กรมราชทัณฑ์รายงาน ยอดผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม 2564 เวลา 11.00 น. มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ จำนวน 999 คน ทำให้มีผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างการรักษา 13,534 คน โดยในวันนี้มีผู้ต้องขังติดเชื้อเพิ่มใน 7 เรือนจำ ไม่ติดเชื้อเพิ่ม 4 เรือนจำ แบ่งเป็นเรือนจำที่มีผู้ติดเชื้อ
เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ติดเชื้อเพิ่ม 499 คน
ทัณฑสถานหญิงกลาง 56 คน
เรือนจำกลางคลองเปรม 326 คน
เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา 18 คน
ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง 51 คน
เรือนจำกลางบางขวาง 48 คน
เรือนจำกลางสมุทรปราการ 1 คน
ส่วน 4 เรือนจำที่ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ คือ
เรือนจำกลางเชียงใหม่ เรือนจำพิเศษธนบุรี เรือนจำจังหวัดนนทบุรี และเรือนจำพิเศษมีนบุรี
ส่วนเจ้าหน้าที่ อยู่ระหว่างการรักษา 32 คน แบ่งเป็น
เรือนจำพิเศษกรุงเทพ 6 คน
เรือนจำกลางเชียงใหม่ เรือนจำพิเศษธนบุรี และเรือนจำจังหวัดนนทบุรี แห่งละ 5 คน
เรือนจำพิเศษคลองเปรม 3 คน และ
ทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำกลางบางขวาง เรือนจำพิเศษมีนบุรี และเรือนจำจังหวัดสงขลามีติดเชื้อที่ละ 2 คน
สำหรับการประเมินระดับอาการความรุนแรงผู้ติดเชื้อcovid -19 ของกรมราชทัณฑ์ใช้เกณฑ์เช่นเดียวกับที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ โดยคัดกรองผู้ป่วยเป็น 3 ระดับ คือ ผู้ป่วยระดับที่1ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย โดยให้กักตัวในแดนที่คุมขังและรักษาตัวในโรงพยาบาลสนามเรือนจำ ส่วนผู้ป่วยระดับที่ 2 ผู้ที่ต้องรับออกซิเจนระดับต่ำจนถึงระดับสูง และระดับ 3 ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงจนต้องเตรียมใส่ท่อช่วยหายใจ
ทั้งนี้ เพื่อให้การแยกผู้ป่วยตามอาการต่างๆและประโยชน์ในการรักษาได้อย่างถูกต้อง โดยผู้ป่วยระดับ 2-3 ให้ได้รับการเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแม่ข่ายในพื้นที่ของทัณฑสถานที่เป็นรพ.แม่ข่าย ในพื้นที่เรือนจำส่วนกลางหรือเรือนจำในพื้นที่กทม.
ขณะนี้มีเตียงที่รองรับผู้ป่วยอยู่ในห้องไอซียูของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ในพื้นที่ลาดยาว มีเตียงดูแลผู้ป่วยระดับ 2 จำนวน 15 เตียง และอยู่ระหว่างการขยายห้องไอซียูเพิ่มอีก 9 เตียง ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องผลิตออกซิเจนไฮโฟล(high flow)จำนวน 12 ตัว รวมทั้งการจัดระบบในการดูแลผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและทั่วถึงทุกเรือนจำ และทัณฑสถาน
ส่วนการเข้าพบนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้เตรียมจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ไว้สำหรับผู้ต้องขังทั่วประเทศและเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างความมั่นใจและคลายความกังวลของสาธารณชนในการแพร่ระบาดติดเชื้อในเรือนจำ/ทัณฑสถาน โดยกรมราชทัณฑ์และกรมควบคุมโรค ได้ร่วมกันจัดทำแผนฉีดวัคซีน ซึ่งจะได้มีการทยอยจัดส่งวัคซีนต่อไป