กองปราบปราม ติดตามคดีแอบอ้างสถาบันเพื่อเรียกรับผลประโยชน์

02 กุมภาพันธ์ 2558, 12:38น.


ในวันนี้กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) มีการแถลงผลการทำงานและการเร่งรัดติดตามคดีสำคัญหลายคดี โดยในการติดตามความคืบหน้าการสอบสวนเหตุระเบิด 2 ครั้ง ที่บริเวณทางเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสยาม และทางเข้าด้านหน้าห้างสยามพารากอน เมื่อคืนนี้ ทาง พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รองผู้บังคับการปราบปราม ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นเรื่องของความมั่นคง ซึ่งพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เรียกประชุมเวลา 02:00น. และมีคำสั่งให้กองปราบฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยร่วมกันปฏิบัติงาน ส่วนการให้ข้อมูลกับทางสื่อมวลชนนั้น พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) จะเป็นผู้ให้ข้อมูล



ส่วนเรื่องที่มีผู้ร้องเรียนกับกองปราบฯ ให้ติดตามผู้ที่แอบอ้างสถาบันเพื่อเรียกรับผลประโยชน์ พ.ต.อ.อัคราเดช เปิดเผยว่า ในคดีนี้นายบรรเทิง เนมีแสน ชาวจังหวัดราชบุรี ร้องเรียนว่า ถูกนายเอกชัย พลอยหิน หรือเอฟ  หลอกเอาเงินกว่า 1,300,000 บาท ตั้งแต่เมื่อเดือนธันวาคมปี 2551 โดยบอกว่าจะสามารถช่วยเหลือลูกชายของนายบรรเทิง ที่ถูกดำเนินคดีฐานครอบยาเสพติดให้โทษ (ยาบ้า) จำนวน 2 แสนเม็ดได้ แต่เมื่อให้เงินไปแล้ว นายเอกชัยก็ไม่ได้ทำตามข้อตกลงได้ แต่ด้วยความที่เกรงกลัวว่าจะได้รับความเดือนร้อนจึงไม่กล้าที่จะแจ้งความดำเนินคดีกับนายเอกชัย แต่จากช่วงที่ผ่านมาเห็นข่าวว่ามีการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้อง จึงเดินทางมาร้องทุกข์ที่กองปราบฯ ซึ่ง พ.ต.อ.อัคราเดช  ระบุว่า นายเอกชัย มีความผิดฐานช่อโกง เรียกรับหรือรับทรัพย์สิน โดยวิธีอันทุจริตและผิดกฏหมาย และความผิดฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 112  ซึ่งในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯก็จะรวบรวมหลักฐาน และคาดว่าจะขออนุมัติศาลออกหมายจับได้ภายในวันนี้เช่นกัน และพรุ่งนี้ก็จะเข้าค้นบ้านนายเอกชัย และคาดว่าจะสามารถติดตามจับกุมได้ตัว เนื่องจากขณะนี้ก็เฝ้าจับตาดูอยู่ นอกจากนี้ยังพบว่า นายเอกชัย ก็มีความเกี่ยวข้องกับบ่อนนัมเบอร์วัน ย่านเหม่งจ๋าย และมีศักดิ์เป็นหลานชายพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะสืบสวนว่ามีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ แต่ถ้าหากมีก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนต่อไป



ยังมีความคืบหน้าคดียักยอกทรัพย์กว่า 1,400 ล้านบาท ของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณ ทหารลาดกระบัง (สจล.) ซึ่งในการติดตามตัวนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาคนสำคัญของคดีนี้ ทราบว่าอยู่ในประเทศแถบยุโรป  จึงประสานงานเพื่อขอให้ถอนหนังสือเดินทาง และติดต่อเพื่อขอตัวส่งผู้ร้ายข้ามแดนกลับมายังประเทศไทย 



และคดีข่มขืนสตรีสูงวัยต่อเนื่อง 10 คดี ใน 3 จังหวัด เช่น สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และนครปฐมนั้น ขณะนี้กำลังรวมรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งทุกฝ่ายก็กำลังเร่งดำเนินการสืบสวนอยู่



...ผสข.วิรวินท์ ศรีโหมด

ข่าวทั้งหมด

X