แผนการฉีดวัคซีนโควิด-19 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังการประชุมของศบค.จะมีการแถลงกับสื่อมวลชนอีกครั้ง เบื้องต้นการจัดสรรวัคซีนจะคำนึงถึง 4 ปัจจัยคือ
1. จำนวนวัคซีนที่มี
2.จำนวนประชากร
3.สถานการณ์การระบาดในปัจจุบัน และ
4.กลุ่มเป้าหมาย เช่น ครู แรงงาน ซึ่งการจัดสรรต้องคำนึงถึงสถานการณ์การระบาดเพื่อควบคุมโรค
สำหรับแผนการฉีดวัคซีนจะเริ่มใช้ในเดือนมิถุนายนเป็นหลัก ที่มีวัคซีนของแอสตราเซเนกาเข้ามา วัคซีนซิโนแวค เป็นส่วนเสริม ที่เริ่มมีการฉีดในเดือนมีนาคม เมษายน และพฤษภาคม โดยวัคซีนซิโนแวคที่เข้ามามีรวม 6 ล้านโดส และ ตรวจสอบล็อตการผลิตแล้ว 4 ล้านโดสกระจายฉีดไปแล้ว
นพ.โอภาส กล่าวว่า ขณะนี้ไม่อยากให้ประชาชนกังวลเรื่องของวัคซีนตอบสนองกับเชื้อไวรัสโควิดที่มีการกลายสายพันธุ์ เพราะประสิทธิภาพของวัคซีนยังให้ผลดีทั้งลดอัตราการเสียชีวิต และความรุนแรงของโรค อย่ากังวลหรือคำนึงเรื่องสายพันธุ์ที่เปลี่ยนไป
ส่วนสถานการณ์การระบาดของโควิดในอำเภอตากใบ จ.นราธิวาส หลังจากพบคนป่วยติดเชื้อที่มี 83 คน และสุ่มตรวจสายพันธุ์พบเป็นสายพันธุ์แอฟริกา 3 คนนั้น ไม่จำเป็นต้องมีการสุ่มตรวจหาเชื้อเพิ่มว่า มีการติดเชื้อเป็นสายพันธุ์ไหนอีก เพียงแต่ต้องมองไปข้างหน้าเน้นการตรวจหาเชื้อในชุมชนโดยรอบพื้นที่ ค้นหาผู้ป่วยติดเชื้อว่ามีหรือไม่ อย่างไรก็ตาม พบว่า ผู้ป่วยติดเชื้อที่พบในพื้นที่ตากใบ ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง