลง”จำนวนวัคซีน”ได้ทุกกรณี
สภาหอฯ หวั่นกระทบส่งออก เร่งรับมือเต็มพิกัด
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ
เวลานี้ภาคส่งออกถือเป็นเครื่องยนต์เดียวที่ยังช่วยขับเคลื่อน
กกร.ยังคงคาดการณ์
ครม.เห็นชอบลดส่งเงินสมทบประกันสังคม ผู้ประกันตน ม.40 เหลือ 60% นาน 6 เดือน
คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบปรับลดอัตราเงินสมทบประกันสังคมของผู้ประกันตน มาตรา 40 ซึ่งเป็นแรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ เหลือร้อยละ 60 ของเงินสมทบ เป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 โดยให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมในอัตราใหม่ 3 ทางเลือกดังนี้
1. ทางเลือกที่ 1 คุ้มครองประโยชน์ทดแทน 3 กรณี จ่ายอัตราใหม่ 42 บาท/เดือน (จากเดิม 70 บาท/เดือน)
2. ทางเลือกที่ 2 คุ้มครองประโยชน์ทดแทน 4 กรณี จ่ายอัตราใหม่ 60 บาท/เดือน (จากเดิม 100 บาท/เดือน)
3. ทางเลือกที่ 3 คุ้มครองประโยชน์ทดแทน 5 กรณี จ่ายอัตราใหม่ 180 บาท/เดือน (จากเดิม 300 บาท/เดือน)
กำหนดให้ใช้อัตราเงินสมทบดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 ของเดือนถัดไปจากเดือนที่ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดอัตราเงินสมทบของบุคคลซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน ในกรณีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. ประกาศในราชกิจจานุเบกษา