หน้าสถานีขนส่งหมอชิต 2 ถือว่าเป็นจุดที่มีผู้โดยสารร้องเรียนเกี่ยวกับรถโดยสารสาธารณะเข้ามามาก ทั้งแท็กซี่ รถตู้ และจักรยานยนต์รับจ้าง วันนี้ (10 มิ.ย 64) เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก จึงนำกำลังลงกวดขันตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะผิดกฎหมาย และกำชับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่บริเวณนี้
นายวิวัฒน์ วงศ์ศิริ เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน กรมการขนส่งทางบก บอกว่า จากการปฎิบัติงานในวันนี้ พบผู้ขับขี่รถแท็กซี่หลายคัน ดึงหน้ากากอนามัยลงมาไว้ใต้คาง ในช่วงที่ไม่มีผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่ต้องกำชับตักเตือนไปว่า แม้ไม่มีผู้โดยสาร ก็ควรจะสวมหน้ากากอนามัย เพราะกลุ่มคนขับแท็กซี่ ถือว่าเป็นกลุ่มอาชีพเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อ เพราะในแต่ละวันต้องพบเจอผู้โดยสารที่หลากหลาย จึงควรต้องป้องกันตัวเองอย่างเข้มข้น รวมทั้งทำความสะอาดภายในรถบ่อยๆ และแจ้งผู้โดยสารให้สวมหน้ากากอนามัยให้ถูกต้องด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบผู้ขับขี่รถแท็กซี่ไม่พกบัตรประจำตัวผู้ขับขี่ ต้องออกใบสั่งให้ไปเสียค่าปรับ อีกคันผู้ขับขี่รถแท็กซี่แต่งกายไม่ถูกต้อง สวมเสื้อยืด กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะหูคีบ แล้วอ้างว่าเพิ่งเช่ารถมาขับได้ 3 วัน แต่ในความจริงแล้ว ผู้ที่จะมาขับรถแท็กซี่ได้ จะต้องมีใบอนุญาตขับขี่รถโดยสารสาธารณะ จะต้องผ่านการอบรม ซึ่งจะมีข้อกฎหมาย กฎระเบียบที่ต้องปฎิบัติตามแจ้งให้ทราบอยู่แล้ว จะอ้างว่าไม่ทราบไม่ได้ และการแต่งกายให้ถูกต้องตามระเบียบ ก็ทำให้ผู้โดยสารมั่นใจกับมาตรฐานการให้บริการด้วย เมื่อไม่ปฎิบัติตามกฎระเบียบข้อกฎหมาย ก็ต้องมีโทษปรับ โดยข้อหาผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ แต่งกายไม่ถูกต้อง ปรับไม่เกิน 1,000 บาท ขึ้นกับดุลพินิจของเจ้าพนักงานเปรียบเทียบปรับ
เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ยังกำชับกวดขันรถตู้โดยสาร ให้เข้มงวดกับมาตรการป้องกันโรค เพราะช่วงนี้คนเริ่มกลับมาใช้บริการรถตู้มากขึ้น จึงต้องย้ำให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่บนรถ และงดเว้นการพูดคุยหรือรับประทานอาหารบนรถด้วย
ส่วนรถจักรยานยนต์รับจ้างป้ายดำ หรือวินเถื่อน เจ้าหน้าที่ก็ยังกวดขันเข้มงวด พร้อมแนะนำประชาชนงดใช้บริการวินป้ายดำเหล่านี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกโกงค่าโดยสาร