คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจัดการประชุมฉุกเฉินอีกครั้งในวันพุธ (12 พ.ค.) เกี่ยวกับเหตุรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ครั้งล่าสุด แต่ยังคงไม่สามารถออกถ้อยแถลงได้แม้ว่าสมาชิก 14 ใน 15 ประเทศเห็นด้วยกับแถลงการณ์ร่วมลดความตึงเครียดในตะวันออกกลาง แต่สหรัฐฯที่เป็นสมาชิกถาวรมีความเห็นว่าถ้อยแถลงนี้ไม่สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ ต่อเนื่องจากการประชุมฉุกเฉินครั้งแรกในวันจันทร์ (10 พ.ค.) สหรัฐฯปฏิเสธที่จะสนับสนุนข้อความที่เสนอโดยตูนิเซีย นอร์เวย์และจีน ซึ่งเรียกร้องให้ทุกฝ่ายละเว้นจากการยั่วยุ
กลุ่มสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงฯ 4 คนจากยุโรปคือ นอร์เวย์, เอสโตเนีย,ฝรั่งเศสและไอร์แลนด์ ออกแถลงการณ์ร่วมของตนเอง โดยประณามกลุ่มฮามาสและกลุ่มติดอาวุธอื่น ๆ ที่ยิงจรวดจากฉนวนกาซาโจมตีพลเรือนในอิสราเอล ว่าเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้โดยสิ้นเชิงและต้องหยุดทันที นอกจากนี้การที่อิสราเอลโจมตีฉนวนกาซาทำให้มีพลเรือนจำนวนมากรวมถึงเด็ก เป็นสิ่งที่น่ากังวลและไม่อาจยอมรับได้ พวกเขายังเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการตั้งถิ่นฐาน การรื้อถอนและการขับไล่ในพื้นที่เยรูซาเล็มตะวันออก
ด้านนายริชาร์ด มานซูร์ เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำสหประชาชาติ ยื่นหนังสือขอให้จัดการประชุมอีกครั้ง ในรูปแบบของการประชุมสาธารณะซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) โดยมีจีนทำหน้าที่ประธานคณะมนตรีความมั่นคง โดยในจดหมายได้ขอร้องให้สหประชาชาติ ดำเนินการด้วยความรวดเร็วเพื่อให้อิสราเอลยุติการโจมตีต่อพลเรือนชาวปาเลสไตน์รวมทั้งในฉนวนกาซา ทั้งเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการกระทำผิดกฎหมายในดินแดนยึดครอง
....