นายกฯ อิสราเอล จะแก้ไขเรื่องความปลอดภัยของแรงงานไทยที่อยู่ใกล้ฉนวนกาซา
เว็บไซต์เดอะไทม์ออฟอิสราเอล รายงานว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล และนายกาบี แอชเคนนาซี รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล บรรยายสรุปต่อคณะทูตต่างประเทศในอิสราเอลถึงสถานการณ์การสู้รบที่เกิดขึ้น
น.ส.พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล แสดงความวิตกกังวลในที่ประชุมว่า แรงงานภาคเกษตรชาวไทยในพื้นที่อยู่ใกล้กับฉนวนกาซา รู้สึกไม่ปลอดภัย และเปราะบางต่อการโจมตีด้วยจรวดของกลุ่มฮามาส และการโจมตีทำให้แรงงานไทยถูกลูกหลงจากจรวดของกลุ่มฮามาสเสียชีวิต 2 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 8 คน
หลังเอกอัครราชทูตไทยได้สะท้อนความวิตกกังวลของแรงงานไทยให้รับทราบ นายเนทันยาฮู รับว่าจะนำเรื่องดังกล่าวไปจัดการต่อไป
เดอะไทม์ออฟอิสราเอล รายงานอ้างเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของรัฐบาลอิสราเอลว่า แรงงานต่างชาติที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวไม่มีการจัดเตรียมสถานที่หลบภัยที่เหมาะสม ขณะที่ เสียงเตือนภัยในพื้นที่ก็มักจะไม่ค่อยดังให้ได้ยิน
CR:BBC,Reuters
EU เตรียมเปิดรับนทท.ต่างชาติแล้ว ต้องฉีดวัคซีนครบกำหนด และฉีดเข้มสุดท้ายนานกว่า 14 วัน
เอกอัครราชทูตจาก 27 ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) อนุมัติข้อเสนอของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ที่ต้องการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ กำหนดว่าประเทศใดเป็นประเทศปลอดภัย และขอให้อนุญาตให้นักท่องเที่ยวจากที่ใดก็ตามที่ได้รับวัคซีนครบตามกำหนดแล้ว สามารถเดินทางเข้า EU ได้ และต้องเป็นการฉีดเข็มสุดท้ายก่อนเดินทางมา 14 วันด้วย ส่วนเด็กๆ สามารถเดินทางมากับพ่อแม่ที่ฉีดวัคซีนแล้วได้
ข้อเสนอใหม่ของ EC ระบุว่า
-ประเทศที่ปลอดภัย จะต้องมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วง 14 วัน 100 คน ต่อประชากร 100,000 คน
-เอกอัครราชทูต EU แก้ไขเป็น 75 คน
-สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วและต้องการเข้า EU จะต้องเป็นวัคซีนที่ EU อนุมัติการใช้ และอาจรับพิจารณาวัคซีนที่องค์การอนามัยโลกอนุมัติด้วย
-พร้อมทั้งมีการใช้เกณฑ์เรื่องของไวรัสกลายพันธุ์ เป็นข้อกำหนดและการประเมินเรื่องการเดินทางเข้ามาด้วย
-อาจมีการใช้มาตรการ ‘เบรกฉุกเฉิน’ เพื่อหยุดการเดินทางจากบางประเทศ นอกจากกรณีจำเป็น เพื่อจำกัดความเสี่ยงที่ไวรัสกลายพันธ์ุจะเข้าสู่ยุโรปด้วย
สหราชอาณาจักรและประเทศอีกจำนวนหนึ่ง น่าจะได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้า EU ได้ ส่วนสหรัฐฯ ไม่น่าจะเข้าเกณฑ์ดังกล่าว แต่ชาวอเมริกันที่พิสูจน์ได้ว่าฉีดวัคซีนครบแล้ว ก็สามารถเดินทางเข้า EU ได้เช่นกัน
มีผลศุกร์นี้ ญี่ปุ่นห้ามไทยและอีก 6 ประเทศเดินทางเข้า ควบคุมโควิด-19
รัฐบาลญี่ปุ่น ประกาศมาตรการใหม่ เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ด้วยการห้ามเดินทางเข้าญี่ปุ่น สำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากประเทศไทย กัมพูชา ศรีลังกา เซเชลส์ เซนต์ลูเซีย ติมอร์ตะวันออก และมองโกเลีย ทำให้จำนวนประเทศที่ห้ามเดินทางเข้าญี่ปุ่น จนถึงขณะนี้ เพิ่มขึ้นเป็น 159 ประเทศ
มาตรการใหม่จะเริ่มมีผลบังคับ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 21 พ.ค.64 เป็นต้นไป โดยนักเดินทางต่างชาติทั้งหมด ที่เดินทางไปเยือนทั้ง 7 ประเทศดังกล่าว ภายในระยะเวลา 14 วัน ก่อนที่จะเดินทางไปที่ญี่ปุ่น จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเขตแดนญี่ปุ่น ยกเว้นจะได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ มาตรการใหม่นี้ไม่มีผลบังคับกับพลเมืองชาวญี่ปุ่น
หมอญี่ปุ่น ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ต่ำกว่า 30% วัคซีนกระจุกตัวตามรพ.ขนาดใหญ่-ระบบการจองมีปัญหา
หนังสือพิมพ์นิกเคอิ รายงานว่า จากตัวเลขที่คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยพบว่า หลังจากที่รัฐบาลเริ่มโครงการระดมฉีดวัคซีนให้ประชาชนไปเมื่อ 3 เดือนก่อน มีบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมดทั่วประเทศไม่ถึงร้อยละ 40 ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วน
อัตราส่วนของบุคลากรทางการแพทย์ที่ฉีดวัคซีนครบทั้ง 2 เข็มแล้วต่ำกว่าร้อยละ 30 วัคซีนจำนวนมากกระจุกตัวอยู่ตามโรงพยาบาลขนาดใหญ่ และยังพบว่า มีปัญหาในระบบการจองฉีดวัคซีนของเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์
รัฐบาลญี่ปุ่น ตั้งเป้าหมายที่จะฉีดวัคซีนให้กับประชากรที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปที่มีอยู่ 36,000,000 คน ให้ได้ทั้งหมดภายในสิ้นเดือนก.ค.64 เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ รัฐบาลต้องฉีดวัคซีนให้ได้วันละ 1,000,000 โดส ซึ่งเร็วกว่าอัตราในปัจจุบันราว 3 เท่า
ขณะนี้ ประชากรญี่ปุ่น 126 ล้านคน ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มแล้ว มีเพียงร้อยละ 3.7 ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในบรรดาประเทศร่ำรวย
ญี่ปุ่นใช้วัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค เพียงขนาดเดียวในขณะนี้ และในสัปดาห์นี้กำลังจะให้การรับรองการใช้งานวัคซีนของโมเดอร์นา ส่วนวัคซีนของแอสตราเซเนกา กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานกำกับดูแลด้านการใช้ยาของญี่ปุ่น
ไต้หวัน ปิดเกาะ ใช้มาตรการระดับ 3 ทุกพื้นที่ ห้ามนทท.มาเที่ยว 1เดือน
ศูนย์บัญชาการป้องกันโรคระบาด (CECC) ของไต้หวัน เปิดเผยว่า ไต้หวันยกระดับการแจ้งเตือนโควิด-19 ขึ้นเป็นระดับ 3 กับพื้นที่ทั้งหมดของไต้หวัน เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อในไต้หวันยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดมีรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่อีก 267 คน หลังจากต้นตอการแพร่ระบาดในครั้งนี้มาจากนักบินที่ติดเชื้อโควิด-19 เมื่อเดือนก่อน
นายเฉิน ชิห์-ชุง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและหัวหน้า CECC ประกาศว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไต้หวันยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจำเป็นที่มาตรฐานการป้องกันการแพร่ระบาดจะต้องสอดคล้องกันทั่วประเทศ ดังนั้นจึงมีการประกาศบังคับใช้กฎการป้องกันการแพร่ระบาดระดับ 3 ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 20-28 พ.ค.64
-รัฐบาลปิดเกาะห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าเป็นเวลา 1 เดือน
-ปิดห้องสมุด ศูนย์กีฬาและศูนย์ชุมชนต่างๆ
-ประชาชนจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ออกไปข้างนอก
-ในพื้นที่ปิด ห้ามรวมตัวกันเกิน 5 คน
-พื้นที่ส่วนภายนอก ห้ามรวมตัวกันเกิน 10 คน
ด้านผู้ว่าเมืองนิวไทเป ระบุว่า อาจต้องใช้มาตรการป้องกันระดับที่ 4 ได้แก่ การล็อกดาวน์ ห้ามรวมตัวกัน ปิดโรงเรียนและอนุญาตให้ไปซื้อของและไปหาหมอในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น
นายเฉิน กล่าวว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะมีการจัดประชุมเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดของไต้หวันขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลและจับตาดูความคืบหน้าของความพยายามที่จะต่อสู้กับการแพร่ระบาด
รัฐบาลไต้หวัน ระบุว่า จะได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากแอสตราเซเนกาเพิ่มอีก 400,000 โดส จากโครงการ COVAX หลังวัคซีนเริ่มขาดแคลน