*ผบ.ทบ.เร่งทำความเข้าใจคนเห็นต่าง/มส.เตือนอย่าธุดงค์ในกทม.ปริมณฑล กระทบจร.*

สรุปข่าว 18.00 น

+++สถานการณ์การเมืองขณะนี้ ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีการเรียกตัวอดีตนักการเมืองมาปรับทัศนะคติ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า อยากให้ใช้คำว่าเป็นการเชิญบุคคลต่างๆ มาพูดคุยเพื่อให้เกิดความเข้าใจ ไม่ได้มีความรุนแรงใดๆ จากสถานการณ์ปัจจุบันเป็นเรื่องที่ต้องพยายามทำให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน ขอความร่วมมือในเรื่องของการแสดงออก และการแสดงความคิดเห็น ถ้าอยู่ในกรอบก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเกิดความไม่เข้าใจก็จำเป็นต้องเชิญมาพูดคุย แต่ละคนที่มาพูดคุย และปรับทัศนคติ ก็ได้รับรายงานว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยทุกคนเข้าใจ ซึ่งเคยพูดและขอร้องแล้วว่า ให้อยู่ในกรอบแต่ถ้ายังมีการแสดงออกถึงความไม่เข้าใจก็คงต้องมีการพูดคุยกันต่อไป  ยังตอบไม่ได้ว่า ยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ แต่ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยก็ไม่ต้องมีการเรียกเพิ่มเติมมาอีก แต่บางคนที่ไม่เรียบร้อยและไม่เข้าใจเราก็ต้องคุยให้เกิดความเข้าใจ

+++พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวเลขานุการเอกสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เดินทางไปพบแกนนำเสื้อแดงในภาคอีสาน ว่า ยังไม่ทราบในรายละเอียดว่า ไปปฏิบัติงานหรือไปทำกิจกรรมภารกิจอะไร แต่ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะดำเนินกิจกรรมต่างๆ ตามความเหมาะสมอยู่แล้ว ถ้าเรื่องนั้นๆไม่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ เชื่อว่าผู้แทนมิตรประเทศหรือนักการทูตทุกคนจะให้เกียรติประเทศที่ตนเองพำนักอยู่ และคงไม่ทำอะไรที่จะทำให้กระทบกับความสัมพันธ์ โดยเฉพาะเรื่องการเมืองหรือการแทรกแซงนโยบาย เพราะอาจจะส่งผลต่อความรู้สึกต่อคนของประเทศที่พำนักอยู่ได้

+++ในวันจันทร์นี้  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เพื่อพบปะเกษตรกร และประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) โดยจะเดินทางด้วยเครื่องบินแอมแบร์ออกจากกองการบิน ศูนย์การเคลื่อนย้ายกองทัพบก ในเวลา 07.30 น. และถึงท่าอากาศยานนครราชสีมาในเวลา 08.00 น. ก่อนเดินทางไปประชุม นบข.ครั้งที่ 1/2558 ที่สหกรณ์การเกษตรพิมาย จากนั้นในช่วงบ่ายจะเป็นการพบปะและฟังการบรรยายสรุปจากตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด และชมนิทรรศการเกษตรและสินค้า OTOP โอกาสนี้ พล.อ.ประยุทธ์จะปราศรัยเกี่ยวกับนโยบายและมาตรการของรัฐในการช่วยเหลือเกษตรกรด้วย ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯในช่วงเย็นวันเดียวกัน

+++นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ประธานกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "ทิศทางและอนาคตการเมืองไทย"  ในอนาคตนั้นหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญ และมีการเลือกตั้ง โอกาสที่จะเกิดกลุ่มการเมืองพรรคเดียว คล้ายกับพรรคอัมมโน ของมาเลเซีย โดยมีพรรคที่ได้คะแนนเสียงที่มากและมีอีก 3 - 4 พรรค มาร่วมเป็นรัฐบาล ซึ่งมีแนวโน้มที่จะผูกขาดเป็นรัฐบาลระยะยาวนานพอสมควร หากไม่มีการทุจริต และบริหารงานดี แต่ถ้ามีการทุจริต มีการโกง ประชาชนก็จะออกมาคัดค้าน ประเทศชาติก็จะจมปลักกับความขัดแย้งเหมือนเดิม

+++คดียักยอกเงิน สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป. ในฐานะหัวหน้าทีมสอบสวนคดีลักเงินคงคลังสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ร่วมประชุมกับพนักงานอัยการฝ่ายต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกสิกรไทย เพื่อหารือเกี่ยวกับคดีโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง 

+++ภายหลังการประชุม  พ.ต.อ.ณษ กล่าวว่า ในวันนี้ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายเข้าร่วมประชุม เนื่องจากเอกสารที่เราได้มามีจำนวนมากพอสมควร จึงได้เชิญตัวแทนจากธนาคารทั้ง 3 แห่งมาปรึกษาหารือกันในด้านเอกสาร แล้วอะไรที่ยังขาด หรือต้องการเพิ่มเติม เพื่อให้ครบแล้วจะให้ความร่วมมือกันในลักษณะไหน ซึ่งทุกฝ่ายก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี คิดว่าภายในสัปดาห์หน้า เอกสารต่างๆน่าจะครบถ้วนสมบูรณ์   นอกจากนั้น พนักงานอัยการฝ่ายต่างประเทศ ยังชี้แจง แนะนำในการทำเรื่องการนำตัวนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีนี้กลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย ซึ่งเมื่อมีการประสานงานร่วมกันแล้ว การดำเนินการที่จะนำตัวนายกิตติศักดิ์ น่าจะไปด้วยความรวดเร็ว

++++ส่วนของเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เราได้มาจากธนาคาร ตอนนี้ทั้งสถาบันเทคโนโลยีฯลาดกระบัง และธนาคารพาณิชย์ทั้ง 3 แห่ง ก็มาช่วยกันตรวจสอบเอกสารหลักฐาน ก็น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น หลักฐานแต่ละที่แต่ละส่วนที่ต้องตรวจสอบ ก็จะมาชนกัน ทุกอย่างเริ่มจะปะติดปะต่อกันแล้ว คาดว่าอีกไม่นานก็จะรู้ตัวว่า มีใครบ้างที่เกี่ยวข้อง และเกี่ยวข้องแค่ไหนเพียงใด คาดว่าจะสรุปสำนวนเพื่อส่งฟ้องได้ไม่เกินเดือนหน้า

++++กรมการปกครอง ออกหนังสือด่วน ถึงผู้ว่าฯทั่วประเทศ ห้ามข้าราชการ ปค.เล่น เฟซบุ๊ก ไลน์ ลงวันที่ 28 ม.ค.2558 ลงนามโดย นายกฤษฎา บุญราช อธิบดีกรมการปกครอง ส่งหนังสือมายังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเรื่อง"แนวทางการใช้คอมพิวเตอร์และเครื่องมือสื่อสารของทางราชการ" ระบุว่า กรมการปกครองได้รับแจ้งว่า มีบุคลากรภาครัฐบางราย ใช้คอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือสื่อสารทางราชการที่ติดตั้งไว้ตามที่ว่าการอำเภอ ศาลากลางจังหวัด หรือสำนักงานของกรมการปกครอง ไปใช้ในโปรแกรมโซเชียลมีเดีย เช่น โปรแกรมเฟซบุ๊ค ไลน์ อีเมลล์ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติราชการ โดยส่งข้อความหรือรูปภาพที่อาจเข้าข่ายความผิดอาญาหรือเกิดความเสียหายต่อผู้อื่น รวมทั้งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ขอให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นควบคุมดูแลการใช้คอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือสื่อสารทางราชการของบุคลากรกรมการปกครอง ให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนด ข้างต้นอย่างเคร่งครัด หากมีบุคลากรกระทำความผิดจะถือเป็นความบกพร่องของผู้บังคับบัญชาด้วย

