หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ในการพิจารณาให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพิ่มเติม ภายใต้ร่าง พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. .... โดยมีกรอบวงเงินกู้ไม่เกิน 700,000 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 บรรยากาศที่กระทรวงการคลัง วันนี้ได้สอบถามกรณีดังกล่าวกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ในเรื่องดังกล่าว จากนั้นได้เดินเข้าลิฟท์เพื่อขึ้นไปที่ห้องทำงาน เช่นเดียวกับนางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ที่ปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้เช่นกัน โดยกล่าวว่าขอยังไม่ให้รายละเอียด
ภายหลังจากที่ ครม.เห็นชอบร่างพ.ร.ก.ดังกล่าวแล้ว จะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาร่างกฎหมายเร่งด่วนต่อไป และมอบหมายให้สำนักงบประมาณตั้งงบประมาณปี 2565 เพื่อชำระดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายในการกู้เงิน การออกและการจัดการตราสารหนี้ภายใต้ พ.ร.ก.ดังกล่าวต่อไป
กระทรวงการคลังคาดการณ์ว่ากรอบวงเงินที่เสนอนี้ จะช่วยทำให้เศรษฐกิจไทยปี 64 ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดิมที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดไว้อีกประมาณร้อยละ1.5 อีกทั้งการดำเนินการกู้เงินของรัฐบาลภายใต้ร่าง พ.ร.ก.ฉบับนี้ เมื่อรวมกับประมาณการการกู้เงินอื่นตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะแล้ว จะส่งผลให้สถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือน ก.ย.64 จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 9,381,428 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 58.56 ของ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบการบริหารหนี้สาธารณะที่ร้อยละ 60 ของ GDP