อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยยอดติดเชื้อในเรือนจำพุ่งเพราะห้องขังคับแคบ-ไม่ปิดบังตัวเลข

          นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ แถลงเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเรือนจำทั่วประเทศ 143 แห่ง มีผู้ต้องขังทั้งหมด 311,540 คน  มีเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานในเรือนจำทั้งหมด 13,000 คน โดยตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 กรมราชทัณฑ์ได้กำหนดนโยบาย “คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า” และผู้ต้องขังที่เข้าใหม่จะต้องกักตัวเพื่อสังเกตอาการ 14 วัน หากไม่พบเชื้อจึงจะรับเข้าแดนตามปกติ รวมทั้งในช่วงกักตัว จะต้องตรวจหาเชื้อผู้ต้องขัง 2 ครั้ง ครั้งแรกคือวันที่รับตัวเข้าใหม่ และตรวจซ้ำอีกครั้งก่อนรับตัวเข้าแดน

          ในระลอกแรกนั้น มีผู้ติดเชื้อในเรือนจำเพียงหลักสิบ  มาระลอกสองจึงเพิ่มเป็นหลักร้อย และการระบาดระลอกสามเดือนเมษายน พบผู้ติดเชื้อเป็นหลักพัน ในช่วงแรกยังสามารถควบคุมโรคได้ง่าย แต่ช่วงหลังมีการคุมผู้ต้องขังออกไปขึ้นศาล ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลภายนอก   และผู้ต้องขังต้องทำกิจวัตรประจำวันจำนวนหลายร้อยคนต่อวัน ประกอบกับภายในห้องคุมขังมีสภาพเก่าและคับแคบ ทำให้เกิดการติดเชื้อแบบก้าวกระโดด  แต่ยืนยันว่า ไม่มีการปิดบังตัวเลขผู้ติดเชื้อ โดยเมื่อพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก กรมราชทัณฑ์ได้แยกผู้ป่วยตามระดับอาการ ตั้งศูนย์ติดตามตัวเลขผู้ต้องขังที่ติดเชื้อเพิ่มและรักษาหายแล้ว ส่วนเรือนจำที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ ก็สั่งให้คัดแยกผู้ต้องขังที่มีอาการคล้ายหวัด มีน้ำมูก ไปตรวจหาเชื้อ

          ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงานในเรือนจำ ก็มีการตรวจหาเชื้อทุก 7 วัน และฉีดวัคซีนให้เจ้าหน้าที่ในเรือนจำแล้ว 12,000 คน และอยู่ระหว่างขอจัดสรรวัคซีนเพิ่มเพื่อฉีดวัคซีนผู้ต้องขังให้ครบทุกคนทั่วประเทศ

          นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่า นายกฯได้กำชับ ประสานงานให้ดูแลผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด-19 อย่างดี พร้อมทั้งประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข เรื่องยาฟาวิพิราเวียร์

          นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ช่วงที่มารับตำแหน่ง พบว่า มีผู้ต้องขัง 390,000 คน ได้ใช้นโยบายปรับลดความแออัดหนาแน่นของผู้ต้องขังเหลือผู้ต้องขัง 380,000 คน การแก้ปัญหาคนล้นคุก เช่น ขอพระราชทานอภัยโทษ และการติดกำไลอีเอ็ม เป็นต้น  

          กรมราชทัณฑ์ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณในการนำรถพระราชทานมาตรวจหาเชื้อ จึงทำให้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งส่งข่าวสารให้ญาติและครอบครัวผู้ต้องขังเพื่อให้สบายใจ

           ตามมาตรฐานสากล ผู้คุม 1คน คุมผู้ต้องขัง 6 คน แต่ไทย ผู้คุม 1 คน คุมผู้ต้องขัง 33 คน แสดงให้เห็นว่าเราทำงานกันอย่างเต็มที่ เรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพและทัณฑสถานหญิง เป็นเรือนจำที่รับผู้ต้องขังใหม่ การเตรียมเตียงสนามกว่าพันเตียงน่าจะเพียงพอ แต่เมื่อมีผู้ต้องขังติดเชื้อเพิ่มขึ้น จึงต้องดำเนินการเพิ่มเติมในการคัดกรองและดูแลผู้ติดเชื้อ