อิสราเอล และ ฮามาส ประกาศหยุดยิงแล้ว
ทางการอียิปต์ ประกาศว่า อิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์หลัก 2 กลุ่มในฉนวนกาซา คือกลุ่มฮามาสและกลุ่มอิสลามิกญิฮาด ประกาศหยุดยิงที่ดำเนินมานาน 11 วันแล้ว คณะผู้แทนของอียิปต์ 2 คน จะเดินทางไปที่กรุงเทลอาวีฟและดินแดนปาเลสไตน์เพื่อติดตามการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง
แถลงการณ์จากสำนักงานของนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ระบุว่า คณะมนตรีความมั่นคง ยอมรับข้อเสนอแนะของเจ้าหน้าที่ความมั่นคงทุกคนอย่างเป็นเอกฉันท์ ยอมรับข้อริเริ่มของอียิปต์เพื่อหยุดยิงร่วมกันโดยไม่มีเงื่อนไขและให้มีผลตามเวลาที่มีการตกลงกันไว้
กลุ่มฮามาสและอิสลามิกญิฮาด ออกแถลงการณ์เรื่องการหยุดยิงเช่นกัน โดยระบุให้มีผลบังคับใช้ในเวลา 02.00 น. ของวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น (06.00 น.ตามเวลาประเทศไทย)
การสู้รบเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 10 พ.ค.64 หลังจากที่มีความตึงเครียดในนครเยรูซาเล็มมานานหลายวัน กลุ่มฮามาสและอิสลามิกญิฮาดในฉนวนกาซายิงจรวดโจมตีอิสราเอลมากกว่า 4,300 ลูก แต่ส่วนใหญ่ถูกสกัดด้วยระบบป้องกันทางอากาศไอออนโดม ขณะที่ อิสราเอล ส่งเครื่องบินรบ และยิงจรวดจากเรือโจมตีเป้าหมายในฉนวนกาซา ทำให้ในอิสราเอลมีผู้เสียชีวิต 12 ราย รวมทั้งเด็ก 2 ราย ชาวอินเดีย 1 รายและคนไทย 2 ราย
ส่วนในฉนวนกาซา มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต 232 ราย รวมทั้งเด็ก 65 รายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1,900 คน พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกทำลายกลายเป็นซากปรักหักพัง ประชาชนราว 120,000 คน ไม่มีที่อยู่อาศัย
นายกฯสั่งเตรียมแผนดูแลแรงงานไทยในอิสราเอล
การประสานช่วยเหลือแรงงานไทยจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่อิสราเอล ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางเพจเฟซบุ๊ก ว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อการเสียชีวิตของแรงงานไทยจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล คือนายวีรวัฒน์ การุณบริรักษ์ และนายสิขรินทร์ สงำรัมย์ รวมถึงคนงานไทยที่ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน 8 คน
พล.อ.ประยุทธ์ สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดทั้งเรื่องการช่วยเหลือ และเตรียมแผนให้ความช่วยเหลือและอพยพคนไทยในอิสราเอลไว้แล้ว หากมีความจำเป็นต้องอพยพคนไทยออกจากอิสราเอล คณะทำงานศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน (Rapid Response Center-RRC) จะสามารถให้ความช่วยเหลือและอพยพคนไทยในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ทันที และหากมีความจำเป็นต้องจัดหาเครื่องบินเพื่อไปรับคนไทย รัฐบาลก็พร้อมที่จะดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเพื่อความปลอดภัยของคนไทยทุกคน
26 พ.ค. นำศพ 2 แรงงานถึงไทย-คนเจ็บ 7 คน ออกจากรพ.แล้ว
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ได้ประสาน น.ส.พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ทราบว่า ศพของแรงงานไทย 2 ราย จะเดินทางมาถึงประเทศไทย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ในวันที่ 26 พ.ค.64 โดยบริษัทที่แรงงานไทยทำงานอยู่จะรับผิดชอบในการจัดส่งศพไปจนถึงบ้านของแรงงานที่จ.เพชรบูรณ์ และจ.บุรีรัมย์
ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 8 คน ขณะนี้ยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 1 คน คือ นายอัตรชัย ธรรมแก้ว อายุ 28 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี ส่วนที่เหลืออีก 7 คน ได้กลับไปที่พักคนงานทั้งหมดแล้ว
นอกจากนี้ มีแรงงานไทยอีกจำนวน 5 คน ที่แจ้งความประสงค์กับสถานเอกอัครราชทูต จะเดินทางกลับในวันที่ 25 พ.ค.64 ด้วย
ขณะเดียวกันเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ยังได้รายงานกับนายกรัฐมนตรีของอิสราเอลว่า กรณีการเกิดเหตุระเบิดในครั้งนี้ ระบบไซเรนไม่มีเสียงดังขึ้น และที่หลบภัยยังมีน้อยเกินไป ซึ่งขอให้มีการตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งนายกรัฐมนตรีของอิสราเอลรับจะไปดำเนินการ
CR:กระทรวงแรงงาน
ญี่ปุ่น เพิ่มประเทศไทย แนะนำไม่ให้เดินทางไป ไม่กระทบคนไทยที่เดินทางกลับไทย
กรณีที่ญี่ปุ่น ประกาศยกระดับคำเตือนชาวญี่ปุ่นในการเดินทางไปต่างประเทศ รวมถึงไทย นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ค.64 ญี่ปุ่นได้ประกาศยกระดับคำเตือนการเดินทางไป 7 ประเทศ รวมถึงไทย จากระดับ 2 (ไม่เดินทางไป หากไม่มีเหตุจำเป็นหรือเร่งด่วน) เป็นระดับ 3 (แนะนำไม่ให้เดินทางไป) เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้น โดยเป็นการเพิ่มเติมจากรายชื่อประเทศที่อยู่ในระดับ 3 อยู่แล้ว 153 ประเทศ ทำให้ปัจจุบันมีประเทศที่อยู่ในระดับ 3 รวม 160 ประเทศ
นายธานี กล่าวว่า สำหรับการจัดเที่ยวบินนำคนไทยจากญี่ปุ่นกลับไทย (repatriation flight) เที่ยวบินกึ่งพาณิชย์ (semi-commercial flight) รวมถึงคนไทยที่เดินทางผ่านญี่ปุ่นกลับไทย (transit) ไม่ได้รับผลกระทบ
ส่วนคนที่ได้รับการยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ ยังคงได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าญี่ปุ่นได้ ได้แก่ นักการทูตและราชการ (Diplomat and Official category) คู่สมรสและบุตรของชาวญี่ปุ่น ฯลฯ ซึ่งคนที่เดินทางต้องแสดงผลการตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นลบภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้าญี่ปุ่น เมื่อเดินทางไปถึงต้องตรวจเชื้อโควิด-19 ที่สนามบิน กักตัวเป็นเวลา 14 วัน และไม่เดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะ
ผอ.องค์การอนามัยโลกประจำยุโรป เผยวัคซีนที่ได้รับการรับรองแล้ว ต้านเชื้อได้ทุกสายพันธุ์
นายฮาน คลูจ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคยุโรป ระบุว่า วัคซีนที่มีอยู่และได้รับการอนุมัติรับรองจากองค์การอนามัยโลกแล้ว สามารถต้านทานเชื้อโควิด-19 ได้ทุกสายพันธุ์ รวมถึง สายพันธุ์อินเดีย และเชื้อโควิด-19 เหล่านั้น สามารถควบคุมได้ด้วยมาตรการทางสาธารณสุขและมาตรการทางสังคมแบบเดียวกันกับที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปต่างประเทศ เนื่องจาก ขณะนี้สถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอน
นายคลูจ ยังแนะนำให้ประชาชนฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ต่อไป เนื่องจากตอนนี้ในภูมิภาคยุโรปเพิ่งมีการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ไปเพียงร้อยละ 23 ของประชากรทั้งหมด และมีประชากรเพียงร้อยละ 11 ที่ได้รับวัคซีนครบสองโดสแล้ว และระบุว่า “วัคซีนอาจเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ แต่เราต้องไม่ถูกแสงสว่างนั้นทำให้ตาบอด”
