ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 12.30 น.วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม 2564

18 พฤษภาคม 2564, 14:05น.


กรมอนามัย ย้ำเว้นระยะห่างนั่งในร้าน พบมีร้านเกือบ 3,000 แห่ง ไม่ผ่านการประเมิน



          นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากมาตรการผ่อนคลายของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ให้ร้านอาหารในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดสีแดงเข้ม สามารถนั่งกินภายในร้านได้แต่ไม่เกิน 21.00 น.และซื้อกลับไปบริโภคที่อื่นถึงเวลา 23.00 น. รวมทั้ง จำกัดคนนั่งได้ไม่เกินร้อยละ 25 ของจำนวนที่นั่งปกติ เช่น จากเดิมที่เคยให้บริการภายในร้าน 100 คน ให้ลดลงเหลือเพียง 25 คน และมีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 1-2 เมตร โดยขอให้ทุกร้านคุมเข้มการปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด และใช้เวลานั่งกินภายในร้านไม่เกิน 2 ชั่วโมง มีการจัดแยกอุปกรณ์ เช่น จาน ชาม ช้อน เครื่องปรุงรส เป็นเฉพาะบุคคล สำหรับร้านอาหารประเภทบุฟเฟต์งดให้ลูกค้าเดินตักอาหารเอง แต่ให้มีพนักงานบริการแทน



          ทุกร้านควรมีมาตรการในการลดการสัมผัส เช่น ระบบจองคิว เมื่อสั่งกลับบ้าน ระบบการชำระเงินออนไลน์ กำหนดให้ผู้ใช้บริการเปิดหน้ากากอนามัยได้เฉพาะเวลานั่งกินข้าวและลดการพูดคุยเสียงดัง งดการนั่งเผชิญหน้ากัน ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน และต้องมีการกำหนดจุดคัดกรองผู้ใช้บริการ จัดจุดล้างมือพร้อมสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ทำความสะอาดพื้นผิวที่สัมผัสและห้องน้ำบ่อยๆ กำจัดมูลฝอยทุกวัน



          หากพบพนักงานหรือผู้รับบริการติดเชื้อโควิด-19 ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคในพื้นที่ทันทีและหยุดประกอบกิจการชั่วคราวเพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการของคณะกรรมการควบคุมป้องกันโรคติดต่อในระดับจังหวัดกำหนด



          สำหรับการกำกับ ติดตาม และประเมินมาตรการร้านอาหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะเป็นแกนหลักในการควบคุมกำกับให้ร้านอาหารดำเนินการตามมาตรการอย่างเคร่งครัด หากตรวจพบว่าสถานประกอบกิจการมีการติดเชื้อโควิด-19 สามารถสั่งหยุดเพื่อทำความสะอาด 1-3 วันได้



          นอกจากนี้ ให้สถานประกอบกิจการประเมินตนเองผ่าน Thai stop COVID Plus ของกรมอนามัย ส่วนผู้ประกอบการและพนักงานประเมินตนเองก่อนออกจากบ้านเพื่อมาปฏิบัติงานผ่านเว็บไซต์ ไทยเซฟไทย https://savethai.anamai.moph.go.th/main.php



          โดยจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มให้มีการประเมินใหม่ พร้อมแสดงใบประกาศให้เห็นชัดเจน เพื่อให้ผู้รับบริการประเมินผ่าน QR code ได้ ขณะที่ ผู้รับบริการให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ไทยชนะ ทุกครั้ง



          ทั้งนี้ จากข้อมูล Thai stop COVID Plus มีร้านอาหารลงทะเบียนและประเมินตนเองแล้ว จำนวน 15,193 แห่ง ผ่านประเมิน 12,211 แห่ง จึงขอความร่วมมือให้ร้านอาหารที่ยังไม่ประเมิน หรือประเมินไม่ผ่าน ดำเนินการในระบบและปฏิบัติตามคำแนะนำ ตามมาตรการร้านอาหารต่อไป



ผู้ว่าฯกทม.เปิดจุดบริการฉีดวัคซีน Big C บางบอน เดินหน้าแผนฉีดวัคซีนรวม 2 เดือน 5 ล้านโดส



          การกระจายวัคซีนตามแผน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยรายละเอียด



-เดือน มิ.ย.-ก.ค.64 กรุงเทพมหานคร จะได้รับการจัดสรรวัคซีนจากกระทรวงสาธารณสุข เดือนละ 2,500,000 โดส รวม 2 เดือน 5,000,000 โดส



-กทม. มีแผนบริหารจัดการฉีดวัคซีนให้ประชาชนในพื้นที่เดือนละ 2,500,000 คน



-กระจายการฉีดวัคซีนทั้งภายในโรงพยาบาลทั้ง 126 แห่ง ซึ่งมีศักยภาพในการฉีดไม่น้อยกว่าวันละ 20,000 คน และจุดบริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล 25 แห่ง



-ศักยภาพในการฉีดวันละ 38,000-50,000 คน/วัน



-คาดการณ์ว่าจะสามารถฉีดวัคซีนได้ไม่น้อยกว่า 60,000 คน/วัน โดยผู้ที่ได้รับการฉีดจะเป็นประชาชนทั่วไป คาดว่า น่าจะครบ 5 ล้านคนตามเป้าหมายที่นายกรัฐมนตรีกำหนด



          ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมจุดบริการฉีดวัคซีนนอกรพ. “หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร - หอการค้าไทย” บริเวณ ชั้น 2  บิ๊กซี บางบอน เขตบางบอน ร่วมมือกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก ซึ่งมีการเตรียมระบบให้วัคซีนที่ปลอดภัยและครบถ้วนในทุกขั้นตอนจนถึงการดูแลและสังเกตอาการ โดยตั้งเป้าหมายในการให้บริการฉีดวัคซีน จำนวน 2,500 – 3,000 คน/วัน ตั้งแต่เวลา 08.30 น. -16.30 น.





          สำหรับกลุ่มเป้าหมายคือผู้ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อสูง ได้แก่ บุคลากรส่วนหน้าและอาชีพที่มีความเสี่ยงต้องให้บริการประชาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สำนักอนามัยได้นำเข้าข้อมูลไว้ในระบบของ กทม. และต่อไปจะให้บริการวัคซีนแก่ผู้ที่ขับรถยนต์สาธารณะ พนักงานเก็บค่าโดยสารสาธารณะ จากบริษัทขนส่งต่างๆ ซึ่งมีประมาณ 7,000 คน รวมถึงจะฉีดวัคซีนให้กับพนักงานเก็บขน พนักงานกวาด จากสำนักงานเขต คนขับแท็กซี่ วินจักรยานยนต์ พนักงานขนส่งอาหารต่างๆ ผู้มีอาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุ และเจ้าหน้าที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กเล็ก เป็นต้น



          นอกจากนี้ กลุ่มเป้าหมายต่อไปคือบุคลากรครูในกรุงเทพฯ ซึ่งมีประมาณ 170,000 คน และกลุ่มอาชีพเสี่ยงอื่น ๆ จะได้รับการพิจารณาให้ได้รับวัคซีน ในลำดับถัดมา ขึ้นอยู่กับปริมาณวัคซีนที่ได้รับจัดสรร โดยกทม. จะเร่งขยายสถานที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลให้ครบตามเป้าหมาย 25 แห่งทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานครเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการเดินทางมาฉีดวัคซีน โดยภายในวันที่ 31 พ.ค.64



กทม.พบ 2 คลัสเตอร์ใหม่ ตลาดศาลาน้ำร้อน บางกอกน้อย ติดเชื้อแล้ว 76 คน และชุมชนเขตห้วยขวาง



          กรุงเทพมหานคร สรุปการติดเชื้อโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อนหรือคลัสเตอร์ว่า มี 28 คลัสเตอร์ กระจายใน 19 เขต พบจำนวนมากในพื้นที่กรุงเทพใต้และกรุงเทพกลาง ที่มีบ้านเรือนชุมชนอยู่กันหนาแน่น แฟลต ตลาด และที่พักคนงานที่ต้องทำงานหรืออาศัยอยู่ร่วมกัน



          กทม. ได้เร่งตรวจหาเชื้อเชิงรุกและสอบสวนโรคผู้สัมผัสเสี่ยงมาโดยตลอด เห็นได้ว่าใน 28 คลัสเตอร์นี้ เป็นแหล่งที่มีคนรวมตัวกันจำนวนมาก แบ่งเป็น



-ชุมชน 8 แห่ง



-ตลาด 8 แห่ง



-บริษัท/สถานที่ทำงาน 7 แห่ง



-ที่พักคนงาน 4 แห่ง



-เรือนจำ 1 แห่ง



         



           ซึ่งมีทั้งกลุ่มเฝ้าระวังสูงสุด กลุ่มเฝ้าระวัง และกลุ่มที่มีแนวโน้มควบคุมการระบาดได้ และมีกลุ่มที่พบใหม่เพิ่มขึ้นอีก ดังนี้



• กลุ่มเฝ้าระวังสูงสุด 15 คลัสเตอร์ ในพื้นที่เขตดินแดง ราชเทวี บางกะปิ ดุสิต ป้อมปราบศัตรูพ่าย คลองเตย หลักสี่ พระนคร ประเวศ บางรัก สาทร



• กลุ่มเฝ้าระวัง 3 คลัสเตอร์ ในพื้นที่เขตวัฒนา สวนหลวง และจตุจักร



• กลุ่มที่มีแนวโน้มควบคุมการระบาดได้ 8 คลัสเตอร์ ในพื้นที่เขตทวีวัฒนา ปทุมวัน สาทร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ จตุจักร ลาดพร้าว และสวนหลวง



• กลุ่มที่พบใหม่ 2 คลัสเตอร์ ในตลาดพื้นที่บางกอกน้อย และชุมชนในเขตห้วยขวาง



          เขตบางกอกน้อย : ผู้ติดเชื้อ 76 คน สถานที่คือ ตลาดศาลาน้ำร้อน แนวโน้มมีการระบาด   



          นอกจากจะเร่งตรวจหาเชื้อเชิงรุกแล้ว กทม. ยังได้เร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุด เมื่อได้รับจัดสรรมา จะได้สร้างภูมิคุ้มกันให้กับทุกคนได้มากขึ้น เพื่อยุติการแพร่ระบาดโดยเร็วที่สุด กทม.ขอความร่วมมือทุกๆคน เจ้าของกิจการร้านค้า บริษัทต่างๆ ตลาด และชุมชน ช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สถานการณ์แพร่ระบาดดีขึ้นโดยเร็ว



กระทรวงยุติธรรม เสนอของบฯ กว่า 400 ล้านซื้อยาฟาวิพิราเวียร์



          ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงสถานการณ์ผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำหลายแห่งว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ขออนุมัติงบประมาณ 411,653,300 บาทไปที่สำนักงบประมาณ เพื่อนำมาใช้จัดซื้อยาฟาวิพิราเวียร์ และยาฟ้าทะลายโจร สำหรับบรรเทาเยียวยาควบคุมการแพร่ระบาดและรักษาอาการผู้ต้องขังเบื้องต้น ซึ่งได้จัดแยกเป็นกลุ่มพบเชื้อไม่มีอาการ หรือสีเขียว กลุ่มมีอาการแต่ไม่รุนแรงไม่มีโรคแทรกซ้อน หรือสีเหลือง และกลุ่มอาการรุนแรงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ สีแดง ซึ่งมีไม่มาก 



          นอกจากนี้ นายกฯ ได้มอบอุปกรณ์ป้องกันให้เรือนจำ 100,000 ชุด รวมทั้งภาคเอกชนและชมรมต่างๆ เช่น ชมรมคู่สมรสตุลาการศาลยุติธรรมก็ร่วมรับบริจาคชุดป้องกันและเครื่องมือแพทย์เพื่อควบคุมการระบาดในเรือนจำ ยืนยัน กรมราชทัณฑ์และกระทรวงยุติธรรมรับมือต่อสถานการณ์ได้



เชียงใหม่ ติดเชื้อใหม่ 9 คน รักษาตัวในรพ.439 คน ส่วนมากเป็นกลุ่มสีเขียว  



         สถานการณ์โควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ วันนี้ พบติดเชื้อเพิ่ม 9 คน ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 4,020 คน รักษาหายแล้ว 3,565 คน รักษาอยู่ในรพ. 439 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 16 ราย ผู้ป่วยแยกตามอาการ สีเขียว 334 คน สีเหลือง 70 คน สีส้ม 27 คน สีแดง 8 คน  รักษาที่



-รพ.สนาม  287 คน



-รพ.รัฐ 112 คน



-รพ.เอกชน  40  คน



ส่วนยอดจองวัคซีน สำหรับคนเชียงใหม่ 600,000 โดส ขณะมีจองแล้ว 99,374 คน แบ่งเป็น



-จองผ่านหมอพร้อม 63,885 คน



-อสม./จนท.สธ. 35,489 คน



สิงค์โปร์ ปิดเรียนระดับประถม-มัธยม 19-28 พ.ค.



          จากการติดเชื้อในสนามบินชางงีและในโรงพยาบาลตัน ต็อก เส็ง เป็นกลุ่มก้อนเพิ่มขึ้น ทำให้สิงคโปร์ ต้องใช้มาตรการคุมเข้มสกัดโควิด-19 ล่าสุด ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ 19 พ.ค. 64 จนถึงวันที่ 28 พ.ค.64 ทางการสิงคโปร์ จะปิดโรงเรียนปรับการเรียนในห้องเรียนของชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาเป็นรูปแบบออนไลน์ทั้งหมด ขณะที่ทางการเตือนการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่อย่างสายพันธุ์อินเดีย



          ด้านผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า สิงคโปร์มีโอกาสพบไวรัสกลายพันธุ์ที่มีอัตราการแพร่เชื้อที่รุนแรง ทำให้เกิดกลุ่มก้อนการระบาดขนาดใหญ่ และหลังจากนี้ต้องเตรียมพร้อมระบบสาธารณสุขในประเทศเพื่อตั้งรับการแพร่ระบาด

ข่าวทั้งหมด

X