ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 08.30น.วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2564

21 พฤษภาคม 2564, 09:02น.


นายกฯ ยืนยันกับนิคเคอิ ญี่ปุ่น ฉีดวัคซีนตามแผน ศก.จะดีขึ้น  



          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์นิคเคอิ ในการประชุม International Conference on the Future of Asia (Nikkei Forum) ครั้งที่ 26 จัดโดยหนังสือพิมพ์นิคเคอิ ผ่านระบบทางไกล โดยตอบคำถามถึงประเด็นการบริหารสถานการณ์ภายในประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ว่า ขณะนี้ไทยยังควบคุมสถานการณ์ได้ดี ไม่ส่งผลกระทบในวงกว้าง เนื่องจากระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง บุคลากรทางสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ ดูแลประชาชนได้ทั่วถึง รัฐบาลได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค เร่งฉีดวัคซีนให้ประชากรอย่างน้อยร้อยละ 70 ภายในสิ้นปีนี้ โดยจะฉีดวัคซีนให้คนต่างชาติในไทยด้วย เมื่อเริ่มฉีดวัคซีนให้ประชาชนกลุ่มใหญ่เดือน มิ.ย.64 ได้ตามแผน เชื่อว่า สถานการณ์จะยิ่งดีขึ้นจากมาตรการเศรษฐกิจ รวมถึงแผนวัคซีน รัฐบาลฉีดได้เป้าหมาย เชื่อว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ



CR:รัฐบาลไทย 



จับคนลอบเข้าเมืองหนีโควิดจากเพื่อนบ้านมากขึ้น การสู้รบ-ศก.ไม่ดี  



          พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ สั่งการฝ่ายความมั่นคง ทหารและตำรวจ ในที่ประชุมสภากลาโหม ให้สนับสนุนการทำงานของรัฐบาล เพิ่มความเข้มงวด คุมเข้ม เฝ้าระวัง และสกัดกั้นชายแดน ป้องกันลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย รวมทั้งยาเสพติดและการค้ามนุษย์ ที่อาจเข้ามาพร้อมโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ให้มีมาตรการคัดกรองโรคเข้มข้น ต่อเนื่องควบคู่กันไป ประสานสืบจับกุมทำลายเครือข่ายและดำเนินการทางกฎหมายกับนายทุน ผู้ลักลอบและนำพาอย่างจริงจัง หากมีเจ้าหน้าที่รัฐในทุกระดับเข้าไปเกี่ยวข้อง ดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาเด็ดขาด ไม่มีละเว้น



-ภาพรวมตั้งแต่ ธ.ค.63 ถึงปัจจุบัน จับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายได้ 18,039 คน เป็นการจับกุมในพื้นที่ชายแดนได้กว่า 15,000 คน และพื้นที่ตอนในเกือบ 3,900 คน



-สถิติผลการจับกุมรอบ 6 เดือน พบว่ามีความสัมพันธ์กับสถานการณ์ประเทศเพื่อนบ้านและความต้องการแรงงานจากภาคธุรกิจไทย โดยเฉพาะสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและการสู้รบในเมียนมา ทำให้จับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองได้มากขึ้นในรอบ 3 เดือน



-ฝ่ายความมั่นคงยังคงเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นในพื้นที่ชายแดนด้านมาเลเซียและเมียนมา ที่มีแนวโน้มเสี่ยงต่อการข้ามมาของโควิด-19 สายพันธุ์ ที่ยังไม่พบการแพร่ระบาดในไทย พร้อมกับผู้ลักลอบเข้าเมือง



รมว.พณ.เสนอฉีดวัคซีนให้กลุ่มโรงงาน ซาเล้ง



          นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึง ความคืบหน้าการเสนอให้ฉีดวัคซีนกลุ่มโรงงาน ซาเล้ง และตลาดสดว่าได้เสนอเข้าที่ประชุม คณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 64 ขอให้ ศบค.ดำเนินการเพราะเป็นกลุ่มเสี่ยง จำเป็นต้องสัมผัสคนตลอดเวลา นอกจากนั้น โรงงานก็มีความสำคัญ เพราะขณะนี้เศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนได้ด้วยการส่งออก นอกจากคุณภาพของอาหารที่ปลอดโควิด-19 แล้ว คนงานจำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนด้วย เรื่องนี้ก็ได้รับการตอบรับแล้วว่าจะให้ ศบค. รับไปดำเนินการต่อไป ทั้งซาเล้ง คนจนตัวจริง แม่ค้า พ่อค้าทั้งหลายในตลาดนัด ตลาดสด ควรได้จัดลำดับความสำคัญให้เพราะพวกเขาต้องสัมผัสคนตลอด คนซื้อจะได้ปลอดภัยด้วย โรงงานก็มีความสำคัญ เพราะขณะนี้เศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนได้ด้วยการส่งออกที่เป็นพระเอก ขอให้รอฟังผลจาก ศบค.ต่อไป



คนงานต่างด้าว ติดเชื้อในโรงงานน้ำแข็ง เขตจตุจักร 5 คน



          กรณีพบคลัสเตอร์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในโรงงานน้ำแข็ง ในเขตจตุจักร รายงานจากเขตจตุจักร ระบุว่า เป็นโรงงานน้ำแข็ง ปากซอยลาดพร้าว 15  สั่งปิดโรงงาน 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.64 คลัสเตอร์นี้พบเชื้อรายแรกในแรงงานต่างด้าว ต่อมาตรวจพบติดเชื้อในกลุ่มนี้ที่ทำงานด้วยกันรวม 5 คน จากการตรวจสอบ พบว่า กลุ่มผู้ติดเชื้อพักอยู่รวมกันในตึกแถว และส่งตัวทุกคนไปรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว และในวันนี้ นัดตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยงสูงอีก 17 คน อีกครั้ง



คลัง ระงับสิทธิร้านค้าเพิ่มอีก 7 ราย ให้ชี้แจงภายใน 4 มิ.ย.

          น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าของโครงการเราชนะว่ากระทรวงการคลังตรวจพบธุรกรรมที่เข้าข่ายฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการ จึงได้ทำการระงับสิทธิชั่วคราวการเข้าร่วมโครงการของผู้ประกอบการ 7 ราย จากระงับสิทธิแล้ว 2,905 ราย เนื่องจาก ตรวจพบธุรกรรมที่เข้าข่ายมีความผิดปกติหรือเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการเราชนะ เช่น การรับแลกวงเงินสิทธิเป็นเงินสด เป็นต้น กระทรวงจะเข้มงวดและติดตามตรวจสอบประชาชนและผู้ประกอบการที่กระทำการเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์ โดยร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น ตรวจสอบข้อเท็จจริงและขยายผลการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป  



          ผู้ประกอบการที่ถูกระงับสิทธิ 7 ราย ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (โครงการเราชนะ) ภายใน 4 มิ.ย.64 หากพ้นเวลาดังกล่าวจะดำเนินการตามหลักเกณฑ์ว่าด้วยวิธีการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงและเรื่องร้องเรียนสำหรับโครงการเราชนะต่อไป



          น.ส.กุลยา กล่าวถึง ความคืบหน้าของโครงการเราชนะ เมื่อวันที่ 20 พ.ค.64 มีผู้ได้รับสิทธิในโครงการเราชนะ รวม 32.9 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 205,987 ล้านบาท

ข่าวทั้งหมด

X