สธ.จัดสถานีกลางบางซื่อฉีดวัคซีนให้กลุ่มสูงอายุ และ 7โรคเรื้อรังที่ถูกเลื่อนจากหมอพร้อม

15 มิถุนายน 2564, 10:41น.


          นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์   แถลงรายละเอียดการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับผู้ที่ถูกเลื่อนจากการลงทะเบียนในระบบหมอพร้อม ช่วงเดือนมิถุนายน ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป และกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง ที่จองผ่านระบบหมอพร้อมในเดือนมิถุนายนแล้วถูกเลื่อนไป 





          โดยกระทรวงสาธารณสุข กำลังทยอยส่งมอบวัคซีนที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพแล้ว ไปให้หน่วยบริการและโรงพยาบาลต่างๆ ภายในสัปดาห์นี้  ดังนั้น ผู้สูงอายุและ 7 โรคประจำตัว ที่นัดฉีดไว้กับโรงพยาบาลที่ลงทะเบียนในเดือนมิถุนายน ถ้าโรงพยาบาลไม่ได้แจ้งว่าเลื่อนฉีด  ก็ขอให้ไปฉีดที่โรงพยาบาลตามนัดได้ทันที  หากโรงพยาบาลแจ้งเลื่อนมาก่อนหน้านี้  ก่อนถึงวันนัด ขอให้สอบถามไปยังโรงพยาบาลที่ลงทะเบียนไว้อีกครั้งว่าทางโรงพยาบาลพร้อมกลับมาฉีดตามกำหนดเดิมหรือไม่ ถ้าทางโรงพยาบาลที่จองไว้มีความพร้อม ก็สามารถไปฉีดได้ตามที่นัดหมายไว้เดิมเลย เพื่อความสะดวกในการเดินทาง  แต่สำหรับบางส่วนที่โรงพยาบาลที่จองไว้ยังไม่พร้อม หรือถูกเลื่อนไปฉีดในเดือนกรกฎาคม แล้วไม่อยากรอนาน ก็สามารถติดต่อมาขอฉีดก่อนที่สถานีกลางบางซื่อได้  โดยโทรไปแจ้งที่สายด่วนหมอพร้อม 02-792-2333  ซึ่งมีประมาณ 200 คู่สาย  เจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำ และนัดหมายวันให้มารับบริการฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ  โดยจะส่ง SMS แจ้งไปยังโทรศัพท์ของผู้ต้องการฉีดวัคซีน เพื่อนำมาแสดงในวันนัดและจะเริ่มฉีดได้ในวันที่ 16 มิ.ย.



          สำหรับที่สถานีกลางบางซื่อ ได้เริ่มทดลองระบบการฉีดวัคซีนมาตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.โดยฉีดให้กับกลุ่มบุคลากรในระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง  และเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.เป็นต้นมา ก็เริ่มเปิดฉีดให้กับประชาชนทั่วไป ที่ลงทะเบียนผ่านโอเปอเรเตอร์ 4 ค่ายมือถือ  จำนวนวันละ 5,000 คน และกลุ่มองค์กรต่างๆ เช่น ครู วันละ 5,000 คน ดังนั้น ระบบการฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อถือว่ามีความพร้อมมาก โดยในครั้งนี้ พร้อมจะเป็นหน่วยสนับสนุน ในการช่วยเยียวยากลุ่มผู้สูงอายุ และ7 โรคประจำตัว ที่นัดผ่านระบบหมอพร้อมในเดือนมิถุนายนไว้แล้วถูกเลื่อน โดยจะจัดจุดบริการแบบ One Stop Service ให้บริการกับกลุ่มเปราะบาง คือ กลุ่มผู้สูงอายุ และ 7 โรคเรื้อรัง ซึ่งจะมีระบบการคัดกรองสุขภาพเช่นเดียวกัน และมีเจ้าหน้าที่บริการตามขั้นตอนต่างๆ ให้ถึงที่โดยไม่ต้องเดินไปตามจุดแบบประชาชนทั่วไป ส่วนวัคซีนที่จะใช้ฉีดนั้น นอกจากการจัดสรรจากกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ยังมีโควตาจากผู้ที่นัดกับโอเปอเรเตอร์ 4 ค่ายมือถือ แล้วไม่มาฉีด  เนื่องจากอาจจะไปฉีดในจุดอื่นแล้ว เพราะมีช่องทางลงทะเบียนหลายช่องทาง  ดังนั้นวัคซีนที่จัดไว้สำหรับกลุ่มนี้แล้วไม่มาฉีด ก็จะสามารถจัดสรรมาให้กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่ม 7 โรคเรื้อรังได้เพิ่มเติม





          นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข  เปิดเผยว่า มีผู้จองฉีดวัคซีนผ่านระบบหมอพร้อมในกรุงเทพฯ ช่วงระหว่างวันที่ 7-13 มิ.ย. มี 178,556 คน / ช่วงวันที่ 14-20 มิ.ย. มี 133,637 คน / ช่วงวันที่ 21-30  มิ.ย. 144,221  คน   รวมทั้งสิ้น 456,414 คน ซึ่งกรุงเทพมหานครได้ทยอยฉีดไปแล้ว และกำลังจะมีวัคซีนทยอยส่งมอบ ดังนั้นจึงไม่น่ามีปัญหาเรื่องวัคซีน  พร้อมย้ำว่า กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้แย่งงานกรุงเทพมหานคร แต่พยายามช่วยเหลือและสนับสนุนให้การฉีดวัคซีนเป็นไปตามเป้าหมายและแผนที่วางไว้ คือกลุ่มเปราะบางจะต้องเป็นกลุ่มที่ได้รับวัคซีนเป็นกลุ่มแรกๆ รองจากกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรด่านหน้า ที่ขณะนี้รับวัคซีนเข็มสองไปแล้วเกือบครบ 100% แต่กลุ่มเปราะบางยังได้รับวัคซีนในสัดส่วนที่น้อยมาก





          ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์  อธิบดีกรมควบคุมโรค  ระบุว่า  แผนการกระจายวัคซีนยังเป็นไปตามเดิม  คือ ในเดือน มิ.ย. จะกระจายวัคซีนไป 6,000,000 โดส ซึ่งในช่วงสัปดาห์แรก กระจายไปแล้ว 3,500,000 โดส  แบ่งเป็น แอสตร้าเซนเนก้า 2,000,000 โดส และ ซิโนแวค 1,500,000 โดส  เริ่มฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วไป ตั้งแต่ 7-14 มิ.ย. หรือประมาณ 8 วัน สามารถฉีดได้ 2,410,663 โดส เฉลี่ยวันละ 300,000 โดส ซึ่งถือว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้



          สำหรับการจัดหาวัคซีนในช่วงครึ่งหลังเดือน มิ.ย.64 จะมีวัคซีนอีกอย่างน้อย 3,000,000 โดส กระจายไปยังหน่วยบริการต่างๆ ภายในสัปดาห์นี้ และกระทรวงสาธารณสุขก็ยังพยายามจัดหาวัคซีนมาเพิ่มเติมอีกเรื่อยๆ แต่เนื่องจากโรคโควิด-19 เป็นโรคอุบัติใหม่ ความรู้เกี่ยวกับโรคและวัคซีน มีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน ดังนั้นจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนแผนเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เช่น ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบจากวัคซีนในกลุ่มบุคคลต่างๆ รวมทั้งวัคซีนที่ตรวจคุณภาพแล้ว จะทยอยส่งไปตามหน่วยบริการต่างๆ ไม่สามารถตรวจแล้วกักไว้ส่งทีเดียวได้  แต่กระทรวงสาธารณสุข ก็จะแจ้งยอดวัคซีนที่จะส่งให้เบื้องต้น ไปให้จังหวัดและหน่วยงานต่างๆ ทราบก่อน เพื่อให้บริหารจัดการแผนการกระจายวัคซีนในพื้นที่ของตัวเอง



          ส่วนกรณีมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเว้นระยะการฉีดระหว่างเข็มแรกและเข็มสอง  อธิบดีกรมการแพทย์ อธิบายว่า



-วัคซีนซิโนแวค จะมีระยะการฉีดระหว่างเข็มแรกกับเข็มสอง ประมาณ 2-4 สัปดาห์ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะนัดในห้วงเวลา 3 สัปดาห์ เพื่อให้มีความยืดหยุ่นสำหรับผู้รับการฉีด  



-วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า จะมีระยะการฉีดระหว่างเข็มแรกกับเข็มสอง 10-12 สัปดาห์  ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะนัดในห้วงเวลา 12 สัปดาห์ รวมทั้งอาจจะลดหรือเพิ่มเวลาได้ตามความเหมาะสม ซึ่งเอกสารทางวิชาการระบุไว้ว่าสามารถทำได้



         พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ และผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เพิ่มเติมว่า อยากให้ผู้ที่ลงทะเบียนหมอพร้อมเช็คที่โรงพยาบาลที่ตัวเองลงจองไว้ก่อน เพราะบางครั้งวัคซีนอาจมาทัน โดยการย้ายมาที่สถานีกลางบางซื่อ จะต้องมี SMS ยืนยันก่อน ถึงจะเดินทางมาฉีดวัคซีนได้ สอบถามผ่านคอลเซ็นเตอร์หมอพร้อมได้ นอกจากนี้สามารถเลือกวัน-เวลา ใหม่ได้ เพราะทางระบบหมอพร้อมจะทำระบบจัดการใหม่ ประเมินว่าจะฉีดวัคซีนได้ชั่วโมงละ 200 คน



         การฉีดให้กลุ่มเสี่ยงจะให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนนั่งอยู่กับที่ พยาบาลจะบริการถึงที่ ต่อวันจะใช้พยาบาล สูงสุดกว่า 330 คน การปฏิบัติงานจริงก็เพียงกว่า 200 คน สามารถจัดฉีดวัคซีนได้มากขึ้นกว่าเดิมอีก ประชาชนสามารถมาได้ตามที่นัดได้ และไม่ต้องมาก่อนเวลามาก



         ตั้งแต่เมื่อวานนี้ 14 มิ.ย. 64 เริ่มฉีดวัคซีนให้คนที่เข้ารับวัคซีนเข็มที่สองแล้ว ขอให้มาตรงตามนัดด้วย

ข่าวทั้งหมด

X