ทันสถานการณ์โลกเวลา06.30 น.วันพุธที่ 16 มิถุนายน 2564

จับตา! ไบเดน –ปูติน หารือครั้งแรก ในช่วงความสัมพันธ์ตกต่ำ

          การประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ที่จะมีขึ้นที่กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ในวันนี้ ประมาณ 18.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย

          รัฐบาลประกาศใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ตรึงกำลังทหารราว 1,000 นาย และตำรวจ 900 นาย เพื่อรักษาความปลอดภัยในการประชุมครั้งนี้ นอกจากนี้ กองทัพอากาศสวิตเซอร์แลนด์ยังจับมือกับกองทัพอากาศฝรั่งเศสและอิตาลีในการส่งฝูงบินดูแลน่านฟ้าของทั้งสามประเทศ โดยมีเจ้าหน้าที่จากทั้งสหรัฐฯและรัสเซียรวม 800 คน จะเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ขณะที่ คาดว่า ผู้สื่อข่าวทั่วโลกราว 3,000 คนจะเดินทางมารายงานข่าวในครั้งนี้

         การประชุมสุดยอดในวันนี้จะเป็นการประชุมแบบพบหน้ากันเป็นครั้งแรกของผู้นำทั้งสอง มีขึ้นท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ตกต่ำระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่งมีความขัดแย้งเกี่ยวกับกรณียูเครน, ความโจมตีทางไซเบอร์, สิทธิมนุษยชน และการแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐฯ

          ทำเนียบเครมลิน แถลงว่า ผู้นำทั้งสองคนจะหารือกันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ รวมทั้งประเด็นระหว่างประเทศ รวมถึงการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และความขัดแย้งในภูมิภาคต่างๆ คาดว่า การประชุมดังกล่าวจะใช้เวลาราว 4-5 ชั่วโมง

          ภายหลังการหารือ ผู้นำทั้งสองจะแยกกันแถลงข่าวหลังการเจรจาสิ้นสุดลง โดยจะไม่มีการแถลงพร้อมกันเหมือนกับการประชุมสุดยอดระหว่างอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และประธานาธิบดีปูติน

จีน ตอบโต้ นาโต พูดเกินจริง หยุดกล่าวหาว่าจีนเป็นภัยคุกคาม

          จีน โต้กลับองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ว่าพูดเกิดจริงเกี่ยวกับทฤษฎีที่ระบุว่าจีนเป็นภัยคุกคาม ทั้งยังสร้างให้เกิดการเผชิญหน้า หลังพันธมิตรชาติตะวันตก ซึ่งเป็นสมาชิกนาโตประกาศจะทำงานร่วมกันเพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากนโยบายของจีน

          ผู้นำนาโต ประชุมกันที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ระบุว่า จีนมีพฤติกรรมที่เป็นภัยคุกคาม และพฤติกรรมของจีนท้าทายระเบียบโลกที่ยึดถือหลักกฎหมาย

          คณะผู้แทนจีนประจำสหภาพยุโรป ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้นาโต มีมุมมองที่ถูกต้องต่อพัฒนาการอันเป็นเหตุเป็นผลของจีน หยุดการขยายความเกินจริงของทฤษฎีที่ว่าจีนเป็นภัยคุกคาม และอย่าใช้ผลประโยชน์อันชอบธรรมรวมถึงสิทธิตามกฎหมายของจีนเป็นข้ออ้างเพื่อหวังผลทางการเมืองและทำให้เกิดการเผชิญหน้าขึ้น

          แถลงการณ์ของคณะผู้แทนจีน ระบุด้วยว่า ข้อกล่าวหาของนาโตเป็นการพูดจาให้ร้าย การพัฒนาโดยสันติของจีน และเป็นการตัดสินสถานการณ์ระหว่างประเทศแบบผิดๆ รวมถึงยังไม่รู้ถึงบทบาทขององค์กร ทั้งยังพยายามที่จะสร้างความคิดแบบในยุคสงครามเย็น

          จีนตอบโต้อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ก่อนหน้านี้สถานเอกอัครราชทูตจีนในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก็ออกมาตอบโต้ที่ประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ชาติ (จี7) ซึ่งจัดขึ้นที่อังกฤษว่าเล่นการเมือง หลังออกมาวิพากษ์วิจารณ์จีนเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียงและฮ่องกง

WHO เรียกร้องนานาชาติ จัดหาเงินทุน 1.6 หมื่นล้านดอลล์ สำหรับโครงการต้านโควิด-19

          องค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องให้นานาประเทศ จัดหาเงินทุนมูลค่า 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯที่ยังขาดอยู่สำหรับโครงการส่งเสริมการเข้าถึงเครื่องมือในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 (ACT) โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อเร่งการพัฒนา การผลิต และทำให้ผู้คนได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงการตรวจโรค การรักษา และการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างเท่าเทียม ซึ่งยังคงไม่ได้รับคำตอบจากกลุ่มประเทศ จี7 ที่จัดการประชุมสุดยอดครั้งที่ 47 ขึ้นในสหราชอาณาจักร

          นักระบาดวิทยาชาวแคนาดา กล่าวว่า เงินทุนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างความมั่นใจว่ากลุ่มประเทศที่มีรายได้น้อยจะได้รับเครื่องมือที่จำเป็น สำหรับการฉีดวัคซีน ตลอดจนเพื่อดำเนินการวินิจฉัยอย่างเหมาะสมและเพื่อจัดหาออกซิเจนให้กับโรงพยาบาลต่างๆ

          นายไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารของโครงการภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพของ WHO กล่าวในการบรรยายสรุปว่า แม้ที่ประชุมกลุ่มจี7 จะให้คำมั่นว่าจะจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวน 870,000,000 โดสสำหรับโครงการโคแวกซ์ (COVAX) อันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ACT แต่ปัญหาเรื่องขาดแคลนเงินทุนยังไม่ได้รับการแก้ไข

อังกฤษ ประท้วงมาตรการล็อกดาวน์ ไม่หวั่นเชื้อกลายพันธุ์

          ชาวอังกฤษประท้วงต่อต้านขยายมาตรการล็อกดาวน์ หลังจากที่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรี ประกาศชะลอการผ่อนคลายมาตรการต้านโควิด-19 ผู้ประท้วงต่อต้านการล็อกดาวน์หลายร้อยคนรวมตัวกันรอบๆ จัตุรัสรัฐสภา ในกรุงลอนดอน

          นายกรัฐมนตรีจอห์นสัน ประกาศชะลอการผ่อนคลายมาตรการต้านโควิด-19 โดยจะคงมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมไปจนถึงวันที่ 19 ก.ค.64 จากเดิมจะยุติลงในวันที่ 21 มิ.ย.64 และเตือนว่าประชาชนอีกหลายพันคนอาจเสียชีวิตจากการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสสายพันธุ์เดลตา

          อังกฤษมีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7,742 คน และเสียชีวิต 3 ราย นายจอห์นสัน บอกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 64 ต่อสัปดาห์ และจำนวนผู้ป่วยในแผนกผู้ป่วยหนักกำลังเพิ่มสูงขึ้น

ตั้งแต่ก.ค.! ญี่ปุ่น พิจารณาส่งวัคซีนแอสตร้าฯให้ไทย และอีกหลายประเทศในอาเซียน

          นายโตชิมิซึ โมเทงิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นกำลังพิจารณาบริจาควัคซีนต้านโควิด-19 เพิ่มเติมให้อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์และไทย เริ่มตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค.64 เป็นต้นไป ส่วนไต้หวันเคยได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าจากญี่ปุ่นแล้ว 1,240,000 โดส

          ขณะที่วันนี้ ญี่ปุ่นจัดส่งวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตในญี่ปุ่น 1,000,000 โดสให้เวียดนาม เพื่อช่วยเวียดนามหยุดการแพร่ระบาด เวียดนามมีประชากรทั้งประเทศ 98,000,000 คน มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 10,241 คน และเสียชีวิต 58 ราย

          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า การมอบวัคซีนให้กับประเทศอาเซียนเป็นไปตามยุทธศาสตร์ อินโดแปซิฟิกเสรีและเปิดกว้าง รวมทั้งคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและสถานการณ์การระบาดในพื้นที่

          ญี่ปุ่นได้ทำสัญญาซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 120,000,000 โดส ที่ได้รับการรับรองไปเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ยังไม่มีแผนที่จะใช้ในประเทศ เพราะยังมีข้อกังวลอีกมากจากรายงานข่าวว่า มีการเสียชีวิตในต่างประเทศด้วยอาการลิ่มเลือดอุดตัน ญี่ปุ่นจึงไม่ได้ใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าฉีดให้ประชาชน ญี่ปุ่นได้สั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์เพิ่มเติมอีก  194,000,000 โดส และโมเดิร์นนา 50,000,000 โดส เพียงพอสำหรับประชาชนในประเทศ จึงตัดสินใจส่งมอบวัคซีนส่วนที่เกินจากความต้องการให้กับประเทศอื่นๆ

          นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังให้คำมั่นว่าจะมอบเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 31,000 ล้านบาท และวัคซีน 30,000,000 โดส ให้โครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลกเพื่อจัดสรรวัคซีนให้ประเทศที่ขาดแคลน

หุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดร่วงลง กังวลตัวเลขค้าปลีก-เงินเฟ้อ

          ข้อมูลเศรษฐกิจที่ชี้ให้เห็นว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯอาจจะมีปัญหา ในช่วงที่มีการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟด

-กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกในเดือนพ.ค.64 ลดลงร้อยละ 1.3 หลังจากเมื่อเดือนเม.ย.64 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 

-กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตในเดือนพ.ค.64 ดีดตัวขึ้นร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับร้อยละ 0.6 หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 เมื่อเดือนเม.ย.64

          ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดวันอังคาร 15 มิ.ย.64 ในแดนลบ จากข้อมูลเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและยอดค้าปลีกที่ซึมเซา แม้ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มปิโตรเลียม หลังราคาน้ำมันดีดตัว

-ดาวโจนส์ ลดลง 94.42 จุด หรือร้อยละ 0.27 ปิดที่ 34,299.33 จุด

-เอสแอนด์พี ลดลง 8.56 จุด หรือร้อยละ 0.20 ปิดที่ 4,246.59 จุด

-แนสแดค ลดลง 101.29 จุด หรือร้อยละ 0.71 ปิดที่ 14,072.86 จุด

          ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในตลาดโลก เทรดเดอร์น้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก มองเห็นราคาน้ำมันน่าจะทรงตัวอยู่เหนือระดับ 70 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล

-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือน ก.ค.64 เพิ่มขึ้น 1.24 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 72.12 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล

-เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนส.ค.64 เพิ่มขึ้น 1.13 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 73.99 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล