ทันสถานการณ์โลกเวลา06.30 น.วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม 2564

24 พฤษภาคม 2564, 06:06น.



นทท.เสียชีวิตเพิ่มเป็น 14 ราย รถกระเช้าไฟฟ้าขึ้นยอดเขาตกกระแทกพื้น ทางเหนือของอิตาลี



          เกิดอุบัติเหตุรถกระเช้าไฟฟ้า ขาดจากลวดตกลงไปกระแทกพื้น ขณะพานักท่องเที่ยวทั้งชาวอิตาลี  และต่างชาติจากเมืองสเตรซา ขึ้นไปสู่ยอดเขามอตตาโรเน่ เหนือทะเลสาบมาโจเร ซึ่งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,491 เมตร และล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอลป์ ในภูมิภาคพีดมองต์ ทางภาคเหนือของอิตาลี 



          นายวอลเตอร์ มิลาน โฆษกหน่วยกู้ภัยอัลไพน์แห่งชาติอิตาลี เปิดเผยว่า ตามปกติรถกระเช้าไฟฟ้าจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที เดินทางจากสถานีพื้นราบ ขึ้นไปถึงยอดเขาจุดหมาย แต่กระเช้าที่เกิดอุบัติเหตุขาดหล่นลงกลางทาง ประมาณ 300 เมตรก่อนถึงจุดหมาย เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุ และจากรายงานเบื้องต้นที่ได้รับ มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์อย่างน้อยเพิ่มขึ้นเป็น14 ราย และได้รับบาดเจ็บ 2 คน เป็นเด็กทั้งคู่ อาการสาหัส ถูกนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ส่งโรงพยาบาลในเมืองตูริน และอยู่ระหว่างการตรวจสอบจำนวนคนที่ขึ้นไปกระเช้าที่ชัดเจน



          เว็บไซต์สำนักข่าวอันซาของอิตาลี รายงานว่า รถกระเช้าขึ้นยอดเขาเพิ่งเปิดให้บริการใหม่เมื่อไม่นานมานี้ หลังถูกสั่งปิดนานหลายเดือน พร้อมกับรีสอร์ทตากอากาศบนภูเขาทุกแห่งทั่วอิตาลี ตามมาตรการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19



          สื่อท้องถิ่นอิตาลี รายงานอีกว่า อุบัติเหตุครั้งนี้นับเป็นครั้งร้ายแรงที่สุด ที่เกิดขึ้นกับรถกระเช้าท่องเที่ยวในอิตาลี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 ซึ่งเกิดเหตุเครื่องบินรบกองทัพสหรัฐฯ บินต่ำเกี่ยวสายลวดส่งกระเช้านักเล่นสกีขาด ในเมืองคาวาเลเซ ทางภาคเหนือของอิตาลี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 ราย




นักวิ่งเสียชีวิต 21 ราย หลังเจอพายุลูกเห็บ อากาศเย็นจัด ในการแข่งมาราธอนที่มณฑลกานซู



          สภาพอากาศเลวร้ายที่เกิดขึ้นระหว่างการแข่งขันวิ่งมาราธอนตามสภาพภูมิประเทศระยะ 100 กม. ในอุทยานป่าหินแม่น้ำเหลือง เมืองไป่หยิน มณฑลกานซู ของจีน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 21 ราย จากจำนวนผู้เข้าร่วมการแข่งขันวิ่งมาราธอนทั้งหมด 172 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัย ยืนยันว่า นักวิ่งอีก 151 คน ปลอดภัย โดยมี 8 คน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยและเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า มีนักวิ่งสูญหายด้วยนายจาง ซู่เฉิน นายกเทศมนตรีเมืองไป่หยิน  ตั้งคณะทำงานเพื่อสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดแล้ว ศูนย์กู้ภัยในพื้นที่ ระบุว่า เมื่อช่วงบ่ายวานนี้มีพายุลูกเห็บ และลมกรรโชกแรงพัดเข้ากระหน่ำพื้นที่ในเส้นทางการวิ่งช่วงระยะ 20-31 กม. จนทำให้ผู้เข้าร่วมการแข่งขันเกิดอาการป่วยและสูญเสียความร้อนในร่างกายเนื่องจาก สภาพอากาศที่เย็นลงอย่างฉับพลัน



หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์เยอรมนี เตือนโรงพยาบาล มีความเสี่ยงอาจถูกแฮกเกอร์โจมตี



          นายอาร์น เชินโบห์ม ผู้อำนวยการสำนักงานสหพันธรัฐเพื่อความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ (BSI) ของเยอรมนี ประกาศเตือนว่า โรงพยาบาลในเยอรมนีมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะตกเป็นเป้าหมายการโจมตีโดยกลุ่มแฮกเกอร์ หลังจากเมื่อเดือนพ.ค.64 มีการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่เกิดขึ้นมากมาย เช่น การโจมตีระบบสาธารณสุขของไอร์แลนด์และท่อส่งน้ำมันเชื้อเพลิงของสหรัฐฯ



          ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คลินิกในเยอรมนีถูกโจมตีทางไซเบอร์อยู่บ่อยครั้ง นายเชินโบห์ม เปิดเผยกับสำนักข่าวไซต์ ออนไลน์ของเยอรมนีว่า โรงพยาบาลอาจมีความเสี่ยงถูกโจมตีในระดับที่สูงกว่า



          นอกจากนี้ นายเชินโบห์ม ยังระบุว่า ธุรกิจต่างๆ ในเยอรมนีมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์ เนื่องจากมีการให้พนักงานทำงานจากบ้านในช่วงที่เชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด และได้กล่าวเสริมว่า ก่อนหน้านี้ บริษัทต่างๆ มีความจำเป็นที่จะต้องอนุญาตให้พนักงานทำงานจากบ้านได้โดยเร็ว จึงอาจทำให้ระบบไอทีของหลายบริษัทมีจุดอ่อนให้โจมตีได้




อินเดีย ออกใบอนุญาตให้บริษัทยาอีก 5 แห่ง ผลิตยารักษาภาวะติดชื้อราดำ



          รัฐบาลอินเดีย เข้มมาตรการรับมือการระบาดภาวะติดเชื้อราดำ ส่วนใหญ่พบในผู้ป่วยเบาหวานขั้นร้ายแรง และผู้ได้รับสเตียรอยด์รักษาอาการติดเชื้อโควิด-19 ปัจจุบันพบผู้ป่วยแล้วกว่า 8,800 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิต 219 ราย



          รัฐบาลอินเดีย รายงานว่า การติดเชื้อรา “มิวคอไมโคซิส” หรือราดำ ที่ส่วนใหญ่พบในผู้ป่วยเบาหวานขั้นร้ายแรง และผู้ได้รับสเตียรอยด์ รักษาอาการติดเชื้อโควิด-19 จนภูมิคุ้มกันต่ำ โดยขอให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เก็บรวบรวมข้อมูลส่งส่วนกลาง เพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป หลังมี 7 รัฐ รวมทั้งราชสถาน อุตรประเทศ และโอดิชา หรือ ชื่อเดิมคือ “โอริสสา” ประกาศให้ “ราดำเป็นโรคระบาดใหญ่” รัฐบาล อินเดียยังออกใบอนุญาตให้บริษัทยาอีก 5 แห่ง ผลิตยารักษาราดำ จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 5 บริษัท แต่ยังไม่เพียงพอรับมือการระบาด



คลัสเตอร์ใหม่! อินโดฯ พบบุคลากรทางการแพทย์ 42 คน ติดเชื้อจากลูกเรือฟิลิปปินส์



          อินโดนีเซีย พบการติดเชื้อโควิด-19 แบบเป็นกลุ่มก้อนหรือคลัสเตอร์ใหม่ เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 42 คน ที่รักษาลูกเรือสินค้าชาวฟิลิปปินส์ 13 คน ที่ติดเชื้อโรคโควิด-19



          ผู้ว่าการจังหวัดชวากลาง เปิดเผยว่า นอกจากบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ 42 คนแล้ว ยังมีอีก 140 คน ที่สัมผัสใกล้ชิดลูกเรือลำดังกล่าว



          เมื่อวันที่ 25 เม.ย.64 เรือลำนี้ เป็นเรือสินค้าสัญชาติปานามา เดินทางมาจากอินเดีย เทียบท่าจังหวัดชวากลาง



          ผลการลำดับพันธุกรรม พบว่า ลูกเรือติดเชื้อไวรัสปรับปรุงสายพันธุ์ B.1617.2 ที่พบครั้งแรกในอินเดีย เป็นสายพันธุ์ที่ติดเชื้อง่าย ลูกเรือคนอื่น ๆ ที่ตรวจไม่พบเชื้อถูกกักโรคอยู่บนเรือ ส่วนเจ้าหน้าที่ท่าเรือชาวอินโดนีเซียที่ดูแลการลำเลียงน้ำตาล ลงมาจากเรือ มีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวก 49 คน



          อินโดนีเซีย มียอดติดเชื้อสะสมกว่า 1,700,000 คน เสียชีวิตราว 49,000 ราย สถานการณ์รุนแรงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้



          ผู้เชี่ยวชาญ เตือนว่า การฉลองตรุษอีดิ้ลฟิตริ สิ้นสุดการถือศีลอด และการแพร่ของเชื้อไวรัสปรับปรุงสายพันธุ์ที่ติดง่าย อาจทำให้ยอดผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นอีก อินโดนีเซียเพิ่งประกาศเมื่อเดือนก่อน งดการตรวจลงตราหนังสือเดินทางหรือวีซ่าชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากอินเดีย




 

ข่าวทั้งหมด

X