กรมชลประทาน ประสานทำฝนหลวงตอนบนของประเทศ ช่วยเกษตรกร

24 พฤษภาคม 2564, 17:05น.


          การเตรียมรับมือ กรณีฝนตกปริมาณน้อย กระทบเพาะปลูกข้าว ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า จากการติดตามสภาพฝนตลอดในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว พบว่า มีปริมาณฝนลดลง จึงได้ประสานไปยังกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ทางตอนบนของประเทศเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากในช่วงนี้ ทางตอนบนยังคงมีฝนตกน้อย ประกอบกับปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนต่างๆไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนให้เกษตรกรที่ทำการเพาะปลูกข้าวต่อเนื่องหรือข้าวนาปีได้อย่างเต็มศักยภาพ จึงขอให้เกษตรกรทำการเพาะปลูกเมื่อมีฝนตกสม่ำเสมอในพื้นที่



         สำหรับพื้นที่ใดทำการเพาะปลูกไปแล้วกรมชลประทานจะจัดสรรน้ำให้เพื่อช่วยลดความเสียหาย ของผลผลิตทางการเกษตร พร้อมกำชับให้โครงการชลประทานทุกแห่งเฝ้าระวังจุดเสี่ยงเกิดอุทกภัยซ้ำซาก การเร่งกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ การเตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ ที่พร้อมจะเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที ตามมาตรการรับน้ำฤดูฝนปี 64 ที่ได้วางไว้





          ส่วนการเตรียมพร้อมรับมือกับพายุไซโคลน “ยาอาส” ที่เคลื่อนตัวอยู่บริเวณอ่าวเบงกอล ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศแจ้งเตือนว่า จะส่งผลให้มีฝนตกหนักเป็นบางแห่งบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ ในช่วงวันที่ 24-29 พฤษภาคม 2564 นั้น ได้กำชับให้โครงการชลประทานในพื้นที่เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนตกหนัก ด้วยการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อพื้นที่ทั้งในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทานไว้ล่วงหน้า พร้อมทั้งร่วมบูรณาการกับผู้ว่าราชการจังหวัด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมรับมือสถานการณ์น้ำ หากประชาชนหรือหน่วยงานใดมีต้องการความช่วยเหลือสามารถโทรสายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา



         



          สำหรับปริมาณน้ำในปัจจุบัน (24 พ.ค. 64) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 35,652 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 47 ของความจุอ่างฯรวมกัน ยังสามารถรองรับน้ำได้รวมกันประมาณ 40,415 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา(เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 8,566 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 34 ของความจุอ่างฯรวมกัน ยังสามารถรองรับน้ำได้รวมกันอีกประมาณ 16,305 ล้าน ลบ.ม.



          สำหรับการเตรียมพร้อมใช้พื้นที่ลุ่มต่ำรองรับน้ำนอง กรมชลประทานได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560 ด้วยการใช้พื้นที่อย่างเต็มศักยภาพ ทั้งพื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งบางระกำและพื้นที่ลุ่มต่ำเจ้าพระยา 13 ทุ่ง ได้แก่



1) ทุ่งฝั่งซ้ายชัยนาท-ป่าสัก



2) ทุ่งป่าโมก



3) ทุ่งเจ้าเจ็ด



4) ทุ่งบางกุ้ง



5) ทุ่งผักไห่



6) ทุ่งโพธิ์พระยา



7) ทุ่งเชียงราก



8 ) ทุ่งท่าวุ้ง



9) ทุ่งบางกุ่ม



10) ทุ่งบางบาล-บ้านแพน



11) ทุ่งพระยาบรรลือ



12) ทุ่งรังสิตใต้ และ



13) ทุ่งบางระกำ รวมพื้นที่รับน้ำประมาณ 1,410,267 ไร่

ข่าวทั้งหมด

X