หนุ่มอินเดีย ลอบเข้าชายแดนเชียงรายหวังไปกรุงเทพฯ จนท.สกัดทันผลักดันกลับทันที

          เจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังผาเมือง พร้อมด้วยตำรวจ สภ.แม่สาย และฝ่ายปกครองอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เปิดปฎิบัติการลาดตระเวนตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19

          โดยเมื่อคืนนี้ (20 พ.ค.64) ขณะเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนตรวจบริเวณท่าข้าม หลังวัดถ้ำผาจม (สวนแก้วรีสอร์ต) ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย ซึ่งเป็นชายแดนไทย-เมียนมา พบบุคคลต้องสงสัยเป็นชาย 1 คน มีท่าทางพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น ทราบชื่อ นายซออะแว อู อายุ 29 ปี สัญชาติอินเดีย จากการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย สอบถามได้ความว่า เดินทางมาจากฝั่งท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา หลบหนีเข้าประเทศไทย มาทางแม่น้ำสาย ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยหวังว่าจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อหาทางกลับประเทศอินเดีย แต่มาถูกเจ้าหน้าที่สกัดได้ก่อน เจ้าหน้าที่จึงผลักดันกลับไปประเทศเมียนมา

          นอกจากนี้ ในจุดเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังพบคนไทยอีก 4 คน เดินอยู่บนถนนทางขึ้นวัดถ้ำผาจม ท่าทางมีพิรุธ จึงเข้าไปตรวจสอบ ทราบชื่อ น.ส.ทาลิธา อายุ 47 ปี ชาวจังหวัดกาญจนบุรี , น.ส.กนกพร อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย , นายนัทที อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ และนายสมใจ อายุ 31 ปี ภูมิลำเนาอยู่ในเขตบางแค กรุงเทพฯ

          ทั้ง 4 คน สารภาพว่า เดินข้ามแม่น้ำสายมาจากฝั่งท่าขี้เหล็ก แล้วเดินมาตามสันเขาเพื่อลักลอบเข้าประเทศไทย โดยเสียค่าจ้างให้คนนำพา หัวละ 10,000-13,000 บาท เนื่องจากก่อนหน้านี้ทั้ง 4 คน ได้ลักลอบข้ามไปฝั่งประเทศเมียนมาเพื่อหางานทำและเยี่ยมญาติ ตอนนี้ต้องการกลับประเทศไทย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ เป็นบุคคลซึ่งเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไม่เดินทางเข้ามาตามช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่า สถานี หรือท้องที่และตามกำหนดเวลา ตามที่รัฐมนตรีได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา,ข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 , ข้อหาไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 (คำสั่งจังหวัดเชียงรายที่ 1380/2563) เรื่องการระงับการเดินทางเข้า-ออกของบุคคล ยานพาหนะและสิ่งของ ณ จุดผ่านแดนถาวร จุดผ่อนปรนการค้า และช่องทางอื่นๆ ตลอดแนวชายแดนเป็นการชั่วคราว