+++พระพรหมโมลี (สุชาติ ธมฺมรตโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ในฐานะประธานคณะเลขานุการผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กล่าวภายหลังการประชุม มส.ว่า ได้หารือนอกรอบกับนายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ถึงข้อร้องเรียนของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเดินธุดงค์ธรรมชัยของวัดพระธรรมกาย ซึ่งคณะสงฆ์ได้รับทราบปัญหา และห่วงข้อเดือดร้อนของประชาชน ดังนั้น พศ.และคณะสงฆ์ จะหารือกับวัดพระธรรมกายว่า หากมีการจัดในครั้งต่อไปจะขอให้จัดในพื้นที่รอบนอก ไม่ควรที่จะจัดในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลที่มีการจราจรหนาแน่น เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อการจราจร และวิถีชีวิตของ การเดินธุดงค์จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ม.ค.นี้

+++สมาคมบริษัทประกันชีวิตของมาเลเซีย(แอลไอเอเอ็ม กล่าวในแถลงการณ์ว่าบริษัทประกันชีวิต 14 แห่งในมาเลเซียได้จ่ายค่าทดแทนรวมราว 16 ล้าน 8 แสนริงกิต(ราว 150 ล้านบาท)ให้แก่ญาติผู้โดยสารและลูกเรือของเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ของมาเลเซียแอร์ไลน์ เกือบจะครบทุกคนแล้ว หลังการสูญหายเมื่อเดือนมีนาคมปีก่อน

+++ทนายความของสตรีอินเดียวัย 26 ปีรายหนึ่งที่ระบุว่าถูกข่มขืนโดยนายชีพ กุมาร ยาดัฟ คนขับรถแท็กซี่ของบริษัทอูเบอร์ ผู้ให้บริการเรียกแท็กซี่ผ่านอินเตอร์เน็ตในกรุงเดลี กล่าวว่า เขาได้ยื่นฟ้องต่อศาลในนครซานฟรานซิสโกของสหรัฐฯ สำนักงานใหญ่ของบริษัทอูเบอร์ เพื่อดำเนินคดีต่อบริษัทฯฐานไม่อาจรับประกันความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสาร เรียกค่าเสียหายจำนวนหนึ่ง แต่ไม่เปิดเผยตัวเลขอย่างชัดเจน  ด้านนางไนรี ฮูร์ดาเจียน โฆษกบริษัทอูเบอร์ กล่าวในแถลงการณ์ว่าจะให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการนำตัวคนทำผิดไปลงโทษตามกฏหมายต่อไป สำหรับนายชีพ กุมาร ยาดัฟ ขณะนี้อยู่ระหว่างการถูกไต่สวนของศาลกรุงเดลีในข้อหาข่มขืนและกักขังหน่วงเหนี่ยว แต่เมื่อสัปดาห์ก่อน บริษัทอูเบอร์เริ่มเปิดให้บริการในกรุงเดลีอีกครั้ง ระบุว่า ได้สมัครขอใบอนุญาตประเภทเรียกแท็กซี่ผ่านวิทยุสื่อสารกับกรมขนส่งทางบกของอินเดียแล้ว พร้อมทั้งแนะนำลูกเล่นใหม่ในแอพพ์เรียกแท็กซี่ของอูเบอร์คือ ปุ่มแจ้งเหตุฉุกเฉิน

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1,581.25 จุด ลดลง 5.15 จุด มูลค่าการซื้อขาย 52,210.11 ล้านบาท

+++ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ปิดตลาดที่ 17,674.39 จุด เพิ่มขึ้น 68.17 จุด

+++ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดฮ่องกง ปิตลาดที่ 24,507.50 ลดลง 88.80 จุด