รัฐแคลิฟอร์เนีย ประกาศห้ามประชาชนพิมพ์หรือซื้อบัตรฉีดวัคซีนโควิด-19 ปลอม
รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ออกประกาศเตือนประชาชน ห้ามพิมพ์หรือซื้อบัตรฉีดวัคซีนโควิด-19 ปลอมที่กำลังแพร่หลายบนโลกออนไลน์
นายร็อบ บอนทา อัยการสูงสุดของรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวในแถลงการณ์ว่า บัตรฉีดวัคซีนโควิด-19 ปลอมถูกทำขึ้นเพื่อขายให้คนที่ต้องการนำไปใช้บิดเบือนว่าตนได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว ซึ่งข้อมูลปลอมแปลงเหล่านี้นอกจากจะทำลายสุขภาพและความปลอดภัยของชาวรัฐแคลิฟอร์เนีย ยังเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายด้วย พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันแจ้งเจ้าหน้าที่หากพบการกระทำดังกล่าว ทั้งเตือนประชาชนว่าไม่ควรโพสต์รูปถ่ายบัตรฉีดวัคซีนโควิด-19 ลงสื่อโซเชียล เนื่องจากข้อมูลส่วนตัวอาจถูกขโมยไปใช้ทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย
สื่อในสหรัฐฯ รายงานว่ามีกลุ่มคนที่ต่อต้านการฉีดวัคซีนได้โพสต์สอนวิธีทำบัตรฉีดวัคซีนปลอมบนเว็บไซต์ หรือในห้องสนทนาต่างๆ ที่ผ่านมาก็มีเจ้าของบาร์รายหนี่งในเมืองคลีเมนต์ส เมืองเล็กๆในแคลิฟอร์เนียถูกจับหลังจากผลิตและขายบัตรฉีดวัคซีนโควิด-19 ปลอมในราคาใบละ 20 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ราว 626 บาท
บัตรฉีดวัคซีนโควิด-19 จะกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับงานอีเวนท์ งานกิจกรรมในแคลิฟอร์เนียที่เตรียมจะกลับมาเปิดในอีกไม่นาน อีกทั้งบัตรฉีดวัคซีนโควิด-19 ยังสามารถทำให้ชาวอเมริกันเดินทางไปยังประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป ซึ่งเปิดพรมแดนสำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว
วันนี้ นายกฯมาเลย์ ประชุม อาจใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้ม ห้ามเคลื่อนไหวทางศก.
กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย รายงานตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมง สูงถึง 6,806 คน นับเป็นวันที่สองติดต่อกันแล้วที่ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เกิน 6,000 คน ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 492,302 คน และเสียชีวิตอีก 59 ราย ทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตรวมเป็น 2,099 ราย และยังพบว่าตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดือน ม.ค.64
รัฐบาลมาเลเซีย จะเปิดประชุมในวันศุกร์ที่ 21 พ.ค.64 เพื่อพิจารณาเรื่องการใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มข้น นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซิน ของมาเลเซียจะเป็นประธานในที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อพิจารณาว่าจะประกาศใช้คำสั่งล็อกดาวน์เต็มรูปแบบหรือไม่ เช่น ห้ามเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ เป็นต้น
ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มาเลเซีย พบผู้ป่วยรายใหม่วันละราว 4,000 คน ทำให้รัฐบาลตัดสินใจสั่งล็อกดาวน์ 1 เดือน จนถึงวันที่ 7 มิ.ย.64 แต่ยังให้ประกอบกิจการด้านเศรษฐกิจต่อไปได้
อิสราเอลระงับช่วยเหลือกาซาเหนือ อ้าง ฮามาสปล้น สิ่งของบรรเทาทุกข์
...
พิชัย ยอมรับ ตั้งล็อบบี้ยิสต์ เจรจาภาษีตอบโต้ กับสหรัฐ เพราะมีความซับซ้อน
...
ผลหารือ ไทย-ฝรั่งเศส ย้ำแก้ปัญหาขัดแย้งกัมพูชา อย่างสันติ
...
ข่าวทั้งหมด
