รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาว่าจะจัดส่งความช่วยเหลือด้านอาวุธเชิงป้องกันแก่กองทัพยูเครนหรือไม่ หลังจากสถานการณ์การสู้รบระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง และมาตรการคว่ำทางเศรษฐกิจไม่ได้ทำให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ยุติการสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดน โดยในรายงานการจัดส่งความเหลือยูเครน จะเป็นการส่งความช่วยเหลือด้านอาวุธ-ยุทโธปกรณ์มูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์ รวมถึงโดรนสอดแนม และขีปนาวุธต่อต้านยานยนต์หุ้มเกราะ รถฮัมวี และเรดาร์สำหรับจับพิกัดจรวดและปืนใหญ่ของศัตรู
โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนแถลงเตือนสหรัฐอเมริกา ที่แจ้งว่าประธานาธิบดีบารัก โอบามาแห่งสหรัฐ จะเข้าร่วมงานซึ่งมีองค์ดาไล ลามะผู้นำทางจิตวิญญาณทิเบตมาร่วมด้วย โดยจีนคัดค้านการที่ชาติหรือรัฐบาลใดก็ตาม นำเรื่องทิเบตเป็นข้ออ้างเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของจีน และคัดค้านผู้นำประเทศใดก็ตามพบกับองค์ดาไล ลามะซึ่งจีนหวังว่าสหรัฐจะดำเนินการอย่างเหมาะสมบนพื้นฐานของความสัมพันธ์ทวิภาคี
ทางการสวิตเซอร์แลนด์ยังคงประกาศเตือนภัยหิมะถล่มในหลายพื้นที่ โดยนับตั้งแต่สัปดาห์ก่อน มีหิมะถล่ม และทำให้มีนักสกีเสียชีวิตแล้วหลายศพ รวมถึงในพื้นที่บนเทือกเขาแอลป์ที่มีหิมะตกหนักต่อเนื่องสูงถึง 1.2 เมตร โดยเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ เหตุหิมะถล่มบนเขาพิซ วิเลน ของสวิตเซอร์แลนด์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีนักสกีเสียชีวิตอย่างน้อย 5 ศพ
ที่ไลบีเรีย มีการทดลองวัคซีนป้องกันไวรัสอีโบลาในสถานที่ไม่เปิดเผยในไลบีเรียเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ โดยมีอาสาสมัครมากถึง 30,000 คน รวมทั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ทำงานในพื้นที่เสี่ยง โดยการระบาดของไวรัสอีโบลาระลอกใหม่ในแอฟริกาตะวันตกตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 8,500 คน ติดเชื้อกว่า 21,000 คน ส่วนใหญ่อยู่ในกินี ไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน
สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานว่าดัชนีผู้จัดการจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) ลดลงเหลือระดับ 49.8 เมื่อเดือนมกราคม ซึ่งต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนกันยายน 2555 ทั้งยังต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งถือว่าติดลบ สำหรับเดือนธันวาคมปีที่แล้วนั้น ดัชนีพีเอ็มไออยู่ที่ระดับ 50.1 ซึ่งชี้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจในปัจจุบันยังอยู่ในขาลง ทั้งทำให้เกิดการคาดหมายว่าทางการจีนจะผ่อนคลายด้านนโยบายการเงินมากขึ้น เพราะจีนยังต้องการให้เศรษฐกิจขยายตัวเพื่อสร้างงานใหม่ 100 ล้านตำแหน่งในปีนี้
ส่วนคณะทำงานของสหภาพแอฟริกัน และสหประชาชาติ เปิดเผยผลการศึกษาที่พบว่า แอฟริกาต้องสูญเงินปีละไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จากพฤติกรรมทุจริต โดยเงินผิดกฎหมายซึ่งมีทั้งกรณีที่บรรษัทข้ามชาติเลี่ยงภาษี ไปจนถึงการลักลอบค้าอาวุธและแร่ เป็นอุปสรรคต่อการสร้างงาน มีบริษัทพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่โอนเงินผิดกฎหมายให้แก่ขบวนการอาชญากรรมเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบกิจการ ทำให้เศรษฐกิจของแอฟริกาเติบโตประมาณร้อยละ 5 ต่อปี ยังห่างไกลกับเศรษฐกิจประเทศขนาดใหญ่อย่างอินเดียและจีน ที่มีการเติบโตด้วยตัวเลข 2 หลัก ซึ่งนายเฮนรี มาลูโม ผู้ประสานงานกลุ่มแอ็กชั่น เอด อินเตอร์เนชั่นแนล อธิบายว่าปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาของแอฟริกาเท่านั้น เพราะเงินผิดกฎหมายจำนวนมากถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารในยุโรปและสหรัฐอเมริกา
ศาลกรุงไคโร อียิปต์ มีคำพิพากษาประหารชีวิตจำเลย 183 คน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มการเมืองภราดรภาพมุสลิม จากความผิดฐานฆาตกรรมตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ และทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ในระหว่างการประท้วงหลังการโค่นอำนาจ อดีตประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี โดยบุกรุกสถานีตำรวจในย่านเคอร์ดาซซา ชานกรุงไคโร เมื่อเดือนสิงหาคม 2557 ทำให้ตำรวจที่กำลังปฏิบัติหน้าที่เสียชีวิต 16 นาย รวมถึงผู้บังคับการสถานีซึ่งผลการชัณสูตรยังพบว่า ตำรวจหลายนายมีร่องรอยถูกฟันตามร่างกาย และถูกตัดแขนขา
นายโดมินิก สเตราส์-คาห์น อดีตผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ถูกดำเนินคดีจัดหาสตรี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการโสเภณี และเกิดขึ้น 4 ปีหลังจากเขามีปัญหาเรื่องล่วงละเมิดทางเพศขณะอยู่ในตำแหน่ง โดยนักเศรษฐศาสตร์ วัย 65 ปีผู้นี้ ต้องไปขึ้นศาลที่เมืองลีล ทางภาคเหนือของฝรั่งเศส
ศาลสูงของญี่ปุ่นตัดสินยืนให้ประหารชีวิตนายโทโมฮิโร คาโตะ วัย 32 ปี คนร้ายในคดีขับรถพุ่งชนและใช้มีดไล่แทงผู้คนในย่านอากิฮาบาระในกรุงโตเกียวทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 คนเมื่อปี 2551 และศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิต
ส่วนศาลจีนลงโทษประหารชีวิตนายจาง หลี่ตง และ น.ส.จาง ฟ่าน สองพ่อลูก สาวกลัทธิผิดกฏหมาย จากการรุมทุบตีและทำร้ายสตรีแซ่หวู่จนเสียชีวิตที่ร้านแมคโดนัลด์ในมณฑลชานตงในปี 2557 เนื่องจากสตรีแซ่หวู่ไม่ยอมเข้าร่วมลัทธิฯ และไม่ยอมให้ทั้งคู่ดูโทรศัพท์มือถือ ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุอีก 3 คนได้รับโทษจำคุก 7 ปี ถึงตลอดชีวิต
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายเมื่อคืนนี้ในแดนบวก เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดสหรัฐฯ ปรับราคาเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน และมีการตัดลดงบประมาณรายจ่ายการสำรวจน้ำมัน ส่งผลให้หุ้นบริษัทกลุ่มพลังงานปรับเพิ่มขึ้น
โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 196.09 จุดหรือร้อยละ 1.14 ปิดที่ 17361.04 จุด
ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 25.86 จุด หรือร้อยละ 1.30 ปิดที่ 2,020.85
ขณะที่ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 41.45 จุด หรือร้อยละ 0.89 ปิดที่ 4,676.69 จุด
*-*