หนุมานกองปราบนำทีมจับกุมแก๊งทวงหนี้ข้ามชาติ ก่อเหตุบุกอุ้มเหยื่อกลางกรุง

15 พฤษภาคม 2564, 21:34น.


          พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก./หัวหน้าส่วนปฏิบัติการที่ 1 ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปชก.ตร.) สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน เข้าปิดล้อมจับกุมกลุ่มคนร้ายรวม 3 คนเป็นแก๊งทวงหนี้ข้ามชาติ หลังก่อเหตุบุกอุ้มเหยื่อกลางกรุง โดยผู้ต้องหาคือ นายสตีฟ (นามสมมุติ) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.188/2564 ลงวันที่ 5 พฤษภาคม 2564, นายเจมส์ (นามสมมุติ) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.213/2564 ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2564, นายเอกบดินทร์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.14/2564 ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 


          สืบเนื่องมาจากเมื่อประมาณปลายปี 2563 นายสตีฟ ได้ติดต่อขอซื้อถุงมือกับทางบริษัทฯ แห่งหนึ่ง ซึ่งบริษัทของผู้เสียหายได้รับแต่งตั้งให้เป็นคู่เจรจาในการทำธุรกิจ แต่ระหว่างการติดต่อทำธุรกิจกันมีความขัดแย้งกันระหว่างสองบริษัทฯ ทำให้บริษัทของนายสตีฟได้รับความเสียหายมูลค่า 93  ล้านบาท จึงว่าจ้างนายเจมส์ ซึ่งเปิดบริษัทนักสืบเอกชนอยู่ในประเทศไทยติดตามทรัพย์สินคืนจากบริษัทคู่กรณี 


          นายเจมส์ กับพวก ได้วางแผนติดต่อนัดหมายผู้เสียหาย อ้างว่าต้องการสั่งซื้อถุงมือยาง มีการนัดเจอกันในครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564 และมีการนัดเจอกันอีกครั้งเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ เมื่อถึงเวลานัดหมาย มีกลุ่มผู้ต้องหาอีกประมาณ 10 คน เข้ามาล็อกตัวผู้เสียหายพร้อมใส่กุญแจมือ แล้วนำตัวออกจากร้านไปยังห้องพักรายวันแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท 36  ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 200 เมตร


          ระหว่างที่ถูกคุมตัวอยู่ในห้องเช่า ผู้เสียหายถูกกลุ่มคนร้ายข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย และกลุ่มคนร้ายได้ใช้โทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย โทรศัพท์ติดต่อไปยังหัวหน้าบริษัทฯ เพื่อเรียกเงินจำนวน 2 ล้านดอลลาร์ และติดต่อไปยังญาติผู้เสียหาย เพื่อเรียกเงิน 1 ล้านดอลลาร์ (รวมเป็นเงินประมาณ 93 ล้านบาท) แต่ทางหัวหน้าบริษัทฯ และญาติของผู้เสียหายไม่ได้ทำตามข้อตกลง และได้ขอความช่วยเหลือไปยังสถานทูตและเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลุ่มคนร้ายจึงได้รีบพาตัวผู้เสียหายออกจากห้องเช่าไปยังร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท 24 โดยในร้านอาหาร ผู้เสียหายได้พบกับนายสตีฟ ซึ่งบอกให้ผู้เสียหายติดตามเงินที่บริษัทของนายสตีฟ ได้รับความเสียหายจากการติดต่อทำธุรกิจถุงมือยางกับบริษัทของผู้เสียหายมาคืน จากนั้นได้นำตัวผู้เสียหายไป สน.ทองหล่อ เพื่อลงบันทึกประจำวัน ว่าผู้เสียหายจะไม่ติดใจเอาความกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทางผู้เสียหายไม่ยอมลงชื่อแต่อย่างใด กลุ่มผู้ต้องหาจึงได้ปล่อยตัวผู้เสียหายไป


          ภายหลังทางผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้าย


          จากพฤติการณ์การกระทำความผิดของกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งได้กระทำการอย่างอุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย มีการกระทำเป็นขบวนการของกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ กระทำการเป็นขั้นตอน มีการวางแผนและแบ่งหน้าที่กันทำอย่างรัดกุม และมีการร่วมมือกับเจ้าพนักงานของรัฐ (เจ้าหน้าที่ตำรวจ) ร่วมกระทำความผิดในครั้งนี้ หากปล่อยทิ้งไว้ไม่ดำเนินการอย่างเด็ดขาดและจริงจัง จะทำให้สังคมไทยปราศจากความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว


          ซึ่งผู้ต้องหากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันเรียกค่าไถ่,พยายามฆ่า,อั้งยี่,ช่องโจร,ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการ ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกชมขืนใจต้องกระทำการนั้นไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยมีอาวุธ ร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปโดยอ้างอำนาจอั้งยี่หรือช่องโจร ไม่ว่าอั้งยี่หรือช่องโจรนั้นจะมีอยู่หรือไม่,หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย,ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”


          เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการติดตามจับกุมผู้ต้องหารายอื่นๆที่ยังคงหลบหนีอยู่มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว


...
ข่าวทั้งหมด

X