+++เกิดเหตุรถขนก๊าซหุงต้มระเบิด และมีเพลิงลุกไหม้ ด้านหน้าโรงพยาบาลแม่และเด็กในเขตกัวฮิมัลปา ทางตะวันตกของกรุงเม็กซิโกซิตี้ ของเม็กซิโก เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. วันพฤหัสบดี ตามเวลาท้องถิ่น หรือเมื่อเวลา 20.00 น. เมื่อคืนนี้ ตามเวลาประเทศไทย ทำให้อาคารโรงพยาบาลพังถล่มเสียหายกว่า 3 ใน 4 ส่วน และมีกลิ่นก๊าซรั่ว อบอวลไปทั่วบริเวณ มีรายงานผู้เสียชีวิตยังสับสนอยู่ที่อย่างน้อย 4 - 7 ศพ มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 66 คน ในจำนวนนี้ส่วนมากเป็นเด็ก เจ้าหน้าที่เร่งนำส่งผู้บาดเจ็บและอพยพผู้ป่วยของโรงพยาบาล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กและทารกแรกเกิดไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง แต่ยังคงติดปัญหาเรื่องจำนวนรถพยาบาลไม่เพียงพอ ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมสุนัขดมกลิ่น เร่งเข้าตรวจสอบซากอาคารเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต
+++โรงพยาบาลแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยของชนชั้นกลาง ซึ่งมีบ้านเรือนตั้งอยู่รายล้อมและมีโรงเรียนในบริเวณใกล้เคียง นายอิสมาเอล การ์เซีย วัย 27 ปี ชาวบ้านในละแวกนั้นซึ่งเป็นพยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ตัวเองและเพื่อนบ้านช่วยทารกออกมาได้ 8 คน ในขณะที่เกิดเหตุรถขนก๊าซคันดังกล่าว
+++เจ้าหน้าที่ เปิดเผยว่า เหตุเกิดขณะที่คนงานกำลังถ่ายก๊าซจากถังเก็บบนรถไปยังห้องครัวของโรงพยาบาล จากนั้นสายยางเกิดรั่วและคนงานไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้จนเกิดระเบิดในที่สุด ซึ่งยังคงต้องรอผลการสืบสวนอย่างเป็นทางการต่อไป คนงานและคนขับรถก๊าซรวม 3 คน อยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่แล้ว โดย 2 ใน 3 คนได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
+++ด้านนายเอนริเก เปนา นีเอโต ประธานาธิบดีเม็กซิโก แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียหาย พร้อมสั่งการทหารลงพื้นที่ช่วยค้นหาผู้รอดชีวิตอย่างเร่งด่วน ในช่วงไม่กี่ปีเกิดเหตุโศกนาฏกรรมก๊าซระเบิดบ่อยครั้งในเม็กซิโก เช่นเมื่อปีที่แล้ว เกิดก๊าซรั่วที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่งในรัฐตาเมาลีปัส ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ และเกิดระเบิด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ
+++กรณีเครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกล 2 ลำของรัสเซีย บินเฉียดใกล้น่านฟ้าของอังกฤษ ทำให้อังกฤษเรียกตัวเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำลอนดอนเข้าพบ และขอให้ชี้แจง ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนเส้นทางการบินเครื่องบินพลเรือนเพื่อป้องกันเหตุร้าย ความเคลื่อนไหวเรียกตัวทูตเข้าชี้แจงครั้งนี้มีขึ้นหลังจากเกิดเหตุลักษณะแบบเดียวกันมาแล้วหลายรอบ และยังมีขึ้นท่ามกลางความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างอังกฤษกับรัสเซียต่อความขัดแย้งในยูเครน
+++กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ ออกแถลงว่า การบินหลบหลีกของเครื่องบินรัสเซีย เป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบปฏิบัติการนอกพื้นที่ของเครื่องบินรัสเซียที่พบเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ แม้เครื่องบินทั้ง2 ลำของรัสเซียไม่ได้เข้ามาในน่านฟ้าของอังกฤษ และถูกเครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศเข้าประกบตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในพื้นที่ผลประโยชน์ของอังกฤษ แต่ได้ทำให้เกิดความวุ่นวายด้านการบินพลเรือน จึงทำให้ต้องเรียกเอกอัครราชทูตรัสเซียเข้าพบ
+++หิมะที่ตกลงมาอย่างหนักในอังกฤษ ทำให้ท่าอากาศยานแมนเชสเตอร์ ต้องยกเลิกเที่ยวบินโดยสารเข้า-ออกจำนวนมาก และการสัญจรบนนถนนและทางรถไฟหลายสายถูกปิด ทั่วภาคเหนือและภาคตะวันตกของอังกฤษ ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ ออกประกาศเตือนภัยในระดับ เตรียมพร้อม รับมือภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น มีรายงานโรงเรียนหลายสิบแห่งในเขตคัมเบรีย ทางเหนือของเกาะอังกฤษ และในไอร์แลนด์เหนือ ปิดการเรียนการสอน บริการรถบัสโดยสารประจำทางในเมืองเชฟฟีลด์หลายสายได้รับผลกระทบ นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ ประกาศให้ประชาชนสนใจติดตามรับฟังการประกาศของทางการเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ พร้อมกับสั่งหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง ให้รายงานสถานการณ์เป็นระยะ
+++ความคืบหน้าเพิ่มเติมสถานการณ์กลุ่มก่อการร้ายไอเอส ข่มขู่สังหารตัวประกันชาวญี่ปุ่นและชาวจอร์แดน เพื่อแลกกับการปล่อยตัวมือระเบิดหญิงชาวอิรัก มีรายงานว่า นายโมฮัมเหม็ด อัล-โมมานี โฆษกรัฐบาลจอร์แดน แถลงไม่นานก่อนถึงเส้นตายแลกตัวประกันที่ไอเอสกำหนดไว้ ว่า นางซาจิดา อัลริชามี ที่กลุ่มก่อการร้ายต้องการตัว ยังคงอยู่ในจอร์แดน เพราะทางการต้องการข้อพิสูจน์เพื่อยืนยันให้แน่ใจก่อนว่า ร.ท.โมอาซ อัลคาซซาสเบห์ ยังมีชีวิตอยู่ ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการเจรจาเรื่องการแลกเปลี่ยนตัวประกันต่อไป
+++เอเอฟพี รายงานอ้างแหล่งข่าวศาลความมั่นคงแห่งรัฐของจอร์แดนว่า ศาลได้อนุมัติหมายจับกุมนายฮาชิม อัลคาลิดี เจ้าของเว็บไซต์ซารายา นิวส์ และนายเซอิฟ โอเบดัต บรรณาธิการข่าว พร้อมทั้งสั่งปิดเว็บไซต์ ฐานปล่อยข่าวลือว่า นางอัลริชามี นักโทษชาวอิรักได้รับการปล่อยตัวแล้ว เพื่อแลกกับตัวประกันชาวญี่ปุ่นคือนายเคนจิ โกโตะ
+++ด้านหนังสือพิมพ์เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส ของสหรัฐฯ รายงานอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดรัฐบาลจอร์แดน เปิดเผยว่า การเจรจาครั้งนี้มีทีท่าว่าจะล้มเหลว ขณะที่ล่วงเลยกำหนดเส้นตายช่วงพลบค่ำวันพฤหัสบดี ตามเวลาท้องถิ่นอิรัก หรือประมาณ 21.30 - 22.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย มาแล้ว แต่ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
+++ก่อนหน้านี้ กลุ่มไอเอสเสนอเงื่อนไขว่า หากนางอัลริชามี ได้รับการปล่อยตัว ทางไอเอส ก็จะปล่อยตัวนายโกโตะ เป็นอิสระเช่นกัน และจะไม่สังหาร ร.ท.อัลคาซซาสเบห์ นักบินจอร์แดน โดยไม่เคยระบุว่าจะปล่อยตัว ร.ท.อัลคาซซาสเบห์ ด้วย
+++ขณะที่ เงื่อนไขของรัฐบาลจอร์แดนคือการที่ ร.ท.อัลคาซซาเบห์ ได้รับการปล่อยตัวอย่างปลอดภัย โดยไม่ได้มีการเอ่ยถึงตัวประกันชาวญี่ปุ่น มีการวิเคราะห์ว่า หากจอร์แดน ยอมแลกนักโทษหญิงกับนักบินชาวจอร์แดนที่ไอเอสควบคุมตัวอยู่จะนับเป็นการยอมอ่อนข้อให้กลุ่มก่อการร้ายครั้งใหญ่ ทั้งนี้ จอร์แดนเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ ในการทำสงครามกวาดล้างกลุ่มไอเอสในอิรักและซีเรีย ขณะที่สหรัฐฯ คัดค้านการเจรจาต่อรองกับกลุ่มก่อการร้ายทุกรูปแบบ
+++นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่น ยังหารือเรื่องนี้กับตุรกีและอิสราเอลให้ช่วยด้วย
+++สำหรับนางอัลริชามี พยายามก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งในกรุงอัมมาน นครหลวงของจอร์แดน เมื่อ 10 ปีก่อน แต่ไม่สำเร็จ ขณะที่สามีของเธอ ซึ่งเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตายเช่นกัน เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 60 ศพ นางอัลริชามี ยังมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับแกนนำอัลกออิดะห์ในอิรัก ที่ต่อมาได้พัฒนามาเป็นกลุ่มก่อการร้ายไอเอส
+++ไปที่อัฟกานิสถาน เกิดเหตุมือระเบิดพลีชีพชาย รายหนึ่ง ที่เชื่อว่าเป็นสมาชิกกลุ่มตอลีบัน บุกดึงชนวนระเบิดสายคาดที่ซ่อนในร่าง กลางงานศพ ในเมืองมีห์ตาร์ลัม เมืองเอกของจังหวัดลัคมาน ทางภาคตะวันออก แรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 ศพ เป็นชาวบ้าน 12 ศพ ตำรวจ 4 นาย และได้รับบาดเจ็บ 39 คน นายซาร์ฮาดี ซาวัค โฆษกผู้ว่าการจังหวัดลัคมาน เปิดเผยว่า เหตุเกิดขณะที่ประชาชนท้องถิ่นจำนวนมาก เข้าร่วมพิธีศพนายตำรวจของเมืองนายหนึ่ง
+++สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า รัฐบาลฝ่ายขวาพรรคภาราติยะ ชนตะ (บีเจพี) ของอินเดีย สั่งยกเลิกสมาชิกภาพสนามกอล์ฟระดับหรู "เดลี กอล์ฟ คลับ" ในกรุงนิวเดลี สำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูง ทั้งที่ยังรับราชการและเกษียณแล้ว เป็นส่วนหนึ่งของการกวาดล้างการทุจริตเวลาราชการ เจ้าหน้าที่หนีงานไปเล่นกอล์ฟ กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในวงกว้าง รัฐบาลชุดปัจจุบันของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี สั่งยกเลิกสมาชิกภาพไปแล้ว 20 ราย และกำลังจะยกเลิกอีก 30 ราย โดยให้เหตุผลว่า ขัดต่อระเบียบกฎเกณฑ์
+++คณะกรรมการความปลอดภัยการคมนาคมแห่งชาติของอินโดนีเซีย แถลงรายงานสอบสวนเบื้องต้นที่กรุงจาการ์ตา ว่า นายเรมี เปลเซล นักบินผู้ช่วยชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ขับเครื่องบินในช่วงที่เครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์เที่ยวบิน MH370 หายเมื่อวันที่ 8 มีนาคมปีก่อน ขณะที่นายอิเรียนโต กัปตันชาวอินโดนีเซีย ประสบการณ์สูงคอยสังเกตการณ์ และเครื่องบินไต่ระดับขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 32,000 ฟุตเป็น 37,400 ฟุตในเวลา 30 วินาทีก่อนดิ่งลงมาที่ระดับเดิม แล้วร่วงอยู่ประมาณ 3 นาที ซึ่งเป็นช่วงที่กล่องดำทั้งสองกล่องหยุดทำงาน สอดคล้องกับที่รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมแถลงไปก่อนหน้านี้ คณะกรรมการเปิดเผยว่า น่านฟ้าบริเวณที่เกิดเหตุมีกลุ่มเมฆก้อนใหญ่คล้ายภูเขา ก่อตัวในแนวตั้ง และเป็นเมฆที่ทำให้เกิดฝนฟ้าคะนอง โดยในช่วงเวลานั้นมีความสูงถึง 44,000 ฟุต แต่ไม่ได้ระบุว่าเครื่องบินบินฝ่ากลุ่มเมฆนี้หรือไม่ ขณะที่พบแล้ว 72 ศพจากผู้อยู่บนเครื่องบินทั้งหมด 162 คน
+++เหตุนักศึกษาวิทยาครูเม็กซิโก 43 คนหายไปเมื่อเดือนก.ย.ที่เมืองอิกัวลา ในรัฐเกร์เรโร ทางใต้ ขณะโดยสารรถกลับจากการระดมทุน และถูกตำรวจพัวพันแก๊งอาชญากรรมยิงรถและจับตัวไป อัยการสูงสุดประกาศจะฟ้องตำรวจ นายตำรวจและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีส่วนพัวพันในคดีนี้ในข้อหาทำให้หายสาบสูญโดยการบังคับ จนถึงขณะนี้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยแล้วเกือบ 100 คน รวมถึงนายกเทศมนตรีเมืองอิกัวลาด้วย ล่าสุด คณะกรรมการสหประชาชาติว่าด้วยการหายสาบสูญโดยถูกบังคับจะสอบสวนเม็กซิโกเป็นครั้งแรกเรื่องนักศึกษาหายไป 43 คนตั้งแต่ปีก่อนและสันนิษฐานว่าถูกฆาตกรรมเสียชีวิตแล้ว สหประชาชาติ (ยูเอ็น) แถลงว่า คณะกรรมการจะหารือกับเม็กซิโกที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ระหว่างวันที่ 2-3 ก.พ. เม็กซิโกและอีก 43 ประเทศได้ให้สัตยาบันสนธิสัญญานี้ ด้านผู้ปกครองของนักศึกษาที่หายไปจะส่งตัวแทนเข้าพบคณะกรรมการยูเอ็น ขณะที่รัฐบาลเม็กซิโกแถลงมั่นใจว่า นักศึกษาเหล่านี้ถูกกลุ่มมือปืนของแก๊งยาเสพติดสังหารแล้ว แม้ว่ามีการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอได้เพียงศพเดียว