การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ช่วยทีมแพทย์ สามารถบ่งชี้เชื้อโควิด-19 ได้ รศ.ดร.ศิริเดช บุญแสง คณบดีคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)เปิดเผยว่า จากกรณีการตรวจพบเชื้อโควิด-19สายพันธุ์ต่าง ๆ ในประเทศไทยจำนวนมาก ทั้งสายพันธุ์อังกฤษ สายพันธุ์อินเดีย โดยล่าสุดพบโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้ในคลัสเตอร์ตากใบ จ.นราธิวาส และรักษาหายแล้วในเวลาต่อมา ซึ่งสอดคล้องกับผลการวิจัยของคณะทำงาน ที่ได้พัฒนาเทคโนโลยี“เอไอตรวจโควิดกลายพันธุ์” หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ซีร่า คอร์ (CiRA CORE) ที่สามารถสนับสนุนการปฏิบัติงานของทีมแพทย์ โดยแบ่งเป็น2ส่วน ได้แก่
1.สามารถบ่งชี้สายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 ได้ถึง 8 สายพันธุ์ อาทิ สายพันธุ์B.1.1.7จากอังกฤษ สายพันธุ์B.1.351จากแอฟริกาใต้ สายพันธุ์B.1.1.28หรือP1จากบราซิล สายพันธุ์B.1.617.1,B.1.617.2และB.1.617.3จากอินเดีย สายพันธุ์ที่ระบาดในชุมชนB.1.36.16 จาก สมุทรสาคร ปทุมธานี และ กทม.ซึ่งช่วยแพทย์ลดขั้นตอนการวิเคราะห์ แยกแยะ และคาดการณ์การกระจายตัวของสายพันธุ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.ตรวจตำแหน่งที่กลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19ด้วยการค้นหาตำแหน่งกลายพันธุ์ที่เป็นที่น่ากังวล (Variant of Concern; VOCs)ซึ่งมีความถูกต้องถึง99%ใน 30 วินาที
สำหรับขั้นตอนการวิเคราะห์สายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19และการค้นหาตำแหน่งกลายพันธ์VOCsด้วยเอ ช่วยสนับสนุนแพทย์ ลดขั้นตอนการวิเคราะห์ให้เหลือเพียง 3 ขั้นตอน ได้แก่
1.นำข้อมูลสารพันธุกรรมทั้งหมด หรือจีโนมที่ได้ทั้งแบบเดี่ยว หรือแบบหลายๆจีโนมพร้อมกัน เข้าไปประมวลผลในโปรแกรมเอไอ (Input Data)
2.ทำการวิเคราะห์ผล
3.ทำการแสดงผลในรูปแบบชื่อของสายพันธุ์ และหากพบเชื้อกลายพันธุ์จะแสดงผลเป็นสีแดง พร้อมแสดงตำแหน่งกลายพันธุ์ (VOCs)บนจีโนม หากไม่พบเชื้อจะเป็นสีเทา ทั้งนี้ เป็นผลมาจากกระบวนการเรียนรู้เชิงลึก(Deep Learning)ของเอไอในข้อมูลรหัสพันธุกรรมของเชื้อโควิดที่มีจีโนมถึง30,000ตำแหน่ง จากฐานข้อมูลรหัสพันธุกรรมของจุลชีพ “GISAID” (https://www.gisaid.org/)จึงทำให้เอไอสามารถแยกแยะตำแหน่งโควิดกลายพันธุ์ (VOC)และสามารถบ่งชี้เชื้อโควิดกลายพันธุ์ได้หลายสายพันธุ์ได้
ปัจจุบัน“เอไอตรวจโควิดกลายพันธุ์”นำร่องทดลองใช้งานภายในห้องแล็บของศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ในการใช้ตรวจตำแหน่งกลายพันธุ์ของโควิด-19(VOCs) โดยบุคลากรทางการแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา และยังพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่หน่วยงานที่สนใจ และอยู่ระหว่างการยื่นจดสิทธิบัตรร่วมกันระหว่างหน่วยงาน
สำหรับ เอไอ ดังกล่าว เป็นการพัฒนาองค์ความรู้ร่วมกับ ดร.วีรยุทธ กิตติชัย อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ สจล.ผศ. ดร.สันทัด ชูวงค์อินทร์ หัวหน้าศูนย์หุ่นยนต์อุตสาหกรรมและระบบอัตโนมัติ(CiRA)วิทยาลัยนวัตกรรมการผลิตขั้นสูง สจล. พร้อมด้วย ดร. จักรพันธุ์ รุณเจริญ ดร. อินทรี เสนสอน และ ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ (Center for Medical Genomics) คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และนางสาวทัชชา ยิ้มถิน อาจารย์ประจำภาควิชาจุลชีววิทยาและอิมมิวโนโลยี คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)