ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 08.30น.วันพุธที่ 19 พฤษภาคม 2564

19 พฤษภาคม 2564, 10:08น.


ทยอยสอบปากคำ พยานนับพันคน ในพท.จ.สตูล คดีร่วมกันทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน



          การสอบปากคำพยานในคดีร่วมกันฉ้อโกง โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ในพื้นที่ จ.สตูล พยานส่วนใหญ่ ยอมรับว่ามีนายหน้ามาเสนอแลกกับเงิน 500 บาท โดยบอกว่ารัฐบาลให้เงินไปเที่ยวเพียงใช้บัตรประชาชนกับโทรศัพท์เข้าร่วมโครงการ



         เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 10 คน จากทุกพื้นที่ร่วมกันสอบปากคำพยานกว่าร้อยคน ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล



         ตำรวจกองปราบปราม ตรวจสอบพบมี 7 คดี ในพื้นที่ จ.สตูล มีโรงแรม รีสอร์ท ในพื้นที่ อ.เมือง เกี่ยวข้อง  4 แห่ง อ.ละงู 2 แห่ง และ อ.ควนกาหลง 1 แห่ง พบมีพยานทั่วประเทศร่วม 8,000 คน  โดยเฉพาะพยานอยู่ในพื้นที่ จ.สตูล มีจำนวนมากที่สุดร่วม1,000 คน



         พยานรายหนึ่ง บอกว่า ได้ให้บัตรประชาชนพร้อมโทรศัพท์มือถือกับนายหน้าที่มาติดต่อไปจริง โดยเขาบอกว่า จะให้เงินกลับมา 500 บาทเพียงเข้าร่วมโครงการ ซึ่งในช่วงนั้น ตนก็ว่างงาน และก็อยากมีเงิน แต่ก็ไม่รู้ว่า นายหน้าคนดังกล่าว ใช้วิธีการเช่นใด



         ขณะที่ พยานอีกปาก ยอมรับว่า มีนายหน้าตั้งโต๊ะและเชิญชวนคนที่สนใจภายในหมู่บ้านเดียวกันเข้าร่วมลงทะเบียนโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ทราบจากปากต่อปาก เพียงแค่นำโทรศัพท์มือถือและบัตรประชาชนไปให้นายหน้าคนดังกล่าว ทำการกรอกข้อมูล ยืนยัน แล้วจะได้เงินกลับมา 500 บาท ในส่วนตัวเข้าใจว่าเป็นสิทธิที่พึงจะได้ จากการเข้าโครงการ 500 บาทเราเที่ยวด้วยกัน จึงยินยอมให้เขาลงทะเบียนให้



         สำหรับพื้นที่ จ.สตูล พ.ต.อ.นิพล เหมสลาหมาด รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล ได้แบ่งชุดสอบสวนออกเป็นสองจุด เพื่อให้บริการประชาชนที่เป็นพยาน 1,000 คน ในการเดินทางมาให้ปากคำ โดยแบ่งสอบปากคำอาทิตย์ละ 2 วัน ลดการแออัดในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19



ประชุม กกร. ประเมินภาวะศก.ไทย เสนอรบ.หลังปรับลดจีดีพีเหลือ 1.5-3.0%



           นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า วันนี้มีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย ส.อ.ท.สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย ติดตามภาวะเศรษฐกิจและเสนอความคิดเห็นต่อรัฐบาล



           กกร.ได้ปรับลดประมาณการไว้ที่ร้อยละ 1.5-3.0 ดังนั้นจึงมีโอกาสที่ กกร.จะปรับตัวเลขลงอีกเช่นกัน



          ขณะที่ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปรับลดประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปี 64 อยู่ที่ร้อยละ 1.5-2.5



          เบื้องต้น กกร.ได้หารือความคืบหน้าการตั้ง 4 ทีม เพื่อสนับสนุนภาครัฐในการบริหารวัคซีนให้คนไทย ขณะนี้ ส.อ.ท.เดินหน้าความร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัด เช่น จ.สมุทรสาคร กระทรวงอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เพื่อผลักดันการฉีดวัคซีนให้แรงงานในภาคอุตสาหกรรมทั่วประเทศ และในช่วงเย็น กกร.ร่วมประชุมออนไลน์กับนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เป็นหัวหน้าคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานความคืบหน้าต่อไป

เดือน มิ.ย.ประกันสังคม รพ.เครือข่าย พร้อมฉีดวัคซีนให้ผู้ประกันตน มาตรา 33



          นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ประชุมร่วมกับสถานพยาบาลในเครือข่ายสำนักงานประกันสังคม 12 แห่ง เพื่อเตรียมความพร้อมในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่ากระทรวงสาธารณสุขจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กระทรวงแรงงานเพื่อกระจายให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ในระยะแรก จำนวน 6,000,000 โดส โดยให้สถานประกอบการแจ้งรายชื่อที่จะฉีดและเชื่อมโยงข้อมูลกับแอปพลิเคชันหมอพร้อมของกระทรวงสาธารณสุขและประสานภาคเอกชนในการหาสถานที่เพิ่มเติมให้เพียงพอกับความต้องการฉีด



          กระทรวงแรงงาน ได้สำรวจความต้องการฉีดวัคซีนผ่านเว็บไซต์พบว่าผู้ประกันตนมาตรา 33 ประสงค์จะฉีดวัคซีนร้อยละ 80 ซึ่งขณะนี้ผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคม กรุงเทพมหานครเขตพื้นที่ทั้ง 12 เขต หาสถานที่ฉีดวัคซีนได้แล้ว  45 แห่ง โดยได้จัดเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นในการฉีดวัคซีนไว้พร้อมแล้วจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในเดือน มิ.ย.64



ลงทะเบียนได้แล้ว ถึง 21 พ.ค. กลุ่มขับรถสาธารณะ เพื่อเตรียมฉีดวัคซีน



          การฉีดวัคซีนในกลุ่มระบบขนส่ง นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมและกระทรวงสาธารณสุขจะใช้สถานีกลางบางซื่อเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนให้ผู้ให้บริการในระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภทในเขตกรุงเทพฯ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 24-31 พ.ค.64



          โดยให้ทุกหน่วยงานรวบรวมรายชื่อผู้ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท และขอให้ผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะทุกประเภทในเขตกรุงเทพฯ ลงทะเบียน เริ่มลงทะเบียนได้เลยจนถึงวันที่ 21 พ.ค.64 เพื่อรวบรวมรายชื่อส่งให้กระทรวงคมนาคมจัดกลุ่ม



1.รถโดยสารประจำทาง (รถเมล์) หมวด 1 หมวด 4 เอกชน และรถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้าง ลงทะเบียนได้ที่ผู้ประกอบการขนส่งที่ตนสังกัดอยู่ หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก www.dlt.go.th หรือยื่นความจำนงได้ที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 หรือสำนักการขนส่งผู้โดยสาร กรมการขนส่งทางบก



2.รถยนต์สามล้อรับจ้าง (รถตุ๊กๆ) ลงทะเบียนได้ที่สหกรณ์ที่ตนเป็นสมาชิก หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก www.dlt.go.th หรือยื่นความจำนงได้ที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 หรือสำนักการขนส่งผู้โดยสาร กรมการขนส่งทางบก



3.รถจักรยานยนต์สาธารณะ ลงทะเบียนได้ที่หัวหน้าวินที่ผู้ขับขี่เป็นสมาชิกภายในวิน หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ กรมการขนส่งทางบก www.dlt.go.th หรือยื่นความจำนงได้ที่สำนักการขนส่งผู้โดยสาร กรมการขนส่งทางบก และสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5



4.รถแท็กซี่นิติบุคคล ลงทะเบียนได้ที่นิติบุคคลหรือสมาคมที่สังกัด หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก www.dlt.go.th หรือยื่นความจำนงได้ที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 หรือสำนักการขนส่งผู้โดยสาร กรมการขนส่งทางบก



5. รถแท็กซี่ส่วนบุคคล ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก www.dlt.go.th หรือยื่นความจำนงได้ที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 หรือสำนักการขนส่งผู้โดยสาร กรมการขนส่งทางบก



          ผู้ที่ได้รับสิทธิเข้ารับการฉีดวัคซีน ขบ.จะส่งข้อความ SMS แจ้งวันและเวลา ให้ทราบก่อนถึงวันที่กำหนดฉีด ตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนไว้ ดังนั้นในการลงทะเบียนขอให้ระบุข้อมูลปัจจุบันที่สามารถติดต่อได้



          สำหรับวันที่เดินทางไปฉีดวัคซีนขอให้เตรียมบัตรประจำตัวประชาชนและแต่งกายด้วยชุดที่ใช้ในการประกอบอาชีพให้บริการรถโดยสารสาธารณะแต่ละประเภท เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถอำนวยความสะดวกและให้เข้ารับบริการได้อย่างรวดเร็ว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 หรือสำนักการขนส่งผู้โดยสาร กรมการขนส่งทางบก หรือสายด่วน 1584



          ส่วนผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะในส่วนภูมิภาคลงทะเบียนหรือสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดนั้นๆ



สปสช.ประชุมร่วมกับรพ.เอกชน 19 พ.ค.ย้ำแนวทางเบิกค่ารักษาโควิด ห้ามเก็บจากคนไข้



          นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า วันนี้ สปสช.เชิญตัวแทนโรงพยาบาลเอกชนทั่วประเทศ ร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์โปรแกรม Zoom Meeting  เป็นการประชุมครั้งที่ 3 เพื่อชี้แจงแนวทางการขอรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขสำหรับกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 และ กรณียูเซ็ป (UCEP) โควิด-19 ตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตมีสิทธิทุกที่ และจะเน้นย้ำเรื่องการขอความร่วมมือ ไม่เรียกค่ารักษาจากผู้ป่วยโควิด-19 โดยให้เรียกเก็บค่าใช้จ่ายมาที่ สปสช. สำนักงานประกันสังคม (สปส.) และกรมบัญชีกลาง



          เลขาธิการ สปสช. ระบุว่า ยังได้รับการร้องเรียนเข้ามาที่สายด่วน 1330 ของ สปสช. และสายด่วน 1426 กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ว่ายังมีประชาชนจำนวนหนึ่งที่ไปรับบริการเกี่ยวกับโควิด-19 ถูกโรงพยาบาลเอกชนเรียกเก็บเงิน ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้ว ส่วนหนึ่งที่มีการเรียกเก็บเงินจากผู้ป่วย เนื่องจาก ความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน เช่น เกณฑ์การตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงเป็นระยะๆ เดิมต้องให้มีอาการก่อนถึงจะตรวจ แต่ตอนนี้ให้แพทย์พิจารณาก็ตรวจได้แล้ว รวมทั้งในเรื่องรายการที่ไม่มีอยู่ในบัญชีค่าใช้จ่ายที่กำหนด ตามขั้นตอนคือ แจ้งไปที่ สบส. เพื่อขอให้พิจารณาขยายรายการเพิ่มเติมแล้ว เป็นต้น



          บางกรณีก็มีการให้เหตุผลว่า สปสช.จ่ายเงินช้า จึงต้องเรียกเก็บเงินจากผู้ป่วยไว้ก่อน เมื่อเบิกจาก สปสช.ได้แล้วจึงจะคืนให้ผู้ป่วย ซึ่ง สปสช.ได้ปรับรอบการจ่ายให้เร็วขึ้นแล้ว จาก 1 เดือน เป็นทุก 2 สัปดาห์ แต่ก็ยังมีส่วนน้อยที่เรียกเก็บเกินราคาที่กำหนด โดยให้ผู้ป่วยจ่ายส่วนที่เกินจากที่ สปสช. จ่ายให้ กรณีแบบนี้ก็ต้องย้ำเตือนและขอความร่วมมือให้เก็บค่าบริการตามที่กำหนด เพราะเป็นราคาที่ สปสช. สบส. และสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ได้ตกลงร่วมกันแล้ว ต้องไม่เก็บจากประชาชนแต่ให้มาเก็บที่สปสช.แทน

ข่าวทั้งหมด

X