ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 07.30น.วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม 2564

เชียงใหม่ แถลงผู้ต้องขังติดเชื้อเกือบ 4,000 คน

        จากตัวเลขที่มีรายงานว่าผลการตรวจคัดกรองเชิงรุกในเรือนจำและทัณฑสถานที่จ.เชียงใหม่ ช่วงวันที่ 12 พ.ค. ถึง 16 พ.ค.64 พบว่า เรือนจำกลางเชียงใหม่มีผู้ติดเชื้อ 3,929 คน จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 6,469 คน และมีบางส่วนที่รักษาหายแล้ว ซึ่งจะมีการแถลงชี้แจงเวลา 10.30 น.ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ 

        ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ จ. เชียงใหม่ เปิดเผยว่าสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในเรือนจำกลางเชียงใหม่ ใช้ระบบควบคุมโรคแบบ Bubble & Seal

        นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จะเป็นผู้แถลง พร้อมด้วย พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ,นพ.จตุชัย มณีรัตน์ สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่,พล.ต.วุฒิไชย อิศระ รองเจ้ากรมการแพทย์ทหารบก,นายสุรศักดิ์ เผื่อนคำ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงใหม่ และนายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม นายอำเภอแม่แตง เรื่อง

         สถานการณ์การดูแลผู้ต้องขังในเรือนจำกลางเชียงใหม่กับผู้ต้องขังในเรือนจำที่ติดเชื้อ ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงปลายเดือน เม.ย.64 จ. เชียงใหม่ ใช้มาตรการ Bubble & Seal ดูแลผู้ติดเชื้อภายในเรือนจำกลางเชียงใหม่ เนื่องจากพบติดเชื้อ 191 คน เป็นผู้ต้องขัง 189 คน เจ้าหน้าที่ 2 คน

         มาตรการดังกล่าว เป็นการจำกัดการเคลื่อนย้าย แยกผู้ต้องขังกลุ่มเปราะบางออกมาดูแลเฉพาะ เช่น ผู้ต้องขังที่มีอายุมากกว่า 55 ปี, ผู้ต้องขังที่มีโรคประจำตัว ผู้ต้องขังกลุ่มนี้ หากพบว่ามีอาการป่วย ไข้ ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ มีน้ำมูก หอบเหนื่อย หายใจลำบาก ความเข้มข้นออกซิเจนในเลือดต่ำ 95 จะคัดกรองมารับการตรวจหาเชื้อ โควิด-19

        หากพบว่ามีการติดเชื้อก็จะถูกส่งตัวรักษาที่ รพ.สนามเรือนจำกลางเชียงใหม่ และหลังจากทำ Bubble and Seal ครบ 14 วัน ก็จะมีการตรวจหาภูมิคุ้มกันให้กับผู้ต้องขัง เพื่อเป็นการประเมินสถานการณ์ การเกิดภูมิคุ้มกันหมู่

          สำหรับกลุ่มที่ไม่มีภูมิคุ้มกันจะถูกตรวจหาเชื้ออีกครั้งเมื่อครบ 28 วัน หลังการทำ Bubble & Seal พร้อมประเมินสถานการณ์ลดระดับความเข้มข้นของการควบคุม

เรือนจำธนบุรี เร่งตรวจหาเชื้อซ้ำ กลุ่มผู้ต้องขังที่ไม่พบเชื้อ

          กรมราชทัณฑ์  เปิดเผยยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในเรือนจำพิเศษธนบุรี พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 1,104 คน เป็นผู้ต้องขังที่ติดเชื้อกลุ่มสีเขียว คือไม่มีอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย และได้ดำเนินการรักษาด้วยการให้ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) เพื่อต้านไวรัสเป็นที่เรียบร้อย พร้อมเร่งดำเนินการตรวจเชื้อซ้ำในกลุ่มที่ยังไม่พบเชื้อเพื่อยืนยันผล ด้วยวิธี RT-PCR เพื่อแยกกลุ่มเป้าหมายที่ติดเชื้อและไม่ติดเชื้อออกจากกัน

ผู้ต้องกักที่ติดเชื้อที่สตม.หายแล้ว-ส่งกลับไปแล้ว

         พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. ในฐานะโฆษก สตม. ชี้แจงว่า ปัจจุบัน สตม.ดําเนินการเพิ่มประสิทธิภาพ และลดการแพร่ระบาดโควิด-19 ในห้องกักสตม.โดยมีมาตรการต่อผู้ต้องกักสูงสุดหลายด้าน มาตรการต่อเจ้าหน้าที่ตํารวจและมาตรการผู้เกี่ยวข้อง เช่น ผู้จัดหาอาหารผู้ต้องกัก ผู้ทําความสะอาดห้องกัก เป็นต้น

         การรักษาผู้ต้องกักที่ติดเชื้อที่บางเขน ได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามชั่วคราวจนรักษาหายเป็นปกติแล้วทุกราย และดําเนินการตามขั้นตอน การส่งกลับแล้ว ปัจจุบันไม่มีผู้ต้องกักที่ติดเชื้อในห้องกัก สตม.

          อย่างไรก็ตาม สตม.มีมาตรการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการทําความผิดในด้านต่างๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับและมีเดินทางเข้า-ออกประเทศ พบเห็นเบาะแสแจ้งได้ที่ สตม. เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th 

ศบค. ห่วง 5 คลัสเตอร์ แคมป์คนงาน-แฟลตดินแดง ตลาดห้วยขวาง  

         ผลประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร สรุปรายละเอียดการติดเชื้อในคลัสเตอร์ต่างๆ

-ระบาด 27 คลัสเตอร์ ใน 17 เขต

-อยู่ระหว่างดำเนินการควบคุมโรค 20 คลัสเตอร์

-สามารถควบคุมได้แล้ว 7 คลัสเตอร์ ทั้งนี้ ไม่รวมคลัสเตอร์ที่ราชทัณฑ์

-เขตที่พบผู้ติดเชื้อสูงสุด 10 ลำดับแรก คือ ดินแดง ห้วยขวาง บางเขน จตุจักร ลาดพร้าว บางแค คลองเตย วังทองหลาง วัฒนา บางกะปิ

-ศบค.ห่วง 5 คลัสเตอร์สำคัญ ที่มีอัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้นรายวัน คือ แคมป์คนงานก่อสร้างเขตหลักสี่, แคมป์คนงานก่อสร้างเขตวัฒนา, แฟลตดินแดง, คลองถม วงเวียน 22 เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และตลาดห้วยขวาง เขตดินแดง

*การพบผู้ติดเชื้อที่แคมป์คนงานในพื้นที่หลักสี่ เขตแจ้งวัฒนะ ทำให้คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ให้ 50 สำนักงานเขต สำรวจจำนวนคนงานก่อสร้างในแคมป์ต่างๆ จากการตรวจเชิงรุกในพื้นที่นี้ 559 คน ติดเชื้อ 482 คน หรือร้อยละ 86.22 ความเป็นอยู่ในแคมป์ ค่อนข้างหนาแน่น มีการใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน พฤติกรรมคนงานยังเดินทางไปในตลาด ชุมชน พื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงเดินทางข้ามพื้นที่

*การเร่งตรวจและฉีดวัคซีนในพื้นที่คลองเตย ที่ประชุมคณะกรรมการโรคคิดต่อกรุงเทพมหานคร จึงเห็นควรให้ปิดตลาดคลองเตยต่อไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค.64 โดยจะมีการออกประกาศให้ทราบ

รอผลตรวจกลุ่มคนทำงานในสุวรรณภูมิอีกเกือบ 200 คน เร่งฉีดวัคซีนให้ครบ มิ.ย.

          การติดเชื้อของผู้ปฏิบัติงานภายในสนามบินสุวรรณภูมิ มีจำนวน 126 คน ผู้มีความเสี่ยงสูงอยู่ระหว่างรอผลจำนวน 191 คน นาวาอากาศโท สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ได้รับรายงานว่ามีพนักงานและลูกจ้างของฝ่ายขนส่งทางอากาศติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 34 คน ซึ่งได้กำชับให้ดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ

        ส่วนแผนฉีดวัคซีนจะดำเนินการ 4 ส่วน

1. กลุ่มเสี่ยงจากการปฏิบัติหน้าที่ที่พบผู้คน มีประมาณ 4,000 คน ซึ่งขณะนี้ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว ส่วนที่เหลือจะเร่งฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.64 คือ

2. กลุ่มรองที่เจอผู้คนน้อยลง และพนักงาน outsource

3. กลุ่มทำงานสำนักงาน

4. กลุ่มคาร์โก้

        ปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนให้พนักงานและผู้ปฏิบัติงานที่สุวรรณภูมิไปแล้วกว่า 4,371 คน จากที่สำรวจพบว่ามีพนักงานทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้องราว 50,000 คน ซึ่งจะเร่งฉีดวัคซีนให้ผู้ปฏิบัติงานที่ให้บริการภาคพื้น รวมถึงพนักงานในเขตพื้นที่เขตปลอดอากรก่อนเป็นการเร่งด่วน และจะทยอยฉีดให้ผู้ปฏิบัติงานอื่นๆ จนครบทุกคนภายในเดือน มิ.ย.64

พฐ.ตรวจสอบเหตุไฟไหม้ รง.ที่เขตสายไหม จุดเกิดเหตุเกิดจากอาคารเก็บเม็ดพลาสติก

         วันนี้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จะเข้าพื้นที่ไปตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ โรงงานพลาสติก ชื่อบริษัท เอมสเทรด จำกัด เลขที่ 17/7 ถนนสุขาภิบาล 5 ซอย 39 แขวงออเงิน เขตสายไหม ที่เกิดเหตุเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ พ.ต.อ.อำนาจ กาหลง ผกก.สน.สายไหม เปิดเผยว่า พื้นที่โรงงานดังกล่าวมีลักษณะเป็นรูปตัว L เพลิงเกิดขึ้นที่อาคารหน้าโรงงาน ขณะเกิดเหตุมีคนงานทั้งชาวเมียนมาและชาวไทยทำงานอยู่ พบเพลิงลุกไหม้ที่อาคารเก็บเม็ดพลาสติก ก่อนที่แสงเพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว กระแสลมโหมให้เพลิงลุกไปส่วนท้ายของโรงงาน เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ทำงานใช้น้ำดับสกัดต้นเพลิงจุดเกิดเหตุ และกันส่วนที่ลุกลามไม่ให้ติดไปยังบ้านเรือนประชาชน จนเวลา 18.30 น. เริ่มควบคุมเพลิงไว้ได้ เหลือเพียงกลุ่มควัน โดยเจ้าหน้าที่ยังคงฉีดน้ำดับถ่านไว้ไม่ให้เพลิงปะทุขึ้นอีก เจ้าหน้าที่ฉีดน้ำเหตุเพลิงไหม้โรงงานพลาสติกกว่า 4 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ปิดประตูทางเข้าโรงงานกันผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ พร้อมทั้งตั้งเต้นท์ประสานงานอาสาสมัครภายในจุดเกิดเหตุ

อิสราเอล ขอถอนตัวด่วน! จากการประกวด Miss Universe เพื่อความปลอดภัย