หลังรัฐบาลมาเลเซีย ประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศ เมื่อวานนี้ ปิดห้างร้าน รณรงค์ให้ประชาชนอยู่บ้านหรือทำงานจากบ้านเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมทั้งประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่มูลค่า 40,000 ล้านริงกิต (หรือ 9,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)รวมทั้งโครงการช่วยเหลือทางการเงินสำหรับครัวเรือนที่รายได้น้อย คนขับรถแท็กซี่และคนขับรถประจำทาง ซึ่งทำให้งบกระตุ้นเศรษฐกิจของมาเลเซียนับตั้งแต่โรคโควิด-19 ระบาดในมาเลเซียเมื่อต้นปีที่แล้วมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 380,000 ล้านริงกิต
ศาสตราจารย์เยียห์ คิมเล็ง นักเศรษฐศาสตร์จากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยซันเวย์(Sunway University)ของมาเลเซียมองว่ารัฐบาลมาเลเซียจัดงบกระตุ้นเศรษฐกิจรอบนี้น้อยเกินไป ยากที่จะทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเสนอแนะว่า รัฐบาลควรอัดฉีดงบประมาณมากกว่านี้เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วขึ้นในระยะยาว
ขณะที่ศ.โมฮัมหมัด นาซารี อิสมาอิล จากภาควิชายุทธศาสตร์และนโยบายธุรกิจ มหาวิทยาลัยมาลายาของมาเลเซีย ตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลมาเลเซีย มีทางเลือกน้อยมากในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากปัญหาหนี้สาธารณะที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต การจัดงบประมาณให้มากพอกระตุ้นเศรษฐกิจมาเลเซียเท่าใด ก็ไม่เพียงพอเนื่องจากวิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบันนี้ส่งผลเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของมาเลเซียอย่างรุนแรง
ทั้งนี้เศรษฐกิจของมาเลเซียติดลบร้อยละ 5.6 ในปีที่แล้วและเติบโตเพียงร้อยละ 0.5 ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
cr: reuters,cna,singaporenewslive