ยอดติดเชื้อโควิดรายใหม่ 3,481 คน-เลื่อนเปิดเทอม 14 มิ.ย.-ดีเดย์ฉีดวัคซีนพร้อมกัน 7 มิ.ย.นี้

          นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน  โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ประจำวันที่ 21 พฤษภาคม 2564

1.ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,481  คน แบ่งเป็น    

     - จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,644   คน

     - จากการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน   874   คน 

     - จากเรือนจำ / ที่ต้องขัง   951   คน     

     - ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกัน   12 คน

2.ยอดผู้ป่วยสะสม 123,066  คน  เฉพาะช่วงการระบาดเดือนเมษายน  94,203 คน

3.หายป่วยวันนี้   2,868  คน  ยอดหายป่วยสะสม  79,504 คน

4.ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 42,827  คน    

     - อาการหนัก  1,248 คน

    - ใส่ท่อช่วยหายใจ  408  คน

5.เสียชีวิตเพิ่มเติม  32 ราย  ยอดผู้เสียชีวิตสะสม  735 ราย

6.จำนวนผู้ได้รับวัคซีนรวมทั้งหมด   2,664,256 โดส

     - เข็มแรกเพิ่มขึ้น  78,560  คน สะสม   1,726,431   คน

     - เข็มสองเพิ่มขึ้น   29,580  คน   สะสม   921,825    คน

           สำหรับคลัสเตอร์ต่างๆในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ยังต้องจับตาคลัสเตอร์แคมป์ก่อสร้าง โดยขณะนี้ ตรวจพบคนงานติดเชื้อจำนวนมากที่แคมป์หลักสี่  ในจำนวนผู้ติดเชื้อมีคนงาน 15 คน ตรวจพบโควิดสายพันธุ์อินเดีย หรือ B1.1617.2 ซึ่งขณะนี้อยู่ในการดูแลของโรงพยาบาลแล้ว และส่งทีมสอบสวนโรคลงพื้นที่เพื่อควบคุมการแพร่กระจายเชื้อแล้ว 

          ส่วนจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10 อันดับ คือ กรุงเทพมหานคร 1,036 คน , สมุทรปราการ 457 คน , นนทบุรี 163 คน , ปทุมธานี 162 คน , ชลบุรี 127 คน , เพชรบุรี 77 คน , ระนอง 54 คน , ตาก 45 คน , สมุทรสาคร 40 คน และสงขลา 36 คน

          โฆษก ศบค.เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เป็นห่วงจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน จึงขอให้ฝ่ายการแพทย์ ทุกหน่วยงาน มหาวิทยาแพทย์ และโรงพยาบาลเอกชน ร่วมมือกันวางยุทธศาสตร์ในการดูแลรักษาผู้ป่วย แลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการและสนับสนุนทรัพยากรระหว่างกัน  

          ขณะที่แผนการให้บริการวัคซีน นายกรัฐมนตรีให้ข้อสรุปว่า จะมีการฉีดวัคซีนพร้อมกัน 7 มิถุนายนนี้ โดยมี 3 ช่องทางในการกระจายวัคซีน คือ

1.ระบบหมอพร้อม ผู้ที่อายุต่ำกว่า 60 ปี เปิดลงทะเบียน 31 พ.ค.64

2.ลงทะเบียน ณ จุดบริการ (On-site Registration)

3.กระจายวัคซีนให้กลุ่มเฉพาะ  เช่น บุคลากรทางการแพทย์  เจ้าหน้าที่ด่านหน้า ครู นักธุรกิจ นักศึกษา เป็นต้น

          การเตรียมความพร้อมเรื่องการลงทะเบียนฉีดวัคซีน

ระยะที่ 1 ปัจจุบัน – 6 มิถุนายน 64 ทยอยฉีดให้กลุ่มเป้าหมายที่ สธ.กำหนดตามโควต้าวัคซีนที่แต่ละหน่วยงานหรือองค์กรได้รับ เป็นการเตรียมความพร้อมทดสอบระบบเรื่องการลงทะเบียน

ระยะที่ 2 วันที่ 7 มิถุนายน 64 เป็นต้นไป เริ่มฉีดวัคซีนทั้งระบบเป็นวาระแห่งชาติ ในกลุ่มต่อไปนี้

     - บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ยังไม่ได้รับวัคซีน

     - กลุ่มอาชีพเสี่ยงติดเชื้อหรือกิจการที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีพของประชาชน เช่น สาธารณูปโภค อาหาร ยา

     - ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง

     - ตัวแทนนักกีฬาที่ไปแข่งขันต่างประเทศ

     - นักเรียน นักศึกษาที่ไปศึกษาต่างประเทศ

     - วัยทำงานผู้มีสิทธิประกันสังคม 

     - ประชาชนทั่วไป ทุกกลุ่ม ทุกสาขาอาชีพ

          โดยระบบหมอพร้อม จะเป็นแกนหลัก ซึ่งจะใช้ติดตามอาการหลังการฉีดและการออกใบรับรองการฉีดวัคซีน  โดยจุดบริการวัคซีนต่างๆ ทั้งในโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม จุดฉีดวัคซีนของเอกชน  ในต่างจังหวัด สามารถรับได้ 779,868 คนต่อวัน / กรุงเทพมหานคร รับได้ 80,000 คนต่อวัน

          ส่วนที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เมื่อเช้านี้ นอกจากจะมีมติขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร คราวที่ 12 ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 31 กรกฎาคม 2564 เพื่อควบคุมโรคแล้ว ที่ประชุมยังอนุมัติมาตรการด้านสาธารณสุขในการจัดประชุมรัฐสภา สมัยสามัญ ประจำปี ครั้งที่ 1 พ.ศ.2564  โดยเห็นชอบมาตรการจัดการประชุมตามที่รัฐสภาเสนอ โดยให้มีการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดการประชุม ยกเว้นกรณีมีผู้ควบคุมการประชุมจะผ่อนผันไม่ใช้ในการอภิปรายบางคราวได้  และมอบหมายให้กรุงเทพมหานคร สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเป็นหน่วยงานกำกับและติดตามการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข ที่กรุงเทพมหานครและกรมควบคุมโรค กำหนด  เช่น ต้องเว้นระยะห่าง ห้ามรวมกลุ่มกัน กำหนดจำนวนผู้ติดตามสมาชิกรัฐสภาและผู้ช่วยในการเสนอข้อมูล เป็นต้น รวมทั้งมอบหมายกระทรวงสาธารณสุขจัดสรรวัคซีนจำนวน 2,000 โดส เพื่อฉีดให้กับผู้เข้าร่วมประชุมรัฐสภา ช่วงฉีดระหว่างวันที่ 21-25 พ.ค.64

          นอกจากนี้ ที่ประชุมยังหารือเรื่องมาตรการเปิดเทอม เนื่องจากมีการแบ่งระดับสีพื้นที่สถานการณ์ใหม่  ดังนั้น 4 จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด คือ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ยังงดการใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน หรือกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มกันของคนจำนวนมาก โดยเลื่อนเปิดเรียนไปเป็นวันที่ 14 มิถุนายน  , ส่วนจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุด 17 จังหวัด อนุญาตให้ใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนได้ โดยต้องทำหนังสือขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือจัดการเรียนการสอนออนไลน์ผสมผสานได้   ส่วนพื้นที่ควบคุม 56 จังหวัด อนุญาตให้ใช้อาคารจัดการเรียนการสอนได้ ตามมาตรการที่กำหนด