นายกฯ ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็ม 2 เร่งบริหารวัคซีน ติดตามสายพันธุ์อินเดียและแอฟริกาใต้

          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา เข็มที่สองเรียบร้อยแล้วที่สถาบันบำราศนราดูร โดยมีนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นคนฉีดให้ และเมื่อฉีดครบสองเข็มแล้ว นายกฯได้รับวัคซีนพาสปอร์ตเพื่อแนบพร้อมหนังสือเดินทางในการเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ ซึ่งนายกฯ กล่าวว่า ไม่ว่าจะไปที่ไหนกลับมาก็ต้องกักตัว 14 วัน เป็นวัคซีนช่วยชาติ สำหรับคนที่ฉีดครบสองโดสแล้ว จะได้วัคซีนพาสปอร์ต ขอให้รักกัน สามัคคีกันมากๆ เราจะต้องผ่านพ้นไปด้วยกัน

         หลังจากฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว นายกฯ เปิดเผยว่า ขอให้เชื่อมั่นประสิทธิภาพวัคซีนสองยี่ห้อที่นำเข้ามา และยี่ห้ออื่นๆที่จะนำเข้ามา เนื่องจาก มีการตรวจสอบอย่างรัดกุม รอบคอบ การเดินทางมาฉีดวันนี้ เพราะไว้ใจในการตรวจสอบ ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย อาจจะมีผลข้างเคียงอยู่บ้าง แต่ไม่ถึงขั้นที่อันตรายถึงแก่ชีวิตต้องฟังคำแนะนำของหมอก่อนที่จะมาฉีดวัคซีน

          นายกฯ กล่าวถึง การจัดสรรและการกระจายวัคซีนว่า ต้องบริหารจัดการวัคซีนกับจำนวนและสถานการณ์ให้สอดคล้องกัน การกระจายสถานที่ฉีดมีทั้งของรัฐ เอกชน ภาคธุรกิจ ทุกที่จำเป็นต้องมีหมอ บุคลากรทางการแพทย์ บางแห่งมีมาก มีน้อย จะพยายามจัดหาเพิ่มเติมเท่าที่จะทำได้ ขอบคุณประชาชนที่มาจองฉีดวัคซีนมากพอสมควร ในทุกวันนี้ต้องพิจารณามาตรการที่จะควบคุมสถานการณ์ และปรับวัคซีนในพื้นที่ เพราะมีพื้นที่ที่มีการระบาดมาก น้อยแตกต่างกัน แต่ยืนยันทุกคนได้ฉีดแน่ๆ ช้าบ้าง เร็วบ้าง พื้นที่ไหนที่ยังไม่ได้ฉีดขอให้คุมเข้ม เข้มงวดในมาตรการ ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลจะสามารถบริหารวัคซีนได้  นายกฯ กล่าวว่า ต้องการให้เกิดความเข้าใจ ไม่ได้ต้องการให้เกิดการบิดเบือน การทำงานต้องมีปัญหา ต้องแก้ไข มีการหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในการบริหารวัคซีนในภาพรวม ส่วนต่างจังหวัดก็จะหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย