กรณีที่โรงพยาบาลหลายแห่งประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีนโควิด 19 เนื่องจากไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนจากกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ในการดำเนินงานบริหารจัดการวัคซีนกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้จัดหา โดยองค์การเภสัชกรรม และกรมควบคุมโรคเป็นผู้กระจายวัคซีนตามแผนที่ศบค. วางไว้ ได้แก่ ใน 76 จังหวัด และกทม., ประกันสังคม, อธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) 11 สถาบัน, องค์กรภาครัฐ และสำรองไว้สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินมากกว่า 200,000 โดส โดยตั้งเป้าหมายว่าก่อนเดือนกันยายน 2564 คนไทยประมาณร้อยละ 60-70 จะได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรก เพื่อให้ประชาชนเกิดภูมิคุ้มกันในเดือนตุลาคม และทำการเปิดประเทศต่อไป
สำหรับการจัดหาวัคซีนที่ผ่านมา ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม มีประสิทธิภาพ แต่ในช่วงเดือนมิถุนายนวัคซีนที่จัดหามีน้อยกว่าที่วางแผนไว้ จึงจำเป็นต้องมีการปรับแผนการบริหารจัดการในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายนนี้ โดยพยายามจัดสรรเป็นรายเดือน รายสัปดาห์ หรือสองสัปดาห์ เพื่อให้การฉีดวัคซีนเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนการจัดสรรวัคซีนในแต่ละจังหวัดขึ้นอยู่กับคณะกรรมการโรคติดต่อแต่ละจังหวัด เป็นผู้บริหารจัดการฉีดให้กับประชาชนเป้าหมายให้สอดคล้องกับช่วงเวลา และจำนวนวัคซีนที่ได้รับ เช่น ในกรุงเทพมหานคร ได้รับการจัดสรรวัคซีนกว่าล้านโดสในเดือนมิถุนายน ซึ่งต้องมีการวางแผน กำหนดเป้าหมาย รวมถึงกระจายไปยังเครือข่าย ศูนย์ฉีดวัคซีนต่างๆ และมีการกำหนดทิศทางร่วมกัน เพื่อให้เกิดการฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพต่อไป
ด้านนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ได้ดำเนินการกระจายวัคซีนตามการจัดสรรของที่ประชุม ศบค. โดยตั้งสมมติฐานว่าเดือนมิถุนายนจะได้รับวัคซีน 6,300,000 โดส แบ่งเป็นกลุ่มต่างๆ ทั้งในส่วนจังหวัด และกรุงเทพมหานคร รวมถึงกองทุนประกันสังคม มหาวิทยาลัย องค์กรภาครัฐ และสำรองสำหรับสถานการณ์การระบาดฉุกเฉิน ในจำนวนนี้ กทม. จะได้รับจำนวน 1,160,000 โดส ส่วนอีก 76 จังหวัดที่จะได้ 3,220,000 โดส ซึ่ง ศบค.ได้กำหนดข้อแม้ไว้ว่าหากวัคซีนไม่ได้รับตามเป้าจะมีการลดทอนตามสัดส่วนหรือหากเกิดการระบาดสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายเปลี่ยนแปลงจากนี้ได้
....