กรมชลฯ บริหารจัดการน้ำ เตรียมคน-เครื่องมือ รับไซโคลน ‘ยาอาส’
การเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฝนตกหนักตั้งแต่วันที่ 25-27 พ.ค. 64 เนื่องจากอิทธิพลของพายุไซโคลน “ยาอาส” (YAAS) บริเวณอ่าวเบงกอลตอนบน พายุลูกนี้ เป็นชื่อภาษาอาหรับ ประเทศโอมาน ตั้งชื่อมีความหมายว่า ดอกมะลิ เป็นพายุไซโคลนลูกที่ 2 ที่จะพัดถล่มอินเดีย และทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ทำให้หลายจังหวัดภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กำชับให้โครงการชลประทานในพื้นที่เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนตกหนัก จัดกำลังเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ในพื้นที่เสี่ยง จัดเตรียมรถแบคโฮ รถขุด รถเทรลเลอร์ เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ และเครื่องผลักดันน้ำไว้ในพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้สามารถนำไปช่วยเหลือประชาชนได้ทันที รวมทั้งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ หากมีกรณีฝนตกหนัก หรือลมกระโชกแรง
อธิบดีกรมชลประทาน ย้ำเรื่องการบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม พร้อมย้ำให้เครือข่ายชลประทานในพื้นที่จังหวัดเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบติดตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดทำงานร่วมกันกับผู้ว่าราชการจังหวัด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฝ่ายความมั่นคงเพื่อแจ้งเตือนประชาชนทันที
ทิศทางการเคลื่อนตัวของไซโคลนยาอาส กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 8 รายงานว่า พายุลูกนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วประมาณ 15 กม./ชม. มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กม./ชม. คาดว่าในวันนี้ จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณรัฐโอริสสาและรัฐกัลกัตตา ประเทศอินเดีย ทำให้หลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้มีฝนตกและคลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร
CR:กรมชลประทาน
คาดไซโคลน ยาอาส มีกำลังแรง 185 กม./ชม.ก่อนขึ้นฝั่ง พบผู้เสียชีวิตถูกไฟดูด 2 รายแล้ว
สถานการณ์ในประเทศอินเดีย พื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของอินเดียเผชิญกับพายุไซโคลนลูกที่ 2 ในรอบ 2 สัปดาห์เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เร่งอพยพประชาชนเกือบ 1,200,000 คนไปอยู่ในที่พักพิงฉุกเฉินเพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียจากพายุไซโคลนยาอาส ที่เพิ่มกำลังแรงในอ่าวเบงกอล ในเวลาเดียวกันกับที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังค้นหาร่างผู้เสียชีวิตจากพายุไซโคลนเตาะแต่ เป็นภาษาเมียนมา แปลว่าตุ๊กแก คาดว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 155 ราย
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของอินเดีย ระบุว่า พายุไซโคลนยาอาสเป็นพายุที่มีความรุนแรงมาก คาดว่า จะมีลมกระโชกแรงถึง 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อเคลื่อนเข้าสู่ชายฝั่งใกล้พรมแดนระหว่างรัฐเบงกอลตะวันตกและรัฐโอริสสาในวันนี้ นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่า พายุไซโคลนจะทำให้สถานการณ์โควิด-19 มีความรุนแรงมากขึ้น
ตั้งแต่เมื่อวานนี้ มีพายุ ลมแรงเกิดขึ้นทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ถูกไฟฟ้าดูดในรัฐเบงกอลตะวันตก และต้องปิดสนามบินที่โกลกาตาเมืองหลักของรัฐ ต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้
ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวโทษภาวะโลกร้อนว่าเป็นตัวกระตุ้นให้พายุไซโคลนมีความรุนแรงมากขึ้น
สสจ.พังงา แถลงกรณีชายวัย 43 ปี เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
นพ.วิเศษ กำลัง รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพังงา พญ.ทิพย์รัตน์ ต้นสกุลประเสริฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพังงา และ นพ. พีรวิชญ์ ปิ่นพิทักษ์ อายุรแพทย์ โรงพยาบาลพังงา แถลงชี้แจง กรณีชายอายุ 43 ปี เสียชีวิต ภายหลังการไปรับการฉีดวัคซีนที่ จ.ภูเก็ตว่า แพทย์ผู้ทำการรักษาและอายุรแพทย์ ระบุสาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันและผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวคือไขมัน
โรงพยาบาลพังงา ได้แนะนำให้ญาติส่งศพเพื่อไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงที่จ.สุราษฎร์ธานี แต่ญาติประสงค์จะรับศพไปดำเนินการตามพิธีทางศาสนา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงาและโรงพยาบาลพังงา ได้เก็บตัวอย่างเลือดและสารคัดหลั่งจากผู้เสียชีวิต เพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการและจะมีผู้เชี่ยวชาญจากกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ลงพื้นที่เพื่อร่วมสอบสวนเพิ่มเติม นอกจากนี้ ได้ประสานงานกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เพื่อตรวจสอบรายละเอียดในส่วนของล็อตวัคซีนที่ได้ทำการฉีด เพื่อให้ญาติผู้ป่วยและประชาชนได้ทราบข้อมูลที่ชัดเจน
รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพังงา กล่าวว่า จะดำเนินการหาสาเหตุการเสียชีวิตจากพยานแวดล้อมตลอดจนผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการโดยเร็วที่สุด และในส่วนของวัคซีนที่ฉีดให้กับผู้เสียชีวิตและผู้มีอาการข้างเคียงก็จะต้องศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับเขตและกระทรวง
รพ.พังงา ส่งผู้ป่วยอีกราย ป่วยขาซ้ายอ่อนแรง หลังรับวัคซีน ส่งตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
นพ.พีรวิชญ์ ปิ่นพิทักษ์ อายุรแพทย์ โรงพยาบาลพังงา ชี้แจงอีกกรณีหนึ่งว่า โรงพยาบาลพังงา มีผู้ที่เข้ารับการรักษาตัว ภายหลังการรับวัคซีนจากโรงพยาบาลถลางอีก 1 คน ชายอายุ 52 ปี มีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง รับประทานยาที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต อาการแรกรับ ขาด้านซ้ายอ่อนแรง ผลการตรวจ X-ray คอมพิวเตอร์ อยู่ในเกณฑ์ปกติ ผลเลือดปกติ และในวันนี้จะส่งตัวเพื่อตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง (MRI) ที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
หากทั้งสองกรณีมีการสรุปชัดเจนว่ามาจากการฉีดวัคซีน ก็จะส่งข้อมูลให้คณะกรรมการวัคซีนส่วนกลางดำเนินการต่อไป ในส่วนของประชาชนที่ได้ลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีน ขออย่าได้หวั่นวิตก หากมีโรคประจำตัวหรือมีความวิตกกังวล ให้ปรึกษาแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้าน
CR:สำนักงานสาธารณสุข จ.พังงา
ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ยืนยัน ไม่มีรถตู้เหมาคัน ขนชาวมุสลิมมาที่ภูเก็ต
พล.ต.ต.ภรศักดิ์ นวนหนู ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต (ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต) ตรวจสอบข่าวที่ระบุว่ามีรถตู้เหมาคัน ขนชาวมุสลิมมาที่จังหวัดภูเก็ตในช่วงเวลากลางคืน คันละไม่ต่ำกว่า 20 คน มาอยู่ในหมู่บ้านที่ชาวมุสลิมได้ซื้อไว้ว่าจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด (CCTV) ที่คอยตรวจจับและบันทึกข้อมูลรถทุกคันที่เข้า-ออก จังหวัดภูเก็ตเพื่อหาข้อมูลรถตู้ที่ผ่านเข้าด่านตรวจ
