ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 08.30น.วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม 2564

27 พฤษภาคม 2564, 09:01น.


รพ.สนามผู้พิการ ใช้นวัตกรรมและระบบเทคโนโลยี มีเตียง 224 เตียง ดูแลผู้พิการติดเชื้อ



          การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธรเพื่อคนพิการ รองรับผู้พิการที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่อาคารบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี



         น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า รพ.สนามแห่งนี้จะเปิดให้บริการแก่ผู้ป่วยพิการอายุ 15-65 ปี ในวันที่ 1 มิ.ย. 64 รองรับผู้ป่วยพิการได้ 224 เตียง โดยมีการใช้นวัตกรรมและระบบเทคโนโลยีทางการแพทย์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยระหว่างการรักษาตัว เช่น รถเข็นบังคับระยะไกล ส่งของให้ผู้ป่วยโควิด-19 เครื่องฆ่าเชื้อโรคด้วยแสงยูวีซีเพื่อลดการแพร่เชื้อ ระบบเครื่องช่วยสื่อสารสำหรับคนหูหนวก (TTRS) เปลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยความดันลบ



         ผู้พิการที่ติดเชื้อโควิด-19 สามารถติดต่อรับการดูแลได้หลายช่องทาง ทั้งสายด่วนสาธารณสุข 1668 ศูนย์บริการช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 และสายด่วนคนพิการ 1479 รวมถึงแอปพลิเคชัน TTRS กรณีคนพิการทางการได้ยินและสื่อความหมาย



         ส่วนการตรวจสอบการติดเชื้อคลัสเตอร์สถานดูแลผู้สูงอายุ 3 แห่ง ย่านบางแค นายสกลธี  ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สำนักอนามัย กทม. ประสานกรมส่งเสริมสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เฝ้าระวัง ตรวจเชิงรุก โดยแยกผู้ติดเชื้อที่รอไปโรงพยาบาล อยู่คนละชั้นกับคนยังไม่ติดเชื้อ พร้อมทั้งสอบสวนโรคและห้ามญาติเยี่ยม และให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้สูงอายุ ที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง กักตัวก่อน



ประจวบฯ สั่งโรงงานห้ามรับแรงงานใหม่ กำชับทุกตลาดระวังพ่อค้า-แม่ค้าขาจร



           นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชี้แจงเรื่องการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  พร้อมทั้งกำชับให้ตรวจสอบการค้าขายในตลาดนัดของแต่ละอำเภอ เนื่องจากมีกลุ่มแม่ค้า พ่อค้าขาจร จากหลายจังหวัดที่ถูกสั่งปิดตลาดเข้ามาขายสินค้า จึงขอให้เจ้าของตลาดทุกแห่ง เฝ้าระวังอย่างเข้มงวด และสั่งการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) เทศบาล ลงพื้นที่ตรวจสอบทุกตลาด



          สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัด 417 แห่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดมีคำสั่งให้เจ้าของโรงงานห้ามรับแรงงานใหม่ ไม่ว่าคนไทยหรือต่างชาติ เข้ามาทำงาน เพื่อป้องกันการนำเชื้อเข้ามาระบาดในโรงงาน



          กรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ภายในโรงงานสับปะรดกระป๋องของบริษัท โดล ไทยแลนด์ จำกัด ต.หนองพลับ อ.หัวหิน ขณะนี้จังหวัดให้กักตัวแรงงานเมียนมา 1,375 คน จากการเฝ้าระวังและตรวจสอบเชิงรุกพบผู้ป่วยโควิด-19 ที่บริษัทโดล  มีประวัติเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยยืนยันจากโรงงานสับปะรดกระป๋อง ของบริษัท ควอลิตี้ ไพน์แอปเปิ้ล โปรดักส์ จำกัด ที่ ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน ซึ่งมีการระบาดก่อนหน้านี้



-จากการค้นหาเชิงรุกในบริษัทโดล พบผู้ป่วย 56 คน เป็นชาวไทย 10 คน เมียนมา 46 คน



-กักตัว 14 วัน แรงงานเมียนมา 1,375 คน ในสถานที่กักกันชั่วคราว 3 แห่ง ได้แก่ หอพักภายในโรงงานสับปะรดของบริษัท โดล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล อ.หัวหิน และโรงแรมแอทเดอร่า ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน มีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันการหลบหนี



          สำหรับการจัดสรรวัคซีนล็อตพิเศษเป็นกรณีเร่งด่วนให้กับประชาชนในพื้นที่รอบโรงงานบริษัทโดล เหมือนกรณีการระบาดที่โรงงานสับปะรดกระป๋อง ที่ ต.หินเหล็กไฟ ขณะนี้ได้เสนอขอวัคซีนไปที่กระทรวงสาธารณสุขแล้ว จากนั้นจะมีการประเมินสถานการณ์จากจำนวนตัวเลขผู้ป่วย



1 มิ.ย.เดินทางไปเชียงใหม่ต้องกักตัว พบคนต่างถิ่นนำเชื้อเข้ามาแพร่เพิ่มขึ้น  



         นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ออกคำสั่งที่ 61/2564 เรื่องมาตรการควบคุมผู้เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1มิ.ย.64 เป็นต้นไป



- ขอให้ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ 4 จังหวัดสีแดงเข้ม คือ กรุงเทพมหานคร จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ กรอกข้อมูลในระบบเชียงใหม่ชนะ CM-CHANA ไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง ก่อนเดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ และแสดงหลักฐานการลงทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่



-ระหว่างอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ต้องปฏิบัติตัวตามคำแนะนำจากระบบ CM-CHANA อย่างเคร่งครัด



-ต้องกักตนเองเป็นระยะเวลา 14 วัน หรือเท่าจำนวนวันที่อยู่ในพื้นที่



-แบ่งกลุ่มผู้เดินทางออกเป็น 5 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้เดินทางกลับภูมิลำเนา, กลุ่มนักเรียน นักศึกษา, กลุ่มผู้เดินทางมาปฏิบัติราชการ ติดต่อราชการ หรือผู้เดินทางมาทำธุรกิจหรือธุรกรรมในเวลาสั้นๆ, กลุ่มนักการทูต เจ้าหน้าที่สถานทูต กงสุล เจ้าหน้าที่กงสุล และครอบครัวหรือผู้ติดตาม และกลุ่มนักท่องเที่ยว



          ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ปัจจัยเสี่ยงที่พบว่ามีการติดเชื้อ



-สัมผัสในครอบครัวและในสถานที่ทำงานเพิ่มสูงขึ้น



-การสัมผัสในชุมชน



-การนำเชื้อเข้ามาจากต่างพื้นที่ มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น



         ปัจจัยทั้งหมดมาจากบุคคลที่มีความเสี่ยงและไม่กักตนเองอยู่ที่บ้าน รวมทั้งผู้ที่เดินทางออกไปต่างจังหวัดโดยเฉพาะพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เมื่อกลับเข้ามาในพื้นที่แล้วไม่เข้ารับการตรวจคัดกรอง



          ส่วนการตรวจคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยง จ.เชียงใหม่ พบคลัสเตอร์ใหม่เพิ่มขึ้นอีก 2 คลัสเตอร์ คือ



-คลัสเตอร์บริษัทขนส่งสินค้า อำเภอสารภี พบผู้ป่วย 2 คน เป็นสามีภรรยา สามีทำงานที่บริษัทขนส่ง ติดเชื้อสู่เพื่อนร่วมงาน 4 คน และมีหนึ่งคนแพร่เชื้อต่อครอบครัว 3 คน ส่วนภรรยาทำงานบริษัทเอกชนที่อำเภอสันทราย แพร่เชื้อสู่เพื่อนร่วมงานอีก 3 คน ทำให้คลัสเตอร์นี้มีผู้ติดเชื้อแล้ว 13 คน ทีมอำเภอสารภีและอำเภอสันทราย ได้ลงพื้นที่ควบคุมโรคและตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูงไปแล้ว 50 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 80 คน



-ขณะที่อีกคลัสเตอร์เกิดที่ตำบลสันนาเม็ง อำเภอสันทราย พบผู้ติดเชื้อในจังหวัดเชียงใหม่ 10 คน และจังหวัดลำปางอีก 5 คน ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค เบื้องต้น พบว่า คลัสเตอร์ที่มีการกระจายออกไปเกิดจากการรวมกลุ่มทำกิจกรรมทางสังคมจนทำให้มีการติดเชื้อกระจายเป็นวงกว้าง



นป.สอ.รฝ.49 1 ตรวจพบเรืออินโดฯ ลักลอบขนรังนกเข้าเมือง



          หน่วยปฏิบัติการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 491 (นป.สอ.รฝ.491) ได้จัดชุดตรวจการณ์เคลื่อนที่ด้วยเรือเล็ก ลาดตระเวนตรวจการณ์ทางน้ำบริเวณโดยรอบของเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล และได้ตรวจพบเรือประมงต้องสงสัย 1 ลำ จอดทอดสมออยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะหลีเป๊ะ ระยะห่างจากเกาะประมาณ 3 ไมล์ จึงได้นำเรือเข้าทำการตรวจสอบ



          ผลการตรวจสอบพบว่าเรือดังกล่าวชื่อ KM.ANTAMERA GT 7 No. 224PPF ตัวเรือสีน้ำเงิน สัญชาติอินโดนีเซีย มีลูกเรือจำนวน 7 คน เป็นชาวอินโดนีเชียทั้งหมด มีหนังสือเดินทาง 4 คน ไม่มีหนังสือเดินทาง 3 คน ตรวจภายในเรือพบลังใส่เศษรังนกจำนวน 5 ลัง ไม่มีเอกสารสำแดงรายการสินค้า และไม่พบอุปกรณ์ทำการประมงแต่อย่างใด



          จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าเรือได้เดินทางมาจากประเทศอินโดนีเซีย จุดหมายปลายทางคือชายฝั่งของ จ.สตูล จึงได้แจ้งศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล (ศรชล.จว.สตูล) ในการตรวจสอบข้อมูลการเข้าเมืองของดังกล่าว ทั้งนี้ ทัพเรือภาคที่ 3 ได้จัดเรือ ต.996 ซึ่งกำลังลาดตระเวนในพื้นที่ สนับสนุน ศรชล.จว.สตูล เข้าดำเนินการควบคุมเรือดังกล่าวต่อไป



           ในส่วนของการดำเนินคดี เบื้องต้น ได้แจ้งข้อกล่าวหา นำเรือเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และนำสินค้าเข้ามาโดยไม่ผ่านศุลกากร โดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.การส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ.2522 นำเข้าสินค้าซึ่งต้องขออนุญาตโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้น จึงได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะหลีเป๊ะ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป





CR:ทัพเรือภาคที่ 3

ข่าวทั้งหมด

X