*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยช่วงเย็น19.35น.*

+++วันนี้ ทุกฝ่าย ทั้งรัฐบาล หน่วยงานด้านความมั่นคง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กทม. ภาคเอกชน ติดตามสถานการณ์เหตุระเบิดบริเวณทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม  หน้าห้างสยามพารากอน  พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม  และผู้บัญชาการทหารบก ระบุว่ายังไม่สามารถชี้ชัดว่าเป็นกลุ่มใดที่ลงมือทำแต่มีหลักฐานทางด้านการข่าวอยู่ เตือนประชาชนอย่าตื่นตระหนกเพราะดูจากสถานการณ์แล้วระเบิดไม่ได้มุ่งร้ายหรือเอาชีวิตใคร พร้อมขอให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวังหากมีอะไรผิดสังเกต

+++นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กำชับให้ตำรวจท่องเที่ยว ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับต่างชาติให้มั่นใจถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยของไทย และอยากให้ตำรวจสรุปสาเหตุให้ได้ภายใน 1 สัปดาห์ เพื่อจะเร่งชี้แจงเหตุการณ์ทั้งหมดให้นานาชาติเข้าใจ ไม่ให้กระทบต่อการท่องเที่ยวของไทยในระยะยาว 

+++นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า)กล่าวว่า ยังไม่มีเอเย่นต์ทัวร์ติดต่อหรือแสดงประเด็นความเคลื่อนไหวแต่ยอมรับเป็นห่วงนักท่องเที่ยวชาวจีนที่กำลังจะมาท่องเที่ยวช่วงเทศกาลตรุษจีนเพราะนักท่องเที่ยวจีนให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยจึงอยากให้รัฐบาลเข้มงวดเรื่องนี้มากขึ้น  คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทย2.5-2.8 แสนคนแต่ไม่แน่ใจจะลดลงจากที่คาดการณ์หรือไม่สิ่งสำคัญคือรัฐบาลต้องเร่งแสดงความชัดเจน

+++เรื่องการปรับทัศนคติ วันนี้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ส่งเจ้าหน้าที่ทหาร ไปพูดคุยกับนายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายวรชัย เปิดเผยว่า แม่ทัพภาคที่ 1 ติดภารกิจดูแลเหตุระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯไม่สะดวกให้เข้าไปพูดคุยที่กองทัพภาคที่ 1 ได้กล่าวฝากไปถึงคสช.และรัฐบาลว่า ไม่ได้ต่อต้าน และไม่ได้สั่งการให้มวลชนเคลื่อนไหวใด ๆ ขอให้ฟังความคิดเห็นบ้าง และเพื่อลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะพูดในสิ่งที่ควรพูด โดยจะไม่ไปกระทบกับการบริหารประเทศ

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พบปะตัวแทนเกษตรกรจังหวัดนครราชสีมา ห้องประชุมสหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา พร้อมทั้งมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรวบรวมปัญหา เพื่อนำมากลั่นกรองและแยกประเภทของปัญหาร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อสรุปก่อนนำเสนอรัฐบาลพิจารณาให้ความช่วยเหลืออย่างยั่งยืนต่อไป

+++การแก้ปัญหาความยากจน  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำและความยากจน เปิดเผยว่า ให้เวลาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษารายละเอียด 2 สัปดาห์ ก่อนเสนอแนวทางแก้ปัญหาต่อนายกฯ  ก่อนเข้าสู่คณะรัฐมนตรี( ครม.) เพื่อพิจารณาแนวทางช่วยเหลือ ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนต้องเร่งรัดให้เป็นรูปธรรม เบื้องต้นจะจัดทำมาตรการเป็นแพ็คเก็จ ในการให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม ปีนี้จะเกิดปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก

+++พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงการแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ยืนยันว่า รัฐบาลได้เร่งดำเนินโดยธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย รวมทั้งธนาคารต่างๆ ได้อนุมัติเงินจำนวน 16,000 ล้านบาท เพื่อนำไปซื้อน้ำยางดิบเพื่อกระตุ้นให้ราคายางในตลาดให้ปรับตัวสูงขึ้น คาดว่าภายใน 2 เดือน ราคาจะขึ้นถึง 80 บาทต่อกิโลกรัม อีกทั้งจะนำยางในสต็อกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น การทำถนน

+++ที่ประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.องค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค หลังหารือกันนานกว่า 2 ชม. คณะกรรมาธิการฯ จะต้องนำร่างฉบับนี้ พร้อมข้อสังเกตของสมาชิก ไปแก้ไขให้สมบูรณ์ โดยสมาชิกสามารถยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมได้ภายใน 7 วัน และคณะกรรมาธิการฯ มีเวลาทำงาน 30 วัน ก่อนที่จะนำร่างฉบับนี้กลับเข้าสู่การพิจารณาของ สปช.อีกครั้ง ก่อนส่งจะเสนอไปยังครม.

+++สาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว คือ เป็นการปฏิรูปประเทศด้านการคุ้มครองผู้บริโภค และแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรม สนับสนุนให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการกำหนดหลักเกณฑ์ร่วมกับหน่วยงานรัฐ ลดปัญหาความขัดแย้งระหว่างผู้ประกอบการกับผู้บริโภค จึงได้บัญญัติให้มีองค์การเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ที่เป็นอิสระจากหน่วยงานของรัฐ ประกอบด้วยตัวแทนผู้บริโภค ทำหน้าที่ให้ความเห็น เพื่อประกอบการพิจารณาของหน่วยงานของรัฐในการตรวจ และการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงให้รัฐสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการขององค์กรอิสระดังกล่าว

+++ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ผศ.ดร.เผ่าภัค ศิริสุข รักษาการแทนรองอธิการบดีสจล. ในฐานะกำกับดูแลส่วนการคลัง เปิดเผยว่า จากกรณีการตรวจสอบเงินสจล.ที่ถูกยักยอกไปกว่า 1 พันล้านบาท ตอนนี้กำลังพิจารณาบัญชีทั้งหมดของสจล.ว่ามีกี่บัญชี และบัญชีใดบ้างที่สามารถปิดหรือโยกย้ายได้ เพื่อมีจำนวนบัญชีน้อยลง ง่ายต่อการบริหารจัดการและตรวจสอบ โดยเฉพาะบัญชีที่ทำธุรกรรมร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า มีบัญชีที่ฝากกับธนาคารไทยพาณิชย์ ประมาณ 70 บัญชี และกำลังตรวจสอบว่ามีบัญชีใดที่สามารถปิดได้โดยไม่กระทบกับการเบิกจ่าย เบื้องต้นมีประมาณ 30 บัญชีที่สามารถทยอยปิดได้โดยไม่กระทบ และมี 3 บัญชียอดเงินประมาณ 60 ล้านบาท ซึ่งเป็นบัญชีแบบเงินฝากประจำและออมทรัพย์ ที่สามารถปิดได้ทันที

+++ความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้บริษัท แอลแอลไอที ประเทศไทย จำกัด ซึ่งประกอบกิจการผลิตยางรถยนต์ จำนวนพื้นที่โรงงาน 333 ไร่เงินลงทุน 2,700ล้านบาท จำนวนคนงาน 619 คนตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด ตำบลเขาคันทรง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า เหตุเพลิงไหม้บริเวณคลังเก็บผลิตภัณฑ์(ยางรถยนต์) และลุกลามไปยังอาคารเก็บผลิตภัณฑ์ข้างเคียงรวมทั้งหมด 6 อาคาร กนอ.ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.โรงงานมาตรา 39 ให้บริษัทฯ หยุดประกอบกิจการโรงงานชั่วคราว กนอ.ปิดกั้นรางระบายน้ำบริเวณโดยรอบบริษัทฯ ที่เกิดเหตุ เพื่อไม่ให้น้ำจากการดับเพลิงไหลออกสู่ภายนอกได้ และจะนำไปบำบัดตามกระบวนการมาตรฐานอย่างถูกวิธีต่อไป ส่วนผลจากการตรวจวัดคุณภาพอากาศ (สถานีเหมราชฯ) พบว่า ค่าเฝ้าระวังหลักฝุ่น สูงขึ้น แต่ยังไม่เกินค่ามาตรฐาน นอกจากนี้ กนอ.ได้จัดส่งรถโมบาย ยูนิตตรวจวัดคุณภาพอากาศจากนิคมฯ มาบตาพุด จังหวัดระยอง ไปยังพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบ เฝ้าระวังคุณภาพอากาศและช่วยสร้างความมั่นใจให้กับชุมชนที่อยู่โดยรอบโรงงาน

+++หุ้นไทย ปิดตลาด บวก1.45จุด ดัชนีอยู่ที่1,582.70จุดมูลค่าซื้อขาย42,910.30ล้านบาท

+++สหภาพแรงงานอุตสาหกรรมหนักแห่งชาติของสหรัฐ ( ยูเอสดับเบิลยู ) ออกแถลงการณ์เรื่องการผละงานประท้วงครั้งใหญ่อย่างไม่มีกำหนด เริ่มตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ หลังไม่สามารถตกลงกับบริษัทนายจ้าง ที่รวมถึงบริษัท รอยัล ดัตช์ เชลล์ เกี่ยวกับข้อเรียกร้อง 5 ข้อที่รวมถึงการรเพิ่มค่าแรงและปฏิรูประบบสวัสดิการ เพื่อการต่ออายุสัญญาจ้างฉบับใหม่ ซึ่งเดิมทีต้องเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. ได้ ทั้งนี้ นายเลโอ เจราร์ด ประธานของยูเอสดับเบิลยู แถลงเรียกร้องให้คนงานราว 3,800 คน จากโรงกลั่นน้ำมัน 9 แห่งในสหรัฐ ที่ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐเทกซัสและรัฐแคลิฟอร์เนีย เข้าร่วมการผละงานประท้วงครั้งใหญ่นี้ด้วย หลังสัญญาการจ้างงานอายุ 3 ปี คาดว่าจะส่งผลกระทบกับกระบวนการทำงานของโรงกลั่นน้ำมันในประเทศราวร้อยละ 10 ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ของยูเอสดับเบิลยูซึ่งมีสมาชิกกว่า 30,000 คน จากอุตสาหกรรมหนักทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นโรงกลั่นน้ำมัน  ปิโตรเคมี และเหมืองแร่

+++ทางการจีน แถลงเตือนสหรัฐฯ ว่า จีนคัดค้านประเทศใดก็ตามที่จะพบกับองค์ดาไล ลามะใน ทุกรูปแบบ ภายหลังทำเนียบขาวสหรัฐฯ แถลงว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ จะเข้าร่วมงานซึ่งมีผู้นำทางจิตวิญญาณทิเบตมาร่วมด้วยและเป็นบุคคลที่จีนระบุว่าเป็นพวกแบ่งแยกดินแดน ก่อนหน้านี้ ทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีโอบามาจะกล่าวสุนทรพจน์ในงานด้านเสรีภาพของการนับถือศาสนาที่กรุงวอชิงตัน ซึ่งดาไล ลามะจะเข้าร่วมงานด้วย ทางการจีน หวังว่าสหรัฐฯ จะดำเนินการอย่างเหมาะสมบนพื้นฐานของความสัมพันธ์ทวิภาคี