-ช่วงวันที่ 18-20 พ.ค.64 เวลา 23.00 น.ถึงเวลา 05.00 น.ของอีกวัน ปรากฏว่ามีรถตู้เข้าจังหวัดภูเก็ตในช่วงเวลาดังกล่าว จำนวน 2 คัน เป็นรถสำนักสงฆ์ 1 คัน รถมูลนิธิ 1 คัน
-ช่วงวันที่ 21-24 พ.ค.64 ผู้ที่เข้าจังหวัดภูเก็ต เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ออกใบสั่งกักทั้งหมด ซึ่งมีข้อมูลอยู่ที่ด่านตรวจและศูนย์ปฎิบัติการภาวะฉุกเฉิน (E0C) ตำบล ซึ่งตรวจสอบรายชื่อเบื้องต้น ยังไม่มีชื่อที่น่าสงสัยว่าเป็นผู้ที่เดินทางมาจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้
พล.ต.ต.ภรศักดิ์ กล่าวว่า เราสามารถตรวจสอบข้อมูลรถตู้ที่เข้าจังหวัดภูเก็ต ย้อนหลังได้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วและจะเร่งดำเนินการให้ความจริงปรากฏโดยเร็ว ขอขอบคุณทุกเบาะแส โดยการคัดกรองคน แม้ว่าจะหลุดรอดสายตาตน แต่ไม่อาจหลุดสายตาเทคโนโลยีไปได้ คนภูเก็ตเห็นความสำคัญเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ล่าสุด นายก อบจ. ได้สั่งเสริมเขี้ยวเล็บเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจตราเฝ้าระวังด้วยกล้อง CCTV ให้ตำรวจจัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว
CR:สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
พบติดเชื้อเพิ่มอีก 42 คน โรงงานสับปะรด บ.โดล อ.หัวหิน ยังไม่แพร่เชื้อสู่ชุมชน-สุ่มตรวจสินค้า
นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจค้นหาเชิงรุกเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่โรงงานสับปะรดกระป๋อง บริษัท โดล ไทยแลนด์ ต.หนองพลับ อ.หัวหิน
-ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 สะสมจำนวน 42 คน
-แรงงานเมียนมา 39 คน และ แรงงานไทย 3 คน
การพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็นการทยอยตรวจ หลังจากเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 64 พบผู้ป่วยรายแรกเป็นแรงงานต่างด้าวที่มีความเชื่อมโยงกับผู้ป่วยติดเชื้อจากโรงงานสับปะรดกระป๋องบริษัท ควอลิตี้ ไพน์แอปเปิ้ล ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน
โรงงานบริษัท โดล มีพนักงานประมาณ 3,800 คน เป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมามากกว่า 1,300 คน แรงงานไทยกว่า 2,400 คน เบื้องต้นยังไม่มีคำสั่งปิดโรงงานเพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาการกระจายตัวของแรงงานไปสู่พื้นที่อื่นๆ ทำให้ยากต่อการควบคุม แต่จะใช้แนวทางการนำผู้ป่วยติดเชื้อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในสถานที่ที่จัดเตรียมไว้ ส่วนแรงงานที่ผ่านการตรวจแล้วมีผลเป็นลบจะให้ทำงานและพักอยู่ภายในโรงงานตามระยะเวลาที่กำหนด
สำหรับข้อกังวลเกี่ยวกับสินค้าจะปนเปื้อนเชื้อโควิด-19 จากการลงพื้นที่ตรวจสอบกระบวนการผลิตของโรงงานทำให้มีความมั่นใจในระดับสูงว่าเชื้อแทบจะไม่มีโอกาสปนเปื้อนสินค้าได้เลย อย่างไรก็ตาม จะมีการเก็บตัวอย่างสินค้าสุ่มตรวจเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค
นอกจากนี้ ได้มีการเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งของประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนบริเวณรอบโรงงาน จนถึงขณะนี้ยังไม่พบการแพร่เชื้อสู่ชุมชน ยืนยันว่าได้มีการติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและยังควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดได้
ด้านนายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าและออกโรงพยาบาลสนาม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตวังไกลกังวล และโรงแรมแอทเดอร่า ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน และช่วงบ่ายวันนี้ มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แถลงข้อมูลเพิ่มเติม
CR:สำนักงานสาธารณสุข จ. ประจวบคีรีขันธ์