‘อนุทิน’ ยืนยันเดือนนี้แอสตราฯเข้ามา 6 ล้านโดส เตรียมทำคำสั่งซื้อไฟเซอร์ฉีดกลุ่ม12-18 ปี
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิดแอสตราเซเนกาว่าวัคซีนเป็นไปตามกำหนด ทางแอสตราเซเนกา แจ้งว่า จะส่งภายในเดือนมิ.ย.64 ทราบว่ามีการส่งเอกสารการตรวจมาตรฐานมาที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้ว อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แจ้งว่าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ส่วนจำนวนต้องสอบถามทางกรมควบคุมโรค แต่เบื้องต้นทั้งกรมควบคุมโรค และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยืนยันว่าเป็นไปตามแผนทันวันที่ 7 มิ.ย. 64 แน่นอน
ส่วนจำนวนวัคซีนแอสตราเซเนกา มีรายงานว่าล็อตแรกๆ จะได้ราว 1,000,000-2,000,000 โดส ซึ่งไม่ถึงยอดที่กระทรวงสาธารณสุขเคยแจ้งไว้กับประชาชนว่าในเดือน มิ.ย.64 จะมีอย่างน้อย 6,000,000 โดส นายอนุทิน กล่าวว่า วัคซีนจะทยอยเข้ามา ซึ่งในเดือน มิ.ย.64 จะต้องครบ 6,000,000 โดส ตามที่กำหนด หากมีปัญหาทางบริษัทจะต้องจัดหามาให้ได้
นายอนุทิน กล่าวว่า คนที่จะมาเบิกวัคซีนจากกระทรวงสาธารณสุขจะต้องทำแผนมาให้ชัดเจนว่าจะใช้ภายในวันไหน อย่างไร ไม่ให้เก็บไว้นาน ไม่ให้เก็บเหลือ เพราะต้องกระจายทุกวัน ทุกหน่วยงาน และต้องการให้มั่นใจว่าจะต้องเก็บรักษาตามมาตรฐาน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการเจรจาวัคซีนอยู่หลายตัว เช่น ไฟเซอร์ ส่งเทอมชีทมาแล้วก็กำลังพิจารณา และทำคำสั่งซื้อเพื่อฉีดให้กลุ่ม 12-18 ปี ขณะเดียวกันก็มีการเจรจากับทางจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เบื้องต้นน่าจะอยู่ที่ราวๆ 5,000,000 โดส แต่ทราบว่ากำหนดส่งประมาณไตรมาส 4 ของปี
ช่วง 27-31 พ.ค. ลงทะเบียนผ่านโครงการไทยร่วมใจกว่า 1.9 ล้านคน
กรุงเทพมหานคร รายงานข้อมูลการลงทะเบียนโครงการไทยร่วมใจ เพื่อแจ้งความประสงค์ในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ข้อมูลเมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 31 พ.ค. 64
-ประชาชนลงทะเบียนสะสมทั้งหมด (27-31 พ.ค.64) จำนวน 1,994,179 คน
-ผู้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง 1,272,045 คน
-ผู้ลงทะเบียนผ่าน www.ไทยร่วมใจ.com 722,134 คน
การลงทะเบียนเฉพาะวันที่ 31 พ.ค.64
-ประชาชนลงทะเบียน 69,245 คน
-ผู้ลงทะเบียนผ่านแอปฯเป๋าตัง 42,611 คน
-ผู้ลงทะเบียนผ่าน www.ไทยร่วมใจ.com 26,584 คน
9 มิ.ย.สภาฯ ประชุมพิจารณา ร่างพ.ร.ก.ให้อำนาจคลังกู้เงิน
นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ รัฐบาลได้ส่งร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในวงเงิน 500,000 ล้านบาทมาให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร แล้ว เบื้องต้น ประธานสภาผู้แทนราษฎร สั่งการให้นำเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 9 มิ.ย.64 เวลา 09.00 น. โดยจะมีการประชุมภายในวันเดียว แต่จะประชุมยาวถึงวันที่ 10 มิ.ย.64 หรือไม่ ต้องมีการหารือกันอีกครั้ง แต่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้องการให้ประชุมแล้วเสร็จภายในวันดังกล่าว เพื่อเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมตามปกติต่อไป
ภาคขนส่ง วอนรัฐเร่งฉีดวัคซีน นำเข้าตู้เปล่า เพิ่มแรงงานสู่ภาคการผลิต
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) แถลงข่าวร่วมกับ น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ที่ปรึกษา สรท.เกี่ยวกับสถานการณ์การส่งออกในปีนี้
1.สรท.คาดการณ์ส่งออกไทยเติบโตร้อยละ 6-7
2.ปัจจัยบวกที่สำคัญในปีนี้ ได้แก่
-แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลัก เช่น สหรัฐฯ มีการนำเข้าพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากผู้ผลิตในประเทศไม่สามารถผลิตสินค้าให้ทันกับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น
-ความคืบหน้าการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลก
3.ปัจจัยเสี่ยงที่เป็นอุปสรรคสำคัญในปีนี้ ได้แก่
-สถานการณ์การระบาดโควิด-19 ที่มีความรุนแรงทั้งในประเทศและกลุ่มประเทศในอาเซียน ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวโน้มการฟื้นตัวและการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ล่าช้าออกไป
-ปัญหาตู้สินค้าขาดแคลนและอัตราค่าระวางที่ทรงตัวในระดับสูง การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และ Space Allocation แม้ภาครัฐของไทยมีประกาศอนุญาตให้เรือใหญ่ขนาด 400 เมตร เข้ามาในประเทศไทยได้และส่งผลให้มีการนำเข้าตู้คอนเทนเนอร์เปล่าเข้ามาเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ปริมาณตู้เปล่ายังไม่เพียงพอ ซึ่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกในการส่งสินค้าให้กับประเทศปลายทางที่เป็นคู่ค้าสำคัญ ประกอบกับสายเรือยังคงมีการจัดสรรตู้คอนเทนเนอร์ (space allocation) ส่วนใหญ่ให้กับจีนและเวียดนาม เนื่องจากมีความสามารถในการจ่ายค่าระวางในอัตราที่สูงกว่าประเทศไทย ทำให้ผู้ประกอบการไทยประสบปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ต่อเนื่อง
-สถานการณ์ความผันผวนของวัตถุดิบที่สำคัญ ชิปขาดแคลน ส่งผลกระทบเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ต้องชะลอการผลิต เนื่องด้วยจำนวนสินค้าคงคลังที่เริ่มลดลง คาดการณ์ว่าจะกระทบอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกรวมทั้งไทย มีแนวโน้มว่าสถานการณ์อาจยืดเยื้อไปถึงไตรมาสที่ 4 สถานการณ์ราคาเหล็กในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น จากการที่จีนปรับลดกำลังการผลิตเหล็กมากกว่าครึ่ง ทำให้เกิดภาวะ Short Supply ส่งผลกระทบต่อต้นทุนภาคการผลิตที่ต้องใช้วัตถุดิบเหล็กในการผลิต อาทิ บรรจุภัณฑ์โลหะ (อาหาร/เครื่องดื่มบรรจุกระป๋อง) การก่อสร้าง ยานยนต์ เครื่องจักรกล
-สถานการณ์ขาดแคลนแรงงาน เนื่องด้วย สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แรงงานต่างด้าวเดินทางกลับประเทศจำนวนมากและยังไม่ได้เดินทางกลับเข้ามา ซึ่งส่งกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมการผลิต และภาคเกษตรที่ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานประมาณ 200,000-300,000 คน
4.สรท.มีข้อเสนอแนะที่สำคัญ ดังนี้
-เร่งรัดการฉีดวัคซีนในภาคโลจิสติกส์และภาคการผลิต โดยเฉพาะ ท่าเรือ ท่าอากาศยาน หรือจุดเสี่ยงที่เป็น Gateway สำคัญของประเทศ
-เร่งการนำเข้าตู้เปล่าเข้ามาเพิ่มเติมโดยเร็วและบริหารจัดการ Space Allocation เนื่องจาก ปริมาณคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเริ่มฟื้นตัวในระดับสูง และภาคเอกชนไทยมีความพร้อมและมีศักยภาพที่จะส่งออก จึงขอให้ภาครัฐทำการเช่าเรือ เพื่อไปนำตู้สินค้าเปล่าจากประเทศที่มีตู้ตกค้างอยู่เป็นจำนวนมากกลับเข้ามาในประเทศไทย
*คาดการณ์ว่าการส่งออกทั้งปีอาจเติบโตได้ถึงร้อยละ 10-15 ภายใต้เงื่อนไขประเทศไทยต้องมีตู้คอนเทนเนอร์เปล่า เฉลี่ยประมาณ 2.01 – 2.25 ล้าน TEU/ปี (หรือ 1.76-2.07 แสนTEU/เดือน) การจัดสรรพื้นที่ (Space Allocation) และค่าระวางอยู่ในอัตราที่เหมาะสม เพื่อให้เพียงพอและรองรับต่อการเติบโตของภาคการส่งออก เร่งนำแรงงานเข้าสู่ภาคการผลิต โดยเร่งรัดการหารือเพื่อปรับปรุงกฎระเบียบและเงื่อนไขรูปแบบการจ้างแบบ Part time ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งในเรื่องของอัตราจ้าง ชั่วโมงการทำงาน และสวัสดิการที่นายจ้างและลูกจ้างได้ประโยชน์ร่วมกัน และเร่งปรับลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าวัตถุดิบ อาทิ ภาษีสินค้าเหล็กในภาคการผลิต รวมถึงต้นทุนด้านโลจิสติกส์ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าวัตถุดิบและการส่งออกสินค้า