ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30 น.วันอังคารที่ 8 มิถุนายน 2564

08 มิถุนายน 2564, 05:37น.


โศกนาฎกรรม รถไฟชนประสานงาในปากีสถาน เสียชีวิตพุ่ง 40 ราย



          นายอิมราน ข่าน นายกรัฐมนตรีปากีสถาน ทวีตข้อความรู้สึกช็อกกับเหตุการณ์รถไฟชนกันที่แคว้นสินธ์ทางตอนใต้ของปากีสถาน เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์  7 มิ.ย. 64 ตามเวลาท้องถิ่น



          เหตุเกิดขึ้นเมื่อตู้โดยสารของรถไฟสายมิลลัต เกิดตกรางในเวลาเดียวกับที่ขบวนรถไฟสายเซอร์ ไซยิด แล่นสวนมาพอดี ล่าสุด ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 40 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 100 คน  นายกรัฐมนตรีปากีสถาน กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างสุดความสามารถ เยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งสั่งให้มีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ เร่งสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้แล้ว



          รถไฟด่วนสายเซอร์ ไซยิด มุ่งหน้าจากเมืองลาฮอร์ของแคว้นปัญจาบไปยังเมืองการาจีของแคว้นสินธ์ และชนกับรถไฟด่วนมิลแลตที่ประสบเหตุตกรางในระหว่างเดินทางจากเมืองซากอดฮาของแคว้นปัญจาบ ไปยังเมืองการาจีของแคว้นสินธ์



          ขณะนี้ปากีสถานได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในโรงพยาบาลหลายแห่งของเมืองกอตคิ ดาฮาร์กี โอบาโร และมีร์ปูร์ มาเทโล



ศรีลังกา เผชิญภัยพิบัติสิ่งแวดล้อมางทะเลครั้งเลวร้ายที่สุด หลังเรือสินค้าไฟไหม้



          ศรีลังกา กำลังเผชิญภัยพิบัติสิ่งแวดล้อมทางทะเลครั้งเลวร้ายที่สุด หลังจากเรือสินค้า MV X-press Pearl (เอ็กซ์เพรส เพิร์ล) สัญชาติสิงคโปร์ ซึ่งบรรทุกกรดไนตริกและสารเคมีอันตรายอีกหลายชนิด รวมทั้งเม็ดพลาสติก กำลังจมสู่ก้นทะเลนอกชายฝั่งกรุงโคลอมโบ เมืองหลวงของศรีลังกา เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.64 หลังจากเกิดระเบิดและไฟไหม้บนเรืออย่างรุนแรงมานาน 12 วัน และทีมพนักงานดับเพลิงไม่สามารถที่จะควบคุมเพลิงให้สงบลงได้



          นอกจากนั้น หายนะเรือสินค้า เอ็กซ์เพรส เพิร์ลที่กำลังจมทะเล ยังทำให้เกิดความหวั่นวิตกตามมาว่า น้ำมันเชื้อเพลิงเกือบ 350 ตัน อาจจะรั่วไหลลงสู่ท้องทะเลจนก่อให้เกิดวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมตามมาอีก



          นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเลทั่วโลกและในศรีลังกา มีความหวั่นวิตกและเสียใจกับเหตุการณ์ร้ายแรงในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง โดยชี้ว่าจะทำให้ศรีลังกาต้องเผชิญกับภัยพิบัติด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเล และทำลายระบบนิเวศทางทะเลครั้งเลวร้ายที่สุด โดยเฉพาะสัตว์ทะเลนานาชนิดที่ต้องประสบกับสถานการณ์เลวร้ายจากหายนภัยคราวนี้



          รัฐบาลศรีลังกา ได้ออกคำสั่งห้ามชาวบ้านและผู้ประกอบการประมง ออกทำการประมงบริเวณชายฝั่งทะเลยาวนับ 50 ไมล์ หรือราว 80 กิโลเมตร ซึ่งส่งผลกระทบต่อชาวบ้านจำนวนมาก พร้อมทั้งขอความช่วยเหลือจากออสเตรเลียช่วยประเมินความเสียหาย 



          ขณะที่ กระทรวงท่าเรือและพัฒนาท่าเรือของศรีลังกา จะดำเนินการเรียกเงินชดเชยค่าเสียหายภายใต้กฎหมายในประเทศ และกฎหมายระหว่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ทางการสิงคโปร์ แจ้งว่า ได้เริ่มสอบสวนสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุไฟไหม้บนเรือสินค้าเอ็กซ์เพรส เพิร์ลแล้ว ตำรวจศรีลังกา เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ประจำเรือเป็นชาวรัสเซีย 2 คน และชาวอินเดีย 1 คน กำลังถูกสอบสวน



          เรือสินค้าเอ็กซ์เพรส เพิร์ล เป็นเรือคอนเทนเนอร์ มีความยาว 610 ฟุต หรือราว 186 เมตร ความสูง 150 ฟุต และกว้าง 112 ฟุต บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ถึง 1,486 ตู้ โดยได้แจ้งว่ามีสารเคมีอันตรายหลายชนิดจำนวนถึง 81 ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งในจำนวนนี้เป็นกรดไนตริก 25 ตัน เม็ดพลาสติก 28 ตู้ นอกจากนั้นยังมีน้ำมันหล่อลื่น อาหาร เครื่องสำอาง แท่งตะกั่ว รถยนต์จำนวนหนึ่งบนเรือด้วย



          ทางการศรีลังกา เชื่อว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้เรือสินค้าเอ็กซ์เพรส เพิร์ล เนื่องจากกรดไนตริกได้รั่วไหลออกมาจากตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งทางลูกเรือได้แจ้งเรื่องนี้ตั้งแต่ 11 พ.ค.64 นอกจากนั้นบริษัทเจ้าของเรือเอ็กซ์เพรส เพิร์ล ยังยืนยันว่าลูกเรือได้แจ้งเรื่องนี้ให้เจ้าหน้าที่กาตาร์และอินเดีย เพื่อขอนำเรือจอดเทียบท่าแต่ถูกปฏิเสธ ทางการกาตาร์และอินเดียไม่อนุญาต



          เรื่องนี้ทำให้รัฐบาลศรีลังกาไม่พอใจมากขึ้นที่ประเทศของตนอนุญาตให้เรือสินค้าลำนี้เข้ามาในน่านน้ำ ทั้งที่ถูกปฏิเสธจากสองประเทศก่อนหน้ามาแล้ว



อินโดฯ เร่งเพิ่มกำลังหมอ พยาบาล รับมือคลัสเตอร์บนเกาะชวา



          หน่วยงานสาธารณสุขและผู้เชี่ยวชาญอินโดนีเซีย ต่างวิตกเรื่องความเสี่ยงของการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างของการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากไวรัสกลายพันธุ์และเมื่อเดือนที่แล้ว ประชาชนเดินทางกลับบ้านเพิ่มจำนวนมากขึ้นในช่วงวันหยุดหลังสิ้นสุดเดือนถือศีลอด



          ตามรายงานระบุว่า เขตคูดุส บนเกาะชวา และเขตบังกาลัน บนเกาะมาดูรา โรงพยาบาลต่างๆ ต้องรองรับดูแลผู้ป่วยจนเกือบจะรับมือไม่ไหวแล้ว



           นายบูดี กูนาดี ซาดิกิน รัฐมนตรีสาธารณสุขอินโดนีเซีย กล่าวว่า มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อนหรือคลัสเตอร์ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น จำเป็นที่จะต้องเพิ่มกำลังของแพทย์และพยาบาลเข้าไปในพื้นที่ และผู้ป่วยบางคนได้ขอย้ายโรงพยาบาลไปรักษาในเมืองอื่น



          อินโดนีเซีย เป็นอีกหนึ่งประเทศที่พบการแพร่ระบาดรุนแรงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เมื่อวานนี้ 7 มิ.ย. 64 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 6,993 คน สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. 64 และมีผู้เสียชีวิตรวม 51,000 ราย



จีน ห่วงการระบาดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาที่เมืองกว่างโจว ระดมตรวจหาเชื้อ-ล็อกดาวน์



          เจ้าหน้าที่ในมณฑลกวางตุ้งของจีน กำลังเร่งระดมตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนจำนวนมาก รวมถึงประกาศล็อกดาวน์พื้นที่หลายจุดเพื่อควบคุมยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในเมืองกว่างโจว พบผู้ติดเชื้อ 96 คน จากทั้งหมดกว่า 100 คน ที่พบในมณฑลกวางตุ้ง



          ทางการเมืองกว่างโจว ระบุว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่ตรวจพบครั้งแรกในอินเดียและสามารถแพร่เชื้อได้รวดเร็ว เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อช่วงครึ่งหลังของเดือนพ.ค.64 ทำให้สถานการณ์การระบาดในเมืองกว่างโจวน่ากังวลมากยิ่งขึ้น



          ประเทศจีนสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว พบผู้ติดเชื้อน้อยมากในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา แต่ยังมีรายงานพบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนในบางแห่ง รวมถึงเมืองใหญ่อย่างกรุงปักกิ่งและนครเซี่ยงไฮ้



ศาล นัดไต่สวนคดี ‘ซูจี’ 14 มิ.ย. คาดสรุปคดีได้ปลาย ก.ค.



          สำนักข่าวเอเอฟพี อ้างทีมกฎหมายของนางออง ซาน ซูจี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนเมียนมา เปิดเผยว่า การพิจารณาไต่สวนคดีนางซูจี ที่ถูกดำเนินคดีในหลายข้อหาตั้งแต่การครอบครองวิทยุสื่อสารโดยผิดกฎหมาย ไปจนถึงการละเมิดมาตรการคุมเข้มโรคโควิด-19 จะเริ่มขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย.64 คาดว่า การพิจารณาคดีจะเสร็จสิ้นลงได้ภายในวันที่ 26 ก.ค.64 นางมิน มิน โซ หนึ่งในทีมทนายความของนางซูจี เปิดเผยหลังได้พบกับนางซูจีที่กรุงเนปยีดอว่า เราจะได้ฟังการเบิกความของฝ่ายโจทก์และพยานจากการไต่สวนนัดต่อไปในต้นสัปดาห์หน้า

ข่าวทั้งหมด

X