พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมด่วนร่วมกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กรณีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในกลุ่มคลัสเตอร์แรงงานต่างชาติ ทั้งในแคมป์คนงานก่อสร้างและในโรงงาน
โดย พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำให้ฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และ กระทรวงแรงงาน ประสานการทำงานเป็นหนึ่งเดียวกัน ภายใต้กลไกศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านของจังหวัด ร่วมกันคุมเข้มเฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย การลักลอบขนส่งยาเสพติด และสินค้าผิดกฎหมาย ควบคู่ไปกับการคุมเข้มมาตรการป้องกันควบคุมโรค ตั้งแต่พื้นที่ชายแดน ต่อเนื่องเข้ามาพื้นที่ชั้นในและเขตเมืองอย่างเป็นระบบ เน้นงานข่าวตามสืบจับขยายผลทำลายเส้นทางและโครงสร้างขบวนการลักลอบนำพาแรงงาน ตั้งแต่ต้นทางชายแดน ถึงปลายทางสถานประกอบการ พร้อมย้ำกับทุกส่วนราชการ หากมีการปล่อยปละละเลย หรือบกพร่องต่อหน้าที่ ต้องมีผู้รับผิดชอบ และจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทั้งวินัยและอาญากับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องสมประโยชน์ทุกระดับไม่มียกเว้น
นอกจากนั้น ที่ประชุมยังให้ใช้กลไกของศูนย์สั่งการชายแดน มีผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้อำนวยการสั่งการชายแดน รับผิดชอบเหตุการณ์ บูรณาการการคุมเข้มป้องกันชายแดน เพื่อไม่ให้มีการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และการขนแรงงานข้ามชาติโดยผิดกฎหมาย เพื่อไม่ให้หลุดรอดเข้ามายังพื้นที่ตอนใน และสั่งให้สร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการในเรื่องของการจ้างแรงงานต่างชาติ ที่ต้องทำตามขั้นตอนให้ถูกต้องตามกฎหมายด้วย
ด้าน พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร ได้เรียกประชุมศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย,นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน,พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม,ปลัดกระทรวงกลาโหม,ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการทหารสูงสุดร่วมประชุม รวมทั้งมีผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดน ประกอบด้วย แม่ฮ่องสอน กาญจนบุรี อุบลราชธานี สระแก้ว และนราธิวาส ร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ด้วย