หลังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ออกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ที่ 13/2564 เรื่องการป้องกันการระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2564ระบุให้ผู้ที่มีความเสี่ยงตามความเห็นของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และถ้าหากฝ่าฝืนจะมีโทษตามมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อ พ.ศ.2558 นั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ยังไม่เห็นประกาศแต่ผู้ว่าราชการจังหวัดมีสิทธิวางนโยบายเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในจังหวัดของตัวเอง
ทั้งนี้ ศบค.เป็นผู้ดูแลสถานการณ์ ส่วน สธ.เป็นผู้สนับสนุนภารกิจ ทั้งเวชภัณฑ์ วัคซีนก็ดี การป้องกัน การรักษา และการทำให้เกิดความปลอดภัยจากการระบาด
ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นคำสั่งให้มีประกาศ เนื่องจากก่อนหน้านี้ตัวเลขลงทะเบียนรับวัคซีนผ่านไลน์ “หมอพร้อม” น้อยมากแค่หลักพันราย ทั้งๆ ที่เป็นพื้นที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าโยง วันนี้รัฐมนตรีไม่ใช่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ต้องดูแลคนทุกคนในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหน หน่วยไหน ถ้าคิดเป็นการเมือง โดยเอาสุขภาพประชาชน มาเป็นข้อต่อรอง มาชิงไหวชิงพริบกันทางการเมือง ประเทศอยู่ไม่ได้ ตัวรัฐมนตรีก็อยู่ไม่ได้ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายการบริหารราชการแผ่นดิน
ทั้งนี้ สธ.ดำเนินการควบคุมโรคโควิด-19 ภายใต้การดำเนินงานของ ศบค. ตามขอบข่ายกฎหมาย ทั้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด สามารถออกกฎเกณฑ์ วางนโยบาย ควบคุมโรคภายในจังหวัดให้มีความปลอดภัยได้ภายใต้ขอบข่ายของกฎหมาย
ส่วนการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 สธ.ต้องได้รับการร้องขอจากทางจังหวัด องค์กรต่างๆ ผ่าน ศบค.เพื่อให้เร่งจัดส่งวัคซีนไปอย่างทันท่วงที ให้ครอบคลุมและเพียงพอ