ทีมพูดคุยของเจ้าหน้าที่ทหาร กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.) กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 เชิญนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรมว.ศึกษาธิการ และอดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เข้ามาพูดคุยหารือภายในกองทัพภาคที่ 1 เพื่อทำความเข้าใจและขอร้องเรื่องการแสดงความคิดเห็นไม่ให้เป็นไปในเชิงการสร้างความแตกแยกโดย นายจาตุรนต์ เปิดเผยว่า มาตามคำเชิญที่ได้รับแจ้ง และยินดีให้ความร่วมมือ แต่ไม่ทราบว่าจะมีการพูดคุยเรื่องอะไร ส่วนตัวมองว่าไม่น่าจะมีการกักตัว และหากจะมีการพูดคุยเพื่อขอความเห็นอะไรก็พร้อมให้ความเห็น เพราะก็ได้ให้ความเห็นเรื่องการเมือง ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปมาโดยตลอด ส่วนหลังเข้าพบ คสช.แล้ว จะแสดงความคิดเห็นอีกหรือไม่นั้น มองว่า ขณะนี้ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และกรรมาธิการ(กมธ.)ยกร่างรัฐธรรมนูญ อยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็น จึงเห็นว่า การแสดงความคิดเห็นในช่วงนี้เป็นเรื่องที่ดี และน่าจะเป็นประโยชน์ ส่วนความกังวลว่าจะถูกดำเนินคดีในศาลทหารอีกหรือไม่ นายจตุรนต์ ระบุว่า ต้องดูว่าตัวเองทำอะไรที่จะนำไปสู่การตั้งข้อหาหรือไม่ แต่ส่วนตัวก็ไม่ได้ทำผิดเงื่อนไขการประกันตัว อีกทั้งมองว่า การเข้าไปพูดคุยในครั้งนี้ ไม่น่าจะถูกสั่งให้เลิกพูดเรื่องการเมือง เจ้าหน้าที่ทหารได้นำรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีดำ ทะเบียน ตม1759 กรุงเทพมหานคร มารับนายจตุรนต์ ขึ้นรถและขับพาเข้าไปในภองทัพภาคที่1ทันที
ด้านนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรมว.ต่างประเทศ ได้เดินทางไปยังกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 เพื่อพูดคุยและทำความเข้าใจกับทีมทหารจาก กกล.รส. ตามคำเชิญของพล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่1 ในฐานะผบ.กกล.รส. หลังจากที่นายสุรพงษ์ได้แสดงความคิดเห็นทางการเมือง โดยใช้เวลาพูดคุยประมาณ 3 ชั่วโมง ก็ได้ให้นายสุรพงษ์เดินทางกลับ มีรายงาน จากกองทัพภาคที่ 1 ยืนยันว่า ทหารไม่ได้เข้ารวบตัวหรือหิ้วตัวนายสุรพงษ์ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านเมืองทองธานี ตามกระแสข่าวก่อนหน้านี้ แต่เป็นการนัดหมายเวลาล่วงหน้าแล้ว ส่วนในวันพรุ่งนี้ พล.ท.กัมปนาท ยังได้เชิญนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง เข้ามาหารือกับทีมทหารกกล.รส. ในเวลา 09.00 น. เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจด้วยเช่นกัน
สานนท์