3 หน่วยงาน คือ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข , กรุงเทพมหานคร และศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) ร่วมแถลงกรณีความสับสนในการเลื่อนฉีดวัคซีนโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้แจงรายละเอียดการจัดสรรวัคซีนว่า ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา มีวัคซีนที่เข้ามาในประเทศไทยแล้ว 8.1 ล้านโดส แบ่งเป็น
-วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า 2.1 ล้านโดส และ
-ซิโนแวค 6 ล้านโดส
ปัจจุบันมีการฉีดแล้วทั้งหมด 6,188,124 โดส (ข้อมูลถึงวันที่ 13 มิ.ย.64) โดยกรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ที่ได้รับการฉีดวัคซีนมากที่สุดจำนวน 1,716,394 โดส หรือคิดเป็นร้อยละ 27.7 ของวัคซีนที่มี
โดยในเดือนมิถุนายน มีการวางแผนกระจายวัคซีนเป็น 2 งวด จำนวน 6 ล้านโดส ครอบคลุมการฉีดในระยะ 2 สัปดาห์ คือ
1.งวดแรก ช่วงวันที่ 7-20 มิ.ย.64 กระจายวัคซีนไปประมาณ 3 ล้านโดส เป็นซิโนแวค 1 ล้านโดส และแอสตร้าเซนเนก้า 2 ล้านโดส ส่งให้กรุงเทพมหานครไปแล้ว 5 แสนโดส ประกอบด้วย วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า 3.5 แสนโดส วัคซีนของซิโนแวค 1.5 แสนโดส นอกจากนี้ยังจัดสรรให้ในส่วนของสำนักงานประกันสังคม ที่จะฉีดให้กับผู้ประกันตน ม.33 อีกจำนวน 3 แสนโดส ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพมหานคร และยังมีของกลุ่มมหาวิทยาลัย 11 แห่งของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย หรือ ทปอ. อีก 1.5 แสนโดส ก็จะฉีดในกรุงเทพมหานครเป็นหลัก
ส่วนกลุ่มที่ลงทะเบียนในระบบหมอพร้อม 76 จังหวัด จะส่งวัคซีนไป 1.1 ล้านโดส , จุดฉีดต่างๆ สำหรับองค์กรของภาครัฐ เช่น กลุ่มขนส่งสาธารณะ กลุ่มทหารตำรวจและอสม.ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันควบคุมโรค และครู อีก 1 แสนโดส รวมทั้งจัดสรรไว้รองรับสถานการณ์การระบาดฉุกเฉินทั่วประเทศ
2.งวดที่ 2 ต้องกระจายไปอย่างช้าที่สุด 21 มิ.ย-2 ก.ค.อีก 3.5 ล้านโดส จะเป็นวัคซีนของซิโนแวค 2 ล้านโดส และแอสตร้าเซนเนก้า 1.5 ล้านโดส
แต่เนื่องจากธรรมชาติของการผลิตวัคซีนที่เป็นชีววัตถุ จะมีความไม่แน่นอนในการผลิตค่อนข้างสูง ดังนั้นการผลิต การตรวจสอบคุณภาพของวัคซีนจะต้องรอบคอบ เป็นไปตามมาตรฐานสากล เมื่อผลิตเสร็จแล้วต้องส่งมอบเพื่อตรวจสอบคุณภาพทันที ดังนั้นการส่งมอบวัคซีนจะทยอยส่งเป็นงวดๆ ตามที่กำหนดไว้ในสัญญา โดยขณะนี้มีวัคซีนรอตรวจสอบคุณภาพอีกหลายล้านโดส รวมทั้งที่กำลังจะทยอยส่งมอบ หลังจากสัปดาห์นี้คาดว่าจะสามารถทยอยฉีดวัคซีนได้ตามเป้าหมาย และภายในเดือนมิถุนายน จะสามารถฉีดวัคซีนได้ถึง 10 ล้านโดสตามเป้าที่ตั้งไว้
ด้าน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่า กรุงเทพมหานครได้รับการจัดสรรวัคซีน 500,000 โดส ตามที่กรมควบคุมโรคระบุไว้จริง โดยในส่วนของวัคซีนซิโนแวค นำไปจัดสรรสำหรับการฉีดเข็มที่สอง จำนวน 126,000 โดส และแบ่งไว้สำหรับรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินอีก 24,000 โดส ส่วนแอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 3.5 แสนโดส ได้จัดสรรไว้สำหรับระบบหมอพร้อมที่ลงทะเบียนไว้ 182,000 โดส , สำหรับผู้ฉีดเข็มที่สอง 52,000 โดส , ผู้ป่วยติดเตียงและคนชรา อีก 8,000 โดส และสำหรับผู้ลงทะเบียนผ่านไทยร่วมใจ 100,000 โดส
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยอมรับว่า ในตอนแรกคาดหวังว่า วัคซีนจะได้มาก่อนวันที่ 14 มิ.ย. แต่เนื่องจากอาจจะมีเหตุขัดข้องจากบริษัทผู้ผลิต กรุงเทพมหานคร จึงแก้ปัญหาด้วยการแจ้งไปยังผู้ลงทะเบียนนัดฉีดไว้ในวันที่ 15-21 มิ.ย. ประมาณ 320,000 คน แบ่งเป็นผู้ลงทะเบียนในระบบหมอพร้อม 140,000 คน และไทยร่วมใจ 170,000 คน ว่า จะหยุดฉีดวัคซีนไปก่อน และเมื่อได้รับวัคซีนมาแล้ว จะฉีดให้เร็วที่สุด โดยกลุ่มที่ถูกเลื่อนจะได้รับคิวเป็นกลุ่มแรก โดยไม่ต้องไปต่อคิวใหม่ และยังสามารถเลือกวันที่สะดวกได้ โดยประชาชนสามารถสอบถามเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนในกรุงเทพมหานคร ได้ที่สายด่วน 1516
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่า ที่ผ่านมาได้รับความช่วยเหลือจากกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานอื่นๆที่มาช่วยฉีดวัคซีนให้กับคนกลุ่มต่างๆในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากจำนวนผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีนมีจำนวนมาก เพราะเป็นเรื่องที่ยากมาก ที่กรุงเทพมหานครจะฉีดวัคซีนเองเพียงลำพังเดือนละ 2,500,000 โดส
ขณะที่พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ( ผอ.ศปก.ศบค.) ยืนยันว่า การบริหารจัดการวัคซีนไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ทุกหน่วยงานพยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อจัดหาวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชน 70 ล้านคน ตามนโยบายของรัฐบาล โดยขณะนี้ได้วางแผนเตรียมวัคซีนไว้ 100 ล้านโดส แบ่งเป็น ซิโนแวค 8 ล้านโดส , แอสตร้าเซนเนก้า 61 ล้านโดส , ไฟเซอร์ 20 ล้านโดส , จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน 5 ล้านโดส
ดังนั้นจึงยืนยันว่า จะมีวัคซีนเพียงพอและจะทยอยเข้ามา แต่เนื่องจากวัคซีนโควิด-19 จำเป็นต้องวางแผนกระจายวัคซีนไว้ล่วงหน้าก่อนที่วัคซีนจะมา จึงอาจจะทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนบ้าง จึงต้องมีการปรับแผนไปตามสถานการณ์ และอาจมีการเลื่อนฉีดวัคซีนบ้าง จึงต้องขออภัยประชาชนที่ไม่ได้รับความสะดวก