สถานการณ์ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) ในสหราชอาณาจักร จนทำให้ต้องประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม เมื่อพบเชื้อไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์อังกฤษ หรือ B1.1.7 มีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน แห่งสหราชอาณาจักรแถลงผ่อนคลายการล็อกดาวน์เฟสที่ 3 เฉพาะ 3 แคว้นคืออังกฤษ เวลส์และพื้นที่ส่วนใหญ่ของสก็อตแลนด์ มีผลในวันนี้ (17 พฤษภาคม 2564) ประชาชนสามารถพบปะกันในอาคาร แต่รัฐบาลยังจำกัดจำนวนคนที่มารวมกลุ่มกันในแต่ละพื้นที่ เช่น ในแคว้นอังกฤษ รัฐบาลอนุญาตให้ประชาชนไม่เกิน 6 คนหรือ 2 ครัวเรือนพบปะกันได้ในอาคาร ทั้งอนุญาตให้สวมกอดกันได้ โดยรัฐบาลให้ถือเป็นดุลพินิจของแต่ละคน ส่วนกรณีการพบปะนอกอาคารอนุญาตให้ประชาชนรวมกลุ่มได้ไม่เกิน 30 คน อนุญาตให้ตั้งเต็นท์ค้างแรมนอกอาคาร
นอกจากนี้ ประชาชนสามารถจะไปเที่ยวผับ บาร์หรือนั่งรับประทานอาหารในร้านอาหารได้ตามปกติ ยกเลิกคำสั่งห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้ามายังสหราชอาณาจักร ขณะที่พิพิธภัณฑ์ โรงภาพยนตร์ สนามเด็กเล่น โรงละคร ลานแสดงคอนเสิร์ต สนามกีฬาและโรงแรมเปิดทำการได้ตามปกติ แต่รัฐบาลกำชับให้ประชาชนให้ความสำคัญกับมาตรการควบคุมโรค โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพของตนเองให้ปลอดภัย เช่น หมั่นล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง พร้อม แนะนำให้ประชาชนไปตรวจโรคโควิด-19 ฟรี สัปดาห์ละสองครั้ง ซึ่งจะทราบผลใน 30 นาที และไปเข้ารับการฉีดวัคซีนเมื่อถึงคราวที่หน่วยงานสาธารณสุขแต่ละท้องถิ่นนัดหมายไปฉีดวัคซีน
ส่วนไอร์แลนด์เหนือ รัฐบาลท้องถิ่นจะทบทวนกฎระเบียบเรื่องมาตรการล็อกดาวน์ในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ หลายฝ่ายคาดว่าไอร์แลนด์เหนือ อาจจะเริ่มผ่อนคลายล็อกดาวน์ในเฟสที่ 3 ในวันที่ 24 พฤษภาคมนี้ สำหรับการคลายล็อกดาวน์ในเฟสที่ 4 จะมีขึ้นในวันที่ 12 มิถุนายนนี้
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์อย่างเป็นขั้นเป็นตอน มีการคลายล็อกดาวน์มาแล้ว 2 เฟสจากทั้งหมด 4 เฟส เริ่มจากการผ่อนคลายล็อกดาวน์ในเฟสแรกเมื่อวันที่ 8 มีนาคม และเฟสที่ 2 เมื่อวันที่ 12 เมษายน
CR: BBC