กรุงเทพมหานครวางแนวทางควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในแคมป์คนงานก่อสร้าง

21 พฤษภาคม 2564, 16:05น.


          พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  ประธานการประชุมชี้แจงแนวทางป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในแคมป์คนงานก่อสร้าง โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักอนามัย สำนักงานเขต 50 เขต  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์   



         โดยในที่ประชุมมีการแจ้งมติของที่ประชุมศูนย์บูรณาการการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล หรือ ศบก.ศบค. ให้กรุงเทพมหานคร แจ้งผู้ประกอบการร่วมรับผิดชอบดูแลรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อที่เป็นลูกจ้างของตัวเอง  โดยจัดให้เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลคู่สัญญาของสำนักงานประกันสังคมที่ลูกจ้างได้ทำประกันตน เพื่อแบ่งเบาภาระการรักษาพยาบาลของหน่วยงานรัฐ



          ส่วนแนวทางป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในแคมป์คนงานก่อสร้าง   ผู้ประกอบการควรจัดให้มีการคัดกรองเบื้องต้น ด้วยการสังเกตผู้ที่มีอาการเจ็บป่วย เช่น มีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก ให้หยุดปฏิบัติงานและพาไปพบแพทย์ จัดหาหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย  จัดให้มีที่ล้างมือพร้อมสบู่ หรือจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ สำหรับคนงานอย่างเพียงพอ ทั้งในพื้นที่ก่อสร้างและที่พักคนงาน จัดที่นั่งรับประทานอาหารในสถานที่ก่อสร้าง ให้มีระยะห่างระหว่างบุคคล 1-2 เมตร การรับ-ส่งพนักงาน ควรจำกัดจำนวนคนในรถไม่ให้เกิดความแออัด ไม่ให้นั่งหันหน้าเข้าหากัน หลีกเลี่ยงการพูดคุย ไม่ควรแวะระหว่างทาง และไม่ควรรับประทานอาหารระหว่างเดินทาง จัดหาสื่อให้ความรู้และข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจให้แก่พนักงาน





          นอกจากนี้ ให้เตรียมวางแผนการปฏิบัติ และทำความเข้าใจกับคนงาน กรณีมีผู้ป่วยยืนยัน เช่น การห้ามโยกย้าย การใช้พื้นที่ในการแยกผู้ป่วย ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง หรือผู้สัมผัสเสี่ยงออกจากครอบครัว การสนับสนุนการดำรงชีวิตประจำวันในระหว่างกักตัว การจำกัดการเดินทางเข้าออกที่พัก การปิดพื้นที่พัก การอพยพโยกย้ายคนงานที่ไม่ป่วยกรณีมีการแพร่กระจายมาก การจัดการผู้ป่วยที่หายแล้วกลับมาทำงาน การประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ทันทีเพื่อรับทราบและปฏิบัติตามคำแนะนำ



          ส่วนคนงานและบุคคลในครอบครัว ให้ทำความสะอาดห้องพัก และพื้นที่ส่วนกลางที่ใช้งานร่วมกัน เปิดประตู หน้าต่าง เพื่อระบายอากาศเป็นประจำทุกวัน ไม่ควรอาบน้ำพร้อมกันในที่อาบน้ำรวม ควรใช้อุปกรณ์ส่วนตัวในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน  หมั่นทำความสะอาดห้องน้ำ ห้องส้วม หรือบริเวณที่อาจมีการปนเปื้อนหรือมีการสัมผัสบ่อยๆ ด้วยน้ำยาผสมผงซักฟอกหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคอย่างสม่ำเสมอ  ให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาปฏิบัติงาน  ไม่รับประทานอาหารร่วมกันเป็นกลุ่ม และควรแยกของใช้ส่วนตัว เช่น แก้วน้ำ ช้อน ไม่ไปในสถานที่แออัดหรือรวมกันของคนจำนวนมาก เช่น ตลาด ร้านค้า งดกิจกรรมสังสรรค์ที่มีการรวมกลุ่ม  งดการดื่ม ในช่วงเวลาหลังเลิกงานหรือวันหยุด หมั่นสังเกตอาการตนเองและบุคคลในครอบครัว หากมีอาการไข้ ไอ จาม หรือเหนื่อยหอบ ให้หยุดปฏิบัติงานและแจ้งผู้ประกอบการทราบ กรณีพบผู้ป่วยให้ผู้ประกอบการแจ้ง EOC สำนักอนามัย โทร. 09 4386 0051 หรือ 08 2001 6373 หรือ 0 2245 4964



          สำหรับมาตรการควบคุมการเคลื่อนย้ายแรงงานระหว่างพื้นที่เขตในกรุงเทพมหานคร ให้ผู้ประกอบการแจ้งฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตต้นทางและปลายทางทราบ ก่อนเดินทางไม่น้อยกว่า 7 วัน และให้เคลื่อนย้ายแรงงานให้เรียบร้อย ภายใน 1 วัน ระบุเหตุผลความจำเป็นและข้อมูลในการเดินทางเพื่อการทำงานข้ามเขต และให้แจ้งเขตปลายทางทราบ รวมทั้งให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามเขตอย่างเคร่งครัด โดยให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค.64 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง





          ส่วนเอกสารประกอบการขออนุญาตเคลื่อนย้ายแรงงาน ประกอบด้วย แบบคำขอการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงาน หนังสือเดินทาง หรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง หรือหนังสือรับรองสถานะบุคคล รายชื่อแรงงานต่างด้าวที่จะเดินทางหรือเคลื่อนย้าย ใบอนุญาตทำงาน สัญญาจ้างโครงการ เอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ตามที่สำนักงานเขตร้องขอ 



          นอกจากนี้กรุงเทพมหานครได้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ คำแนะนำในการป้องกันโควิด-19 ในสถานที่ก่อสร้าง ทั้งภาษาไทย ภาษาพม่า ภาษาอังกฤษ เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการและแรงงานในการปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกทั้งสำนักงานเขตจะร่วมกับภาคีเครือข่ายตรวจเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยงที่มีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ไม่ให้แพร่กระจายออกไปในวงกว้าง



ข่าวทั้งหมด

X