แพทย์สหรัฐฯ เตือนการเฝ้าระวังหลังผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด เด็กเล็กต้องสวมหน้ากากอนามัย

          กรณีที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา หรือซีดีซี ออกคำแนะนำว่าผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบถ้วนแล้วไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยในบางพื้นที่ นพ.แอนโทนี ฟาวซี ที่ปรึกษาอาวุโสของทำเนียบขาวและผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่าผู้ประกอบการธุรกิจร้านค้าสามารถกำหนดมาตรการเรื่องการสวมหน้ากากเมื่อเข้าใช้บริการหรือจัดเตรียมหน้ากากอนามัยสำรองไว้ หากไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าลูกค้าได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วจริงหรือไม่ มาตรการนี้ยังต้องขึ้นอยู่กับความซื่อสัตย์ของบุคคล ที่จะบอกว่าพวกเขาได้รับวัคซีนครบแล้วจริงหรือไม่ และมีความรับผิดชอบมากพอที่จะสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตัวเองและผู้อื่น โดยในเวลานี้ยังมีมหาวิทยาลัยหลายแห่งที่ออกประกาศว่านักศึกษาที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้วสามารถกลับเข้าชั้นเรียนตามปกติได้ ซึ่งแม้ว่าจะเป็นมาตรการที่สามารถกำหนดได้ แต่ก็เตือนว่าการตั้งเกณฑ์ตัดสินผู้อื่นจากการฉีดวัคซีนอาจกลายเป็นการสร้างความอึดอัดไม่สบายใจ และอาจนำไปสู่การต่อต้าน ผู้ออกมาตรการจึงต้องมีความระมัดระวังในการบังคับ ตรวจสอบ รวมถึงการย้ำเตือนว่าการไม่สวมหน้ากากอนามัยจะทำให้กลุ่มที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนมีความเสี่ยงติดเชื้อได้

          และจากโครงการฉีดวัคซีนที่มีการขยายกลุ่มอายุผู้รับลงวัคซีนลงมาที่ระดับอายุ 12 ปีแล้วนั้น นพ.ฟาวซี กล่าวว่า ในกลุ่มเด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่าเกณฑ์การรับการฉีดวัคซีนยังต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในบ้านและในที่อื่น ๆ โดยในเวลานี้ผู้ผลิตวัคซีนกำลังมีการทดสอบวัคซีนในกลุ่มเด็กอายุ 6 ถึง 9 ปี, อายุ 2 ถึง 6 ปี และทารก ซึ่งคาดว่าจะขอให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา หรือเอฟดีเอ อนุมัติให้มีการฉีดวัคซีนในเร็วๆ นี้

          สหรัฐฯมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปแล้ว 266,596,486 โดส หรือประมาณร้อยละ 78.6 ของปริมาณ 339,165,445 โดส ที่มีการแจกจ่ายจากส่วนกลาง

          เฉพาะในวันพุธ (12 พ.ค.) มีการฉีดวัคซีนมากกว่า 1,900,000 โดสและปริมาณเฉลี่ย 7 วันอยู่ที่วันละ 2,088,962 โดส

          ประชาชนมากกว่า 154 ล้านคนได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งครั้งและ 118 ล้านคนได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว

...