ศจ.แอนดรูว์ โพลลาร์ด ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาวัคซีนออกซฟอร์ด/แอสตราเซเนกา เปิดเผยต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรของสหราชอาณาจักร ว่าเป็นเรื่อง "ผิดศีลธรรม" ที่ประเทศร่ำรวยฉีดวัคซีนให้เด็ก แต่บุคคลกลุ่มเสี่ยงในประเทศยากจนยังไม่ได้รับวัคซีน เขากล่าวว่า เป้าหมายของโครงการฉีดวัคซีนทั่วโลกในสถานการณ์ของโรคระบาดคือการเสียชีวิต โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ผู้ที่มีภาวะสุขภาพและบุคลากรทางการแพทย์ ขณะนี้เราอยู่ในสถานการณ์ที่ยังมีผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนอีกจำนวนมากในโลก มีความไม่เท่าเทียมกันอย่างชัดเจน ซึ่งเขากล่าวว่ารู้สึกผิดอย่างยิ่งที่ต้องอยู่ในสถานการณ์ทางศีลธรรมที่ปล่อยให้สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น เมื่อประเทศร่ำรวยมีการฉีดวัคซีนแก่ประชากรที่มีอายุน้อยซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำมาก
ก่อนหน้านี้นายแมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุขของสหราชอาณาจักร เปิดเผยในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่าสหราชอาณาจักร มีวัคซีนไฟเซอร์เพียงพอสำหรับเด็กทุกคนที่มีอายุ 12 ถึง 18 ปี และพร้อมดำเนินโครงการฉีดวัคซีน หากได้รับการอนุมัติทางการแพทย์ ซึ่งทำให้ ศจ.โพลลาร์ด มีความเห็นว่า โลกได้สูญเสียความพยายามยุติโรคระบาดและเรียกร้องให้เพิ่มความสำคัญต่อการปกป้องกลุ่มเสี่ยงมากขึ้